https://lentera.uin-alauddin.ac.id/question/gratis-terlengkap/https://old-elearning.uad.ac.id/gampang-menang/https://fk.ilearn.unand.ac.id/demo/https://elearning.uika-bogor.ac.id/tanpa-potongan/https://e-learning.iainponorogo.ac.id/thai/https://organisasi.palembang.go.id/userfiles/images/https://lms.binawan.ac.id/terbaik/https://disperkim.purwakartakab.go.id/storage/https://pakbejo.jatengprov.go.id/assets/https://zonalapor.fis.unp.ac.id/-/slot-terbaik/https://sepasi.tubankab.go.id/2024tte/storage/http://ti.lab.gunadarma.ac.id/jobe/runguard/https://satudata.kemenpora.go.id/uploads/terbaru/
การขับรถในช่วงฝนตกอย่างปลอดภัย MUSLIMTHAIPOST

 

การขับรถในช่วงฝนตกอย่างปลอดภัย


1,642 ผู้ชม

ฤดูฝนนอกจากจะทำให้เราเปียกปอน เฉอะแฉะแล้ว เมื่อฝนโปรยปรายลงมาเวลาเราขับรถ ยิ่งทำให้ถนนลื่น ทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางก็ไม่ชัดเจน อาจทำให้เกิดอันตรายได้...


การขับรถในช่วงฝนตกอย่างปลอดภัย

การขับรถในช่วงฝนตก

การเปิดใช้ที่ปัดน้ำฝน ปรับระดับความเร็วของที่ปัดน้ำฝนให้สอดคล้องกับความแรงและปริมาณฝนที่ตกลงมา รวมถึงฉีดน้ำล้างกระจกทุกครั้งเมื่อเปิดใช้งานที่ปัดน้ำฝน จะช่วยชะล้างคราบฝุ่นละอองและลดการเสียดสีกับกระจกทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางชัดเจนขึ้น

การใช้ความเร็ว ควรลดระดับความเร็วให้สอดคล้องกับสภาพถนนและปริมาณฝนที่ตกลงมา ขับรถให้ช้ากว่าปกติประมาณ 3 ใน 4 ของความเร็วปกติ โดยเฉพาะหลังฝนตกใหม่ เพราะผิวถนนจะมีสภาพเป็นทางโคลนจึงเป็นช่วงที่รถเสี่ยงต่อการลื่นไถลมากกว่าปกติ 

เพื่อความปลอดภัย ควรขับรถในระดับความเร็วไม่เกิน 60 กม./ชม.

  เพื่อป้องกันรถเกิดอาการเหินน้ำ ที่สำคัญควรรักษาความเร็วในระดับที่สามารถควบคุมรถได้ จะช่วยให้รถยึดเกาะถนนได้ดีขึ้นสามารถหยุดรถและมีเวลาเพียงพอในการแก้ไขสถานการณ์ได้ทันที ที่เกิดเหตุฉุกเฉิน

  การเว้นระยะห่าง ไม่ขับรถชิดท้ายรถคันหน้ามากเกินไป เว้นระยะห่างให้มากกว่าปกติประมาณ 15 เมตรโดยเฉพาะรถขนาดใหญ่ ควรทิ้งช่วงจากรถคันอื่นให้มากกว่า 15 เมตร จะช่วยให้มีระยะทางในการหยุดรถได้อย่างปลอดภัย

  การเปลี่ยนช่องทาง ขับรถในช่องทางของตนเอง ไม่เปลี่ยนช่องทางกะทันหันไม่แซงรถคันอื่น ในระยะกระชั้นชิด พร้อมเปิดสัญญาณไฟทุกครั้งที่เปลี่ยนช่องทาง รวมถึงเพิ่มความระมัดระวัง เมื่อขับรถผ่านทางร่วมและทางแยกเพราะมีจราจรคับคั่ง เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย

การหยุดรถ ให้ค่อยๆ ถอนคันเร่งเพื่อลดระดับความเร็วของรถ ไม่เหยียบเบรกให้รถหยุดกะทันหัน โดยเฉพาะเมื่อขับผ่านบริเวณที่มีแอ่งน้ำหรือน้ำท่วมขัง เพื่อป้องกันรถเหินน้ำ ทำให้ล้อล็อก จนรถเสียการทรงตัว ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุได้

การใช้สัญญาณไฟ เปิดไฟหน้ารถแม้จะเป็นช่วงเวลากลางวัน จะทำให้มองเห็นเส้นทางชัดเจนขึ้น และรถคันอื่นมองเห็นรถเราได้จากระยะไกล ไม่ควรใช้ไฟหรี่เพราะแสงไฟที่ส่องสว่างไม่เพียงพอ ต่อการมองเห็นเส้นทางรวมถึงไม่เปิดใช้สัญญาณไฟสูง เพราะแสงไฟที่กระทบกับน้ำฝนจะส่องเข้าตา ผู้ที่ขับรถสวนทางมาโดยเฉพาะในช่วงกลางคืนที่มีฝนตกหนักหรือถนนมีน้ำเฉอะแฉะ ควรเปิดใช้ไฟตัดหมอกจะช่วยลดการสะท้อนของแสงไฟหน้ารถกับน้ำบนพื้นถนน ที่สำคัญห้ามเปิดไฟกะพริบหรือไฟฉุกเฉินเพราะจะสร้างความเข้าใจผิดแก่ผู้ร่วมใช้เส้นทาง ทำให้ไม่มีสัญญาณไฟเลี้ยวใช้ จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ

ข้อควรรู้ในการขับรถช่วงฤดูฝน

กรณีมีละอองฝ้าเกาะกระจกรถ หากเป็นกระจกหน้าหรือกระจกข้าง ให้ปรับอุณหภูมิภายในและนอกรถให้อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกันลดกระจกลงเล็กน้อย แต่หากยังมีละอองฝ้าเกาะกระจก ให้จอดรถในบริเวณที่ปลอดภัยและใช้ผ้าแห้งเช็ดกระจก กรณีเกิดฝ้าที่กระจกหลังรถ ให้เปิดปุ่มไล่ฝ้า จะช่วยไล่ละอองน้ำที่เกาะกระจกรถ ทำให้มองเห็นเส้นทางชัดเจนขึ้น

กรณีฝนตกหนักจนมองไม่เห็นเส้นทาง ควรจอดรถในบริเวณที่ปลอดภัย เช่น สถานีบริการน้ำมัน จุดพักรถริมทาง เป็นต้น รอจนฝนหยุดตกหรือมองเห็นเส้นทางชัดเจน ค่อยขับรถไปต่อ

หวังว่าวิธีการขับรถในช่วงฝนตกที่ได้กล่าวมาแล้วนี้ จะทำให้ทุกๆคนปลอดภัยจากการขับรถในช่วงหน้าฝนนี้กันนะคะ

ที่มา  https://www.thaijobsgov.com/jobs=4696


อัพเดทล่าสุด