อ่างขาง..เมื่อต้นหนาว ที่เชียงใหม่

อ่างขาง..เมื่อต้นหนาว

โดย... คอคคัส

แชะ!! กลุ่มคุณลุงคุณป้ากลุ่มหนึ่งดีใจกันใหญ่ที่สามารถถ่ายรูปที่มีฉากหลังเป็น น้ำพุร้อนที่พวยพุ่งขึ้นสูงเทียมต้นไม้ใหญ่ที่เหลือแต่เพียงกิ่งก้านดำๆ ได้ทันเวลาก่อนน้ำพุที่ถูกเปิดไว้จะหยุดลง                      ฉันและพี่ๆ มาแวะต้มไข่กันที่โป่งน้ำร้อนฝางก่อนที่จะแล่นรถขึ้นสู่ยอดดอยอ่างขาง  ที่นี่กว้างขวางมาก  มีน้ำพุร้อนพุ่งขึ้นอยู่ทั่วไป  พวกเราหอบไข่ไก่ที่ซื้อมาเอามาใส่ตะกร้า  มัดด้วยเชือก แล้วเอาหย่อนลงในน้ำพุร้อน  รอประมาณ 20 นาที เราก็ได้กินไข่ต้มที่มีเนื้อไข่แดงหยาดเยิ้ม (แต่เวลาแกะนั้นลำบากกันนิดนึงเพราะไข่ติดเปลือก) เหยาะด้วยซอสแม็กกี้ เค็มๆ มันๆ อร่อยเหลื้อเกิน                    ในตอนบ่ายแก่ๆ พวกเราก็เดินทางขึ้นสู่ดอยอ่างขาง  ช่วงที่รถแล่นอยู่บนพื้นราบนั้นอากาศยังไม่หนาวสักเท่าไร  แต่พอรถขึ้นไปตามถนนที่พับได้ของยอดดอยอ่างขางมากเท่าใด  ความเย็นยะเยือกก็พัดโชยเข้ามาสัมผัสกายของพวกเรามากเท่านั้น (อยากใกล้ชิดธรรมชาติ จึงพากันมานั่งหลังกระบะ)  วิวจากข้างบนนี้สวยมากๆ และสูงมากด้วย  สามารถมองเห็นอำเภอฝางได้ไกลสุดสายตา  ไม่นานนักเราก็มาถึงที่พัก  ซึ่งเป็นรีสอร์ทของหน่วยจัดการต้นน้ำแม่เผอะ (อ่างขาง)                     อากาศบนนี้แม้จะหนาวไม่เท่าช่วงปีใหม่ แต่ก็หนาวมากทีเดียว  เราพากันจุดเตาอั้งโล่ที่ได้รับความอนุเคราะห์จากเจ้าหน้าที่ของหน่วยจัดการ ต้นน้ำฯ  แม้ว่าเวลาจะเพิ่ง 6 โมงเย็น  แต่ตะวันก็ลาลับขอบฟ้าไปอย่างรวดเร็ว  จากนั้นเราก็มาตั้งวงและตั้งหน้าตั้งตากินเสบียงที่เราซื้อตุนมากันอย่าง เอร็ดอร่อย  นักท่องเที่ยวที่พักรีสอร์ทข้างๆ ก็ตั้งวงผิงไฟเหมือนกับเรา  ร้องเพลง และดีดกีต้าร์กันอย่างสนุกสนานจนดึก  พี่ฉันบอกว่าเขาร้องเพลงเพราะนะ แล้วแต่ละเพลงก็ดังๆ ทั้งนั้น  ทำให้ฉันเริ่มตั้งใจที่จะเงี่ยหูฟังพวกเขามากขึ้น  ว่าเพราะจริงอย่างว่าหรือเปล่าω  ยิ่งดึกก็ยิ่งหนาว  เสื้อกันหนาวนั้นก็ช่วยอะไรไม่ได้มากเลย  โชคดีที่รีสอร์ทมีผ้าห่มอยู่หลายผืน  จึงช่วยทำให้อบอุ่นขึ้นมาได้โข                   เมื่ออรุณรุ่ง..ขณะที่อากาศกำลังสดชื่น  เราได้นั่งทานมื้อเช้าที่แสนจะธรรมดา คือบะหมี่ กับโจ๊ก ซึ่งใส่ไข่ที่ต้มมาจากโป่งน้ำร้อน  แต่เมื่อได้จิบกาแฟอุ่นๆ นั่งมองป่าสน ท้องฟ้าสีน้ำเงินเข้มของฤดูหนาว และไอหมอกยามเช้าแล้ว  มื้อเช้ามื้อนี้ก็กลายเป็นมื้อวิเศษที่หาไม่ได้ง่ายๆ เลย  หลังจากทานมื้อเช้าแล้ว  พวกเราก็แล่นรถขึ้นสู่สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง  อากาศเริ่มอบอุ่นขึ้น  ที่นี่เราได้ชื่นชมพรรณไม้นานาชนิดที่แข่งกันเบ่งบานอวดสีสัน กระทั่งเที่ยง..เราก็ได้ฝากท้องไว้กับร้านอาหารริมน้ำกกร้านหนึ่งในอำเภอแม่ อาย  จากจุดนี้วิวสวยมากๆ  มองเห็นวัดท่าตอนบนเขาได้ชัดเจน                   สลับกัน..จากจุดชมวิววัดท่าตอน  เราก็สามารถมองเห็นร้านอาหารที่เพิ่งทานมาเมื่อกี้ได้อย่างชัดเจนเช่นกัน  วิวจากวัดท่าตอนชั้นที่ 9 สามารถมองเห็นแม่น้ำกกไหลคดเคี้ยวเป็นสายยาวไปไกลสุดลูกหูลูกตา ฉันเคยเห็นภาพวิวนี้ในยามกลางวัน และยามกลางคืนที่สวยมากเพราะประดับประดาด้วยแสงไฟจากเว็บไซต์ของ ททท.  แต่ภาพทิวทัศน์อันเขียวขจี  ทุ่งนาสีเหลือง  และเมืองเล็กๆบนที่ราบลุ่มซึ่งมีแม่น้ำกกตัดผ่าน โอบล้อมด้วยขุนเขาที่งดงามแห่งนี้  ฉันจะไม่ได้เห็นมันแค่ในภาพถ่ายอีกต่อไปแล้ว  เพราะมันอยู่ตรงหน้าฉันแล้ว..