จันทบุรี เมืองในตำนาน MUSLIMTHAIPOST

 

จันทบุรี เมืองในตำนาน


972 ผู้ชม


จังหวัดจันทบุรี เป็นจังหวัดทางชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกของประเทศไทย ทิศเหนือติดกับจังหวัดฉะเชิงเทรา สระแก้ว และปราจีนบุรี ทิศตะวันออกติดกับจังหวัดตราดและประเทศกัมพูชา ทิศใต้ติดกับอ่าวไทย และทิศตะวันตกติดกับจังหวัดระยองและชลบุรี อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ 245 กิโลเมตร สภาพพื้นที่มีทั้งป่าไม้ ภูเขา ที่ราบสูง ที่ราบลุ่มน้ำ และที่ราบชายฝั่งทะเล

จันทบุรี  เมืองในตำนาน

 ตำนานและความเป็นมา

จันทบุรีเป็นเมืองเก่าจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ เชื่อกันว่ามีอายุไม่ต่ำกว่า 1,000 ปี สร้างขึ้นโดยชนชาติ ชอง บางตำนานก็ว่าสร้างโดยชนชาติ ขอม หัวเมืองเดิมตามศิลาจารึกเรียกว่า "ควนคราบุรี" ชาวพื้นเมืองเรียกว่า "เมืองกาไว" ตามชื่อผู้ปกครอง เมืองจันทบุรีเดิมตั้งอยู่บริเวณหน้าเขาสระบาป มีชนพื้นเมืองเดิมอาศัยอยู่เรียกว่า ชาวชอง มีภาษาพูดเป็นภาษาของตนเองแตกต่างจากภาษาไทยและภาษาเขมร ผู้ครองเมืองที่ยิ่งใหญ่ในตำนานคือ พระเจ้าพรหมทัต (พ.ศ. 1349 - พ.ศ. 1399) ครั้นถึงปี พ.ศ. 1800 ได้มีการย้ายถิ่นฐานมาสร้างเมืองใหม่ที่บ้านหัววัง ตำบลพุงทลาย ซึ่งอยู่ใกล้กับแม่น้ำจันทบุรีในปัจจุบัน

ต่อมาปี พ.ศ. 2200 ได้ย้ายมาสร้างเมืองใหม่ที่บ้านลุ่ม อยู่ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำจันทบุรี ในปี พ.ศ. 2310 หลังจากกรุงศรีอยุธยาเสียกรุงให้แก่พม่า สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชได้เข้ายึดเมืองจันทบุรีเพื่อใช้เป็นแหล่งสะสมเสบียงอาหารและรวบรวมกำลังพลในการกอบกู้กรุงศรีอยุธยาคืนจากพม่า ในคราวนั้นเจ้าเมืองจันทบูรณ์ นามเจ้าขรัวหลาน (ยศเจ้าเมืองจันทบุรีเดิม) ชึ่งราษฎรเลือกขึ้นเมื่อเสียกรุงศรีอยุธยา โดยหวังว่า พระยาจันทบูรณ์ จะช่วยปกป้อง รักษาเมืองจันทบูรณ์ ให้อยู่รอดสืบต่อไป ได้ต่อต้านกองทัพของ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช โดย พระยาจันทบูรณ์ ได้พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้เมืองจันทบุรีอยู่รอดเป็นอิสระ รักษาแผ่นดินไว้ให้ชนชาติบูรพา แต่สุดท้ายก็ต้องปราชัยพ่ายแพ้แก่กองทัพของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช โดยพระองค์ทรงใช้พญาช้างศึกบุกชนกำแพงเมืองจนสามารถเข้าตีเมืองเอาไว้ได้สำเร็จ เจ้าเมืองจันทบูรณ์ได้หลบภัยไปอยู่อาณาจักรกัมพูชาจนถึงแก่อสัญกรรม เมืองจันทบุรีจึงตกเป็นของสยามนับแต่นั้นเป็นต้นมา

ต่อมาในปี พ.ศ. 2436 ฝรั่งเศสได้เข้ายึดเมืองจันทบุรีไว้นานถึง 11 ปี[2] จนไทยต้องยกดินแดนฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง (ลาว) ให้กับฝรั่งเศสเพื่อแลกเมืองจันทบุรีกลับคืนมา ต่อมามีการจัดระเบียบบริหารราชการส่วนภูมิภาคเป็นแบบมณฑลเทศาภิบาล จัดตั้งมณฑลจันทบุรี โดยมีเมืองจันทบุรี ระยอง และตราดอยู่ในเขตการปกครองจนถึงปี พ.ศ. 2476 ภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตย จึงยกเลิกมณฑลเทศาภิบาลและได้จัดระเบียบบริหารราชการแผ่นดินใหม่ โดยแบ่งออกเป็นจังหวัดและอำเภอ ดังนั้นเมืองจันทบุรีจึงมีฐานะเป็นจังหวัดจนถึงปัจจุบันนี้

[แก้] ทำเนียบรายพระนามและรายนามผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี

ชื่อช่วงเวลาดำรงตำแหน่ง
1. พระภิรมย์ฯ
2. พระจันทบุรีศรีสมุทร์เขตต์
3. หม่อมเจ้านพมาศพ.ศ. 2459 - พ.ศ. 2469
4. พระยามานิตย์กุลพัทธพ.ศ. 2469-ธ.ค. 2471
5. พระพิสิษฏสุทธเลขา17 ธันวาคม พ.ศ. 2471-31 พฤษภาคม พ.ศ. 2477
6. พระนิกรบดี1 มิถุนายน พ.ศ. 2477-2 ธันวาคม พ.ศ. 2479
7. ขุนประสงค์สุขการี2 ธันวาคม พ.ศ. 2479-1 ธันวาคม พ.ศ. 2484
8. หลวงอรรถสิทธิสุนทร (ผวน ทองสยาม)2 ธันวาคม พ.ศ. 2484-2 ตุลาคม พ.ศ. 2485
9. หลวงอรรถเกษมเกษา (สวิง อรรถเกษม)3 ตุลาคม พ.ศ. 2485-1 มกราคม พ.ศ. 2487
10. ขุนรัฐวุฒิวิจารณ์ (สุวงศ์ รัฐวุฒิวิจารณ์)11 มกราคม พ.ศ. 2487-13 มิถุนายน พ.ศ. 2489
11. ชุบ พิเศษนครกิจ7 ตุลาคม พ.ศ. 2489-23 พฤษภาคม พ.ศ. 2492
12. ถนอม วิบูลมงคล24 พฤษภาคม พ.ศ. 2492-7 มกราคม พ.ศ. 2495
13. ขุนคำนวณวิจิตร (เชย บุนนาค)8 มกราคม พ.ศ. 2495-2 เมษายน พ.ศ. 2496
14. ขุนวรคุตตคณารักษ์3 เมษายน พ.ศ. 2496-18 มีนาคม พ.ศ. 2499
15. ผาด นาคพิน19 มีนาคม พ.ศ. 2499-12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2501
16. หม่อมเจ้าทองคำเปลว ทองใหญ่13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2501-28 กันยายน พ.ศ. 2507
17. ส่ง เหล่าสุนทร29 กันยายน พ.ศ. 2507-18 กรกฎาคม พ.ศ. 2512
18. จ.ต.ต. ชั้น สุวรรณทรรภ21 กรกฎาคม พ.ศ. 2512-25 ธันวาคม พ.ศ. 2514
19. วิชิต ศุขะวิริยะ26 ธันวาคม พ.ศ. 2514-6 ธันวาคม พ.ศ. 2516
20. บุญช่วย ศรีสารคาม7 ธันวาคม พ.ศ. 2516-30 กันยายน พ.ศ. 2519)
21. น.อ.จำลอง ประเสริฐยิ่ง ร.น.1 ตุลาคม พ.ศ. 2519-30 กันยายน พ.ศ. 2520
22. ประกิต อุตตะโมต1 ตุลาคม พ.ศ. 2520-14 ตุลาคม พ.ศ. 2521
23. พิบูลย์ ธุรภาคพิบูล15 ตุลาคม พ.ศ. 2521-30 กันยายน พ.ศ. 2523
24. บุญนาค สายสว่าง1 ตุลาคม พ.ศ. 2523-30 กันยายน พ.ศ. 2528
25. สมพงศ์ พันธ์สุวรรณ1 ตุลาคม พ.ศ. 2528-30 กันยายน พ.ศ. 2532
26. ปรีดา มุตตาหารัช1 ตุลาคม พ.ศ. 2532-14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2533
27. เรือตรี สุกรี รักษ์ศรีทอง15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2533-30 กันยายน พ.ศ. 2534
28. วิมล พวงทอง1 ตุลาคม พ.ศ. 2534-30 กันยายน พ.ศ. 2536
29. อมร อนันตชัย1 ตุลาคม พ.ศ. 2536-30 กันยายน พ.ศ. 2541
30. ประพันธ์ ชลวีระวงศ์1 ตุลาคม พ.ศ. 2541-30 กันยายน พ.ศ. 2543
32. อัครพงศ์ พยัคฆันตร1 ตุลาคม พ.ศ. 2543-30 กันยายน พ.ศ. 2544
32. วิทยา ปิณฑะแพทย์1 ตุลาคม พ.ศ. 2544-30 กันยายน พ.ศ. 2547
33. พนัส แก้วลาย1 ตุลาคม พ.ศ. 2547-30 กันยายน พ.ศ. 2550
33. ประจักษ์ สุวรรณภักดี1 ตุลาคม พ.ศ. 2550-30 กันยายน พ.ศ. 2551
34. พูลศักดิ์ ปณุทนรพาล1 ตุลาคม พ.ศ. 2551-ปัจจุบัน

[แก้] ภูมิศาสตร์

[แก้] ขนาดและที่ตั้ง

จังหวัดจันทบุรีตั้งอยู่บนพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกของประเทศไทย ระหว่างเส้นรุ้งที่ 12-13 องศาเหนือ และเส้นแวงที่ 101-102 องศาตะวันออก อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ 245 กิโลเมตร มีพื้นที่ทั้งหมด 6,338 ตารางกิโลเมตร หรือ 3,961,250 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 16.6 ของพื้นที่ภาคตะวันออก และเท่ากับร้อยละ 1.8 ของพื้นที่ทั้งประเทศ มีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัดใกล้เคียง คือ

  • ทิศเหนือ ติดจังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดสระแก้ว จังหวัดปราจีนบุรี
  • ทิศตะวันออก ติดจังหวัดตราดและประเทศกัมพูชา
  • ทิศใต้ ติดอ่าวไทย
  • ทิศตะวันตก ติดจังหวัดระยองและจังหวัดชลบุรี

[แก้] ลักษณะภูมิประเทศ

สภาพพื้นที่โดยทั่วไปทางด้านทิศเหนือและทิศตะวันออก เป็นป่าไม้ ภูเขา และที่ราบสูงเป็นส่วนใหญ่ อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 30-190 เมตร ทิศใต้เป็นชายฝั่งทะเลมีลักษณะเป็นที่ราบลุ่ม บางแห่งเป็นอ่าวแหลมและหาดทราย สูงจากระดับน้ำทะเล 30-190 เมตร

พื้นที่จังหวัดจันทบุรี แยกลักษณะภูมิประเทศออกได้เป็น 3 ลักษณะ คือ

  1. ภูเขาสูงและเนินเขา
  2. ที่ราบสูงและที่ราบเชิงเขา
  3. ที่ราบลุ่มน้ำและที่ราบชายฝั่งทะเล

[แก้] ลักษณะภูมิอากาศ

สภาพภูมิอากาศโดยทั่วไปจังหวัดจันทบุรีตั้งอยู่ในเขตที่มีอากาศร้อนชื้น มีฝนตกชุกติดต่อกันประมาณ 6 เดือนต่อปี และในปี พ.ศ. 2542 มีฝนตกจำนวน 182 วัน วัดปริมาณน้ำฝนโดยรวม 3,509.40 มิลลิเมตร และเดือนที่มีอุณหภูมิต่ำสุดในรอบปี คือเดือนธันวาคม วัดได้ 13.10 องศาเซลเซียส อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปี 28.46 องศาเซลเซียส ประกอบด้วย 3 ฤดู คือ

[แก้] หน่วยการปกครอง

การปกครองแบ่งออกเป็น 10 อำเภอ 76 ตำบล 690 หมู่บ้าน

  1. อำเภอเมืองจันทบุรี
  2. อำเภอขลุง
  3. อำเภอท่าใหม่
  4. อำเภอโป่งน้ำร้อน
  5. อำเภอมะขาม
  6. อำเภอแหลมสิงห์
  7. อำเภอสอยดาว
  8. อำเภอแก่งหางแมว
  9. อำเภอนายายอาม
  10. อำเภอเขาคิชฌกูฏ
 

[แก้] สถานศึกษา

มหาวิทยาลัย

โรงเรียน

[แก้] ห้างสรรพสินค้า

[แก้] การคมนาคมขนส่ง

การเดินทางสู่จังหวัดจันทบุรีมีเส้นทางดังนี้

  • เส้นทางสายกรุงเทพฯ–ชลบุรี–พัทยา–บ้านฉาง–ระยอง–จันทบุรี โดยใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3 (ถนนสุขุมวิท) ระยะทางประมาณ 291 กิโลเมตร
  • เส้นทางสายกรุงเทพฯ–ชลบุรี–ศรีราชา–บ้านฉาง–ระยอง–จันทบุรี โดยใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 36 (ถนนเมืองพัทยา-ระยอง) ระยะทางประมาณ 254 กิโลเมตร
  • เส้นทางสายกรุงเทพฯ–ชลบุรี–แกลง–จันทบุรี โดยใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 344 (ถนนชลบุรี-แกลง) ระยะทางประมาณ 245 กิโลเมตร
  • เส้นทางยุทธศาสตร์เชื่อมระหว่างภาคตะวันออกเฉียงเหนือผ่านปราจีนบุรี ผ่านทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 33 (ถนนสุวรรณศร) เข้าสู่ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 317 (ถนนจันทบุรี-สระแก้ว) ผ่านอำเภอสอยดาว อำเภอโป่งน้ำร้อน และอำเภอมะขาม เข้าสู่จังหวัดจันทบุรี
  • เส้นทางจันทบุรี–ตราด ระยะทาง 78 กิโลเมตร
  • เส้นทางจันทบุรี–ระยอง ระยะทาง 103 กิโลเมตร
  • เส้นทางจันทบุรี–ชลบุรี ระยะทาง 155 กิโลเมตร

[แก้] สินค้าพื้นเมือง

  • ผลไม้ เป็นสินค้าที่ขึ้นชื่อของจังหวัดจันทบุรี ระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายน ได้แก่ ทุเรียน เงาะ มังคุด ระกำหวาน ในช่วงฤดูผลไม้จะมีนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวและซื้อหาผลไม้รสอร่อยราคาย่อมเยาคุณภาพดีที่จังหวัดจันทบุรี
  • เสื่อจันทบูร หัตถกรรมพื้นบ้านอีกชนิดที่มีชื่อเสียงของจังหวัด ผลิตจากกก ได้มีการนำเอากกมาดัดแปลงเป็นเครื่องใช้ต่าง ๆ มากมาย
  • พริกไทย จันทบุรีเป็นแหล่งปลูกพริกไทยที่สำคัญของประเทศไทยเป็นพืชเศรษฐกิจที่ทำรายได้ให้กับเกษตรกรในจังหวัดจันทบุรี
  • ก๋วยเตี๋ยวเส้นจันท์ นับเป็นสินค้าพื้นเมืองที่เป็นเอกลักษณ์อีกสิ่งหนึ่งของจังหวัด เหมาะที่จะซื้อเป็นของที่ระลึกเมื่อมาเที่ยวจังหวัดจันทบุรี
  • อัญมณี เป็นสินค้าที่ขึ้นชื่อของจังหวัด นักท่องเที่ยวสามารถหาซื้อได้ตามร้านจำหน่ายอัญมณีบนถนนอัญมณีในวันศุกร์ วันเสาร์ และวันอาทิตย์

[แก้] สถานที่ท่องเที่ยว

[แก้] อุทยานแห่งชาติทางบก

  1. อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ
  2. อุทยานแห่งชาติเขาสิบห้าชั้น
  3. อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว
  4. อุทยานแห่งชาติน้ำตกเขาสอยดาว
  5. น้ำตกตรองนอง
  6. น้ำตกคลองนารายณ์

อัพเดทล่าสุด