อิทธิพัทธ์ กุลพงษ์วณิชย์ ประวัติ ( ต็อบ อิทธิพัทธ์ กุลพงษ์วณิชย์ ) MUSLIMTHAIPOST

 

อิทธิพัทธ์ กุลพงษ์วณิชย์ ประวัติ ( ต็อบ อิทธิพัทธ์ กุลพงษ์วณิชย์ )


1,769 ผู้ชม


อิทธิพัทธ์ กุลพงษ์วณิชย์ จากเด็กไม่เอาถ่าน สู่ เถ้าแก่น้อย ร้อยล้าน


เรื่อง สุทธิคุณ กองทอง

ภาพ นพพล ภาคสุทธิผล

เสื้อผ้า  GAS จาก Central Plaza สาขา ชิดลม

แต่งหน้า บัณฑิต บุญมี 



 
  นักธุรกิจหนุ่มในวัย 23 ต๊อบ-อิทธิพัทธ์ กุลพงษ์วณิชย์ ใครจะคิดว่า จากเด็ก

ที่ชอบเล่นเกมส์ออนไลน์ เรียนหนังสือไม่เก่ง ถูกประณามเป็นเด็กไม่เอาถ่าน 

จะกลายเป็นเจ้าของธุรกิจสาหร่ายทอดร้อยล้านภายใต้ชื่อ “เถ้าแก่น้อย”

 วันนี้ เชื่อเหลือเกินว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่เข้าใจว่าเจ้าของธุรกิจ”เถ้าแก่น้อย” คงต้องเป็นคนอายุมาก หรือไม่ก็เป็นอาเสี่ยรุ่นดึกไปเลย แต่ที่ไหนได้เจ้าของธุรกิจเถ้าแก่น้อยกลับกลายเป็นเด็กหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงจน แวดวงธุรกิจต่างต้องจับ

ตา มองอย่างไม่กระพริบ แม้หนุ่มน้อยคนนี้จะเป็นคนที่เรียนหนังสือไม่เก่ง ในมุมหนึ่งเขากลับชอบอ่านประวัติของนักธุรกิจชั้นนำ อาทิ ธนินท์ เจียรวนนท์ เจริญ สิริวัฒนภักดี ตัน ภาสกรนที โดนัลด์ ทรัมป์ บิล เกตต์ สตีฟ จ้อบส์ ต่างล้วนเป็นต้นแบบในการสร้างแบรนด์เถ้าแก่น้อย

 
บุคคล เหล่านี้เปรียบเสมือนเป็นไฟส่องทางที่ได้นำเคล็ดลับดีๆ มาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน แล้วยังนำไปพัฒนาในการบริหารธุรกิจของเถ้าแก่น้อยจนเป็นที่รู้จักใน อุตสาหกรรมบ้านเรา วันนี้เป็นโอกาสอันดี ทีมงาน WhO? ได้มาสัมภาษณ์ คุณต๊อบ-อิทธิพัทธ์ กุลพงษ์วณิชย์ ผู้ก่อตั้งบริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู้ด แอนด์มาร์เก็ตติ้ง 

จำกัด จ.นนทบุรี เมื่อทีมงานไปถึงคุณต๊อบหนุ่มหน้าใสอยู่ในเสื้อเชิ้ตสีขาว

กับกางเกงสแลคสีดำ ได้ออกมานั่งพูดคุยกันแบบเขินๆ ตามที่เจ้าตัวพูดออกตัวก่อนให้สัมภาษณ์


 ครั้งหนึ่งในชีวิตถูกถากถาง”เด็กไม่เอาถ่าน”

 เมื่อวางปากกาจากการเซ็นต์หนังสือบนโต๊ะทำงาน คุณต๊อบเดินออกมายิ้มบ่ง

บอกว่าพร้อมที่จะให้สัมภาษณ์ว่า สมัยก่อนเรียนชั้นมัธยมไม่ค่อยตั้งใจเรียน

เท่าไหร่ เกเร หนีเรียนด้วยการปีนรั้วโรงเรียน จนครูพูดตรงกันว่า 

“เด็กคนนี้แสบ” 

ยิ่งเรียนชั้น ม.5- ม.6 ยิ่งโดดเรียนไปเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ออนไลน์บ่อยมาก 

ตรง นี้ใครจะรู้ว่าการเล่นเกมส์ในวันนั้นจะกลายเป็นที่มาของเถ้าแก่น้อย  เขาอธิบายว่าเมื่อ 7 ปีที่ผ่านมาเกมส์ออนไลน์บ้านเรายังไม่แพร่หลาย แต่ที่อเมริกามีการเล่นอย่างแพร่หลาย แล้วพี่ชาย(ณัชชัชพงศ์) ได้แนะนำให้เล่นเกมส์ 

Xbox 360  ,Playstation 3 โดยเล่นกับพี่ชายจนรวยที่สุดในเกมส์ 

และเล่นกับคนอเมริกันก็เล่นรวยที่สุดในเกมส์อีกเช่นกัน  
 

 “ผม โชคดีที่ได้เข้าไปแชทกับเจ้าของเซิร์ฟเวอร์โดยบังเอิญ คือ เราเข้าไปเสนอความคิดเห็นว่า ทำไมในเกมส์ถึงไม่มีแบบนั้น ไม่ทำแบบนี้ พอดีว่าเขาถูกใจเลยติดต่อให้ทำงานด้วย โดยรับงานเป็นจ๊อบๆ ทำหน้าที่คิดส่ิงแปลกๆ มาเสนอ ตอนนั้นได้ค่าจ้างเดือนละสองสามแสนบาท เมื่อมีรายได้แบบนี้ผมก็ชอบ

เพราะ เล่นเกมส์แล้วยังได้เงินด้วย จนเรียน ม.6 ก็จบอย่างทุลักทุเลมาก ครูจึงรู้จักผมในฐานะของเด็กไม่เอาถ่าน เรียนไม่ได้เรื่อง ชอบเล่นแต่เกมส์ 

จนมีอาจารย์ท่านหนึ่งพูดกับผมว่า จบไปแล้วจะทำอะไรกิน” 

เสียงค่อนขอดจากครูทำให้เขามีแรงที่จะต้องสร้างธุรกิจของตัวเอง
 

 จุดเริ่มต้นธุรกิจแฟรนไชส์เกาลัด

 ต่อมาเข้าเรียนปี 1 ที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กระแสเกมส์ออนไลน์

ก็ เริ่มเสื่อมความนิยม รายได้เดือนเป็นแสนก็ลดลง จึงคิดหาสินค้าซื้ออื่นมาขายทดแทน เช่น ซีดี เครื่องเล่นซีดี ผลตอบรับก็ไม่ดี จนมาวันหนึ่งได้คุยกับ

คุณ พ่อ(วรเศษฐ์) เพราะท่านเคยทำธุรกิจก่อสร้าง ท่านก็แนะนำว่า ลองทำอะไรที่เกี่ยวกับอาหารก็น่าสนใจ โชคดีมีวันหนึ่งได้ไปเดินงานที่เมืองทองธานี 

บังเอิญมีบูทขายเกาลัดที่ผลิตจากเครื่องจักรคั่ว พอได้ลองกินรู้สึกว่าอร่อยดี 

ยิ่งเขาเป็นคนชอบกินเกาลัดเป็นทุนเดิม จึงกลับไปปรึกษากับที่บ้านว่าอยาก

จะขายบ้าง พ่อเลยแนะนำให้ไปเดินดูเกาลัดที่เยาวราช


 เชื่อไหมว่าเขาเดินซื้อเกาลัดตั้งแต่ต้นซอยยันท้ายซอยมีคำถามพรั่งพรูตลอด 

เช่น ถามอาแปะที่ยืนคั่วเกาลัด ทำไมถึงต้องนำเกาลัดมาแช่น้ำ คำตอบที่ได้ถ้าเกาลัดลอยจากน้ำขึ้นมาแสดงว่าใช้ไม่ได้ ถามจนต้นทุน รู้แหล่งทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์ ทำให่้ยิ่งสนใจอยากลองทำธุรกิจนี้ทันที เถ้าแก่น้อยตัวจริง ให้ข้อคิดเอาไว้ว่า 

“คนเราจะทำธุรกิจอะไรที่ไม่รู้จะต้องกล้าที่จะถามอย่าไปอายกับความรู้ 

กลยุทธ์ในการประสบความสำเร็จของผมไม่ยาก คือ หนึ่งถาม สองถาม 

สามก็ถามอีกน่ันแหละ”

 ยี่ห้อ”เถ้าแก่น้อย”มาจากความบังเอิญ ...


 โลโก้สินค้าหรือตราสินค้าส่วนใหญ่เกิดจากแนวคิดของครีเอทีฟล้วนๆ 

แต่ สาหร่ายทอดภายใต้ยี่ห้อ“เถ้าแก่น้อย” ได้มาด้วยความบังเอิญ ที่วันหนึ่งก่อนออกจากบ้านเพื่อนำรูปแบบแฟรนไชส์ไปเสนอห้างๆ หนึ่ง พอดีคุณพ่อนั่งอยู่ที่โต๊ะกินข้าวคุยโทรศัพท์อยู่กับเพื่อน ได้เห็นเขาดินผ่านไปเลยพูดแซวขึ้นว่า ลูกชายกำลังจะไปเป็นเถ้าแก่น้อยแล้ว พอได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกเฉยๆ ระหว่างที่นั่ง

เสนอ งานอยู่นั้น ทางห้างถามว่า มีชื่อหน้าร้านหรือยัง ด้วยความใหม่ในธุรกิจจึงไม่ทันคิด  แต่แว๊บแรกที่เข้าในสมองคิดถึงคำพูดของพ่อขึ้นมาทันทีว่า 

“ร้านเถ้าแก่น้อยเกาลัดครับ” น้ำเสียงบ่งบอกถึงความภูมิใจกับไหวพริบ

ที่่พอมีอยู่ในตัว




 
เมื่อเล่าถึงช่วงแรกที่ทำธุรกิจแฟรนไชส์เกาลัดสีหน้าบ่งบอกถึงความกดดัน

อย่างมาก เนื่องจากวันแรกที่เข้าไปในห้างแห่งหนึ่งขาดทุนไป 500 บาท 

วันที่สองขาดทุนพันบาท ขาดทุนแบบนี้อยู่สองเดือน จากเงินที่เล่นเกมส์มา

ก็เริ่มหดหายไปเรื่อยๆแต่ใจยังสู้ไม่ถอยเลยไปเปิดอีก 1 สาขาคราวนี้ขาด

ทุนหนักกว่าเดิม พอคิดจะเลิกทำโชคดีมีห้างโลตัสติดต่อให้ลองนำเกาลัด

ไปขายในห้าง วันแรกขายได้ยอด 5,000 กว่าบาท เชื่อไหมว่าไฟที่กำลัง

จะมอดกลับลุกโชนขึ้นมาเป็นกำลังใจ ระหว่างเล่าอยู่นั้นเขามีน้ำเสียง

ดีใจสุดๆ 

 
ความสำเร็จจากยอดขายตรงนี้ทำให้สนใจเกี่ยวกับฮวงจุ้ย จึงศึกษาจนพบ

คำตอบว่า ทำเลที่ดีที่สุดของห้างต้องอยู่ทางซ้ายของประตูทางออกเสมอ

เพราะมีคนเดินเข้าออกตลอด อีกคำตอบที่ได้หากทำสินค้าให้ประสบ

ความสำเร็จมี 3 อย่างเหมือนกัน คือ หนึ่งโลเกชั่น สองโลเกชั่น สามก็โลเกชั่น 

เป็นที่มาขยายแฟรนไชส์ออกไปกว่า 30 สาขา” เขายืนยันคนเราไม่รู้ควร

จะต้องถามผู้รู้ถึงจะไปถึงฝั่งฝัน

 ธุรกิจสาหร่ายทอดเกิดจากเพื่อนสนิท ...

 
เมื่อหน้าร้านมีที่เหลือจึงนำสินค้าจากประเทศจีนมาขาย เช่น ลูกพลับแห้ง 

ลำไย อบแห้ง แต่ก็ขายได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น กระทั่งวันหนึ่งขับรถไปรับเพื่อนที่มหาวิทยาลัย (ได้ถามกลับไปทันทีว่าเพื่อนคนนี้ใช่แฟนไหม เจ้าตัวยืนยัน่

คำ เดียวว่าเป็นเพื่อน เอาใจสาวด้วยว่าวันนี้ผมโสดเสียงสูงแล้วกลบเกลือนด้วยเสียงหัวเราะ) เขาบอกว่าเพื่อนคนนี้ซื้อสาหร่ายทอดมากินบนรถแล้วขอชิม 

ปรากฎว่ารสชาติอร่อยดีชอบมาก วันหลังไปรับก็ขอให้ซื้อมาฝากอีก 

แล้วนำไปให้คนในครอบครัวกินทุกคนต่างฝากซื้อด้วย

 
หลังจากนั้นลองนำสาหร่ายทอดมาขายหน้าร้านเกาลัด เป็นเรื่องที่ดีใจมากๆ 

เรียกว่าไฟลุกโชนอยู่ในใจ  เพราะผลตอบรับดีกว่ายอดขายเกาลัด เมื่อเห็นสินค้านี้มีอนาคตจึงคิดต่อยอดธุรกิจออกไป ด้วยการทำสาหร่ายทอดเอง โดยนำเข้าสาหร่ายจากเกาหลี เพราะถือว่าเป็นสาหร่ายที่มีคุณภาพ พอนำ  สินค้าตัวอย่างไปเสนอให้กับทางเซเว่นอีเลฟเว่น กลับต้องผิดหวัง(เขาทำน้ำเสียงอ่อยแอบเศร้าเล็กๆ)

 ทางเซเว่นฯ บอกสินค้าอยู่ในถุงพลาสติกใสๆ แบบนี้จะเก็บไว้ได้ไม่นานให้ปรับปรุงแพ็คเกจจิ้งใหม่ พอปรับปรุงเสร็จได้ไปเสนอทางเซเว่นฯ อีกครั้ง 

แต่ กลับไม่ค่อยได้รับความสนใจเลยให้ฝากสินค้าเอาไว้ ใจที่ห่อเหี่ยวเริ่มดีขึ้นเมื่อช่วงบ่ายมีเสียงโทรศัพท์ดังตื้ดๆ (เขาทำท่ารับโทรศัพท์แบบจริงจัง) 

คำ ตอบทำให้เขาดีใจสุดๆ เมื่อทางเซเว่นฯ สนใจสินค้าโดยจะให้ส่งไปขายในเซเว่นฯ 3,000 สาขา แม้ชั่วโมงนั้นโรงงานผลิตยังไม่มี คนทอดสาหร่ายมี

อยู่ 6 คนรวมตัวเองด้วย

 
ผู้สร้างตำนานเถ้าแก่น้อยยิ้มก่อนเล่าต่อว่า วันนั้นคิดว่าเป็นโอกาสที่ดีใจที่แฟ๊บๆ 

ก็ฟูขึ้นมาอีกรอบ สมองคิดเลยว่าจะต้องใช้เครื่องจักร จำนวนคนทำ 

จึงตอบกลับไป “พร้อมครับ” ทางเซเว่นฯ ให้เวลาสองเดือนพร้อมส่งสินค้า 

จุดนี้เองจึงได้สร้างโรงงานขึ้นมาด้วยการตัดสินใจขายแฟรนไชส์เกาลัดทิ้ง 

4 ล้านบาท เพื่อนำเงินมาเป็นทุนหมุนเวียนในการผลิตสาหร่ายทอดอย่าง

เต็มรูปแบบ บอกตรงๆ ว่าเวลานั้นเป็นการตัดสินใจที่ยากว่าจะหยุดธุรกิจ

อย่าง หนึ่งแล้วมาทำอีกอย่างหนึ่งไม่ง่ายเลย สิ่งสำคัญเราต้องให้กว่ารับ ให้มากกว่ารับในบางครั้งการทำธุรกิจต้องไม่ทำแค่นี้พรุ่งนี้ แต่ต้องมองไปถึง

เจ็ดแปดเก้า ทำทุกอย่างให้ผู้บริโภคได้ชิมสินค้าที่ถูกใจ

 กำ ลังใจนำ  ไปสู่ความสำ  เร็จ...

 
ความสำเร็จจากการทำธุรกิจเกาลัดคนเดียวนึกว่าตัวเองเก่ง หลงตัวเองใน

ที่สุดก็เกิดการผิดพลาด นี่เป็นคำยอมรับจากเถ้าแก้น้อย ก่อนอธิบายถึงการ

ดูแลพนักงานกว่า 600 คนว่า เราต้องรับฟังความคิดเห็นจากพนักงานทุกคน

ที่จบปริญญาตรี ปริญญาโท หากเอาเหตุผลเราเป็นหลักก็ไม่รู้ไปจ้างพวก

เขาทำไม ดังนั้น เราต้องรับฟังความเห็นแล้วนำมากลั่นกรองอีกครั้งก่อนสรุป 

สิ่งสำคัญ

เราต้องมีภาวะผู้นำที่ดีกล้าที่จะยอมรับความผิดพลาดนั้นๆ


 ใครได้อ่านเรื่องราวของ”เถ้าแก่น้อย”คงมีไม่น้อยที่อยากประสบความสำเร็จ

กับ สิ่งที่ทำ คุณต๊อบให้เคล็ดอย่างไม่ลับว่า  “อย่างแรกต้องเริ่มต้นจากความคิดก่อน ผมทำอะไรใหม่ๆ โชคดีที่ผมมักเป็นคนที่คิดว่า ถ้าทำไม่สำเร็จแล้วจะทำยังไง ผมจะคิดเสมอว่า ถ้าทำสำเร็จแล้วต้องทำอะไรต่อ แล้วถ้าคุณกล้าที่จะเดินในโลกธุรกิจต้องยอมรับให้ได้ว่า ต้องมีปัญหา ต้องมีอุปสรรค หรือทางตัน แต่ขอให้มองปัญหาเป็นบทเรียนที่สอนเรา คิดเสียว่า เมื่อมีประตูหนึ่งปิด ก็ต้องมีประตูหนึ่งเปิดไม่มีทางตัน สำคัญมากคนเราผิดพลาดเสียเงินเสียทองได้ แต่ขออย่างเดียวไม่หมดกำลังใจ เพราะถ้าหมดกำลังใจก็เหมือนคนตายที่ทำอะไรไม่ได้ กำลังใจ

เท่านั้นที่จะพาไปสู่ความสำเร็จ”

 
แม้วันนี้ธุรกิจสาหร่ายทอดเถ้าแก่น้อยจะประสบความสำเร็จมากแค่ไหน 

หนุ่มต๊อบ-อิทธิพัทธ์ กุลพงษ์วณิชย์ ก็ยังไม่หยุดคิดที่จะพัฒนาสินค้าตัวอื่น

ต่อไป


ข้อมูลจาก whoweeklymagazine





เรื่อง สุทธิคุณ กองทอง ภาพ นพดล ภาคสุทธิผล

เกมส์ออนไลน์...สร้างอาณาจักร”เถ้าแก่น้อย”ร้อยล้าน 

ของ ...อิทธิพัทธ์ กุลพงษ์วณิชย์

 นักธุรกิจหนุ่มในวัย 23 ต๊อบ-อิทธิ พัทธ์ กุลพงษ์วณิชย์ ใครจะคิดว่า จากเด็กที่ชอบเล่นเกมส์ออนไลน์ เรียนหนังสือไม่เก่ง ถูกประณามเป็นเด็กไม่เอาถ่าน จะกลายเป็นเจ้าของธุรกิจสาหร่ายทอดร้อยล้านภายใต้ชื่อ “เถ้าแก่น้อย” 

 เชื่อ เหลือเกินมีคนจำนวนไม่น้อยที่เข้าใจว่าเจ้าของธุรกิจ”เถ้าแก่น้อย” คงต้องเป็นคนอายุมาก หรือไม่ก็เป็นอาเสี่ยรุ่นดึกไปเลย แต่ที่ไหนได้เจ้าของธุรกิจเถ้าแก่น้อยกลับกลายเป็นเด็กหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงจน แวดวงธุรกิจต่างต้องจับตามองอย่างไม่กระพริบตา แม้หนุ่มน้อยคนนี้จะเป็นคนที่เรียนหนังสือไม่เก่ง กลับชอบการอ่านประวัติของนักธุรกิจชั้นนำ อาทิ ธนินท์ เจียรวนนท์​ เจริญ สิริวัฒนภักดี ตัน ภาสกรนที โดนัลด์ ทรัมป์ บิล เกตต์ สตีฟ จ้อบส์ ต่างเป็นต้นแบบในการทำธุรกิจของผู้ก่อตั้งเถ้าแก่น้อย 

 บุคคล เหล่านี้จึงเปรียบเสมือนไฟส่องทางทำให้ได้้นำเคล็ดลับดีๆ มาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน แล้วยังนำไปพัฒนาในการบริหารธุรกิจของเถ้าแก่น้อยจนเป็นที่รู้จักใน อุตสาหกรรมบ้านเรา  วันนี้ ทีมงาน WhO? ถือเป็นโอกาสอันดีที่ได้มาสัมภาษณ์คุณต๊อบ-อิทธิพัทธ์ กุลพงษ์วณิชย์ ผู้ก่อต้ังบริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู้ด แอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด จ.นนทบุรี เมื่อทีมงานไปถึงคุณต๊อบหนุ่มหน้าใสอยู่ในเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงสแลคสีดำ ได้ออกมานั่งพูดคุยกันอย่างเป็นกันเองแบบเขินๆ ก็ตาม 

 คุณ ต๊อบ เล่าว่า สมัยก่อนเรียนชั้นมัธยมไม่ค่อยตั้งใจเรียนเท่าไหร่ เรียกได้ว่าเกเรเหมือด็กวัยรุ่น หนีเรียนโดยจะปีนข้ามรั้วของโรงเรียนออกมา ทำให้ครูต่างพูดกันว่า  เด็กคนนี้แสบ  ยิ่งเรียนชั้น ม.5- ม.6  จะ โดดเรียนบ่อยครั้งมาก   สาเหตุที่โดดเรียนก็ไปเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ออนไลน์  ใครจะรู้ว่าการเล่นเกมส์ในวันนั้นจะเป็นทางเดินของธุรกิจนี้ก็ได้ แล้วการโดดเรียนก็จะไปเล่นเกมส์คนเดียว  ไม่มีใครเข้าใจ อาจารย์และเพื่อนต่างก็ไม่เข้าใจว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ 

  การเล่นเกมส์ออนไลน์เมื่อประมาณ 7 ปีที่ผ่านมา ในบ้านเรายังไม่แพร่หลาย  แต่ที่อเมริกาเขาเล่นกันอย่างแพร่หลาย โดยรู้จักจากพี่ชาย(ณัชชัชพงศ์) แนะ นำให้เกมส์ออนไลน์ที่อเมริกาเล่นกันอย่างแพร่หลายมาก ในที่สุดก็ได้เล่นกับพี่ชาย เล่นจนเป็นคนรวยที่สุดในเกมส์  ระหว่างที่เล่นเกมส์ออนไลน์กับคนอเมริกัน เขาเห็นว่าเล่นเกมส์เก่งมาก เล่นจนรวยที่สุดในเกมส์ ชาวอเมริกันจึงแนะนำว่าเกมส์ที่เล่นน่าจะนำมาขายได้จริง 

 “ผม โชคดีที่ได้เข้าไปแชทกับเจ้าของเซิร์ฟเวอร์โดยบังเอิญ คือ เราเข้าไปเสนอความคิดเห็นว่า ทำไมในเกมส์ถึงไม่มีแบบนั้น ไม่ทำแบบนี้ พอดีว่าเขาถูกใจเลยติดต่อให้ทำงานด้วย โดยรับงานเป็นจ๊อบๆ ทำหน้าที่คิดส่ิงแปลกๆ มาเสนอ ตอนนั้นได้ค่าแรงเดือนละสองสามแสนบาท เมื่อมีรายได้แบบนี้ผมก็ชอบเพราะเล่นเกมส์แล้วยังได้เงินด้วย พอถึง ม.6 ผม ก็จบอย่างทุลักทุเลมาก ครูทั้งหลายจะรู้จักผมในฐานะของเด็กไม่เอาถ่าน เรียนไม่ได้เรื่อง ชอบเล่นแต่เกมส์คอมพิวเตอร์ออนไลน์ จนมีอาจารย์ท่านหนึ่งพูดกับผมว่า จบไปแล้วจะทำอะไรกิน” เสียงค่อนขอดจากครูทำให้มีแรงที่จะต้องสร้างธุรกิจของตัวเองให้ได้ 

 ต่อมาเข้าเรียนปี 1 ที่ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย  กระแสเกมส์ออนไลน์ก็เริ่มเสื่อมความนิยม ย้อนกลับมามองตัวเองว่าจากที่เคยมีรายได้เดือนเป็นแสน จึงเริ่มคิดที่จะหาอะไรทำ แต่ยังไม่คิดทำธุรกิจ คิดหาสินค้าซื้อมาขายไปเช่น ซีดี  เครื่องเล่นซีดี ผลตอบรับก็ไม่ดี จนมาวันหนึ่งได้คุยกับคุณพ่อ(วรเศษฐ์) ที่ท่านเคยทำธุรกิจก่อสร้าง ท่านก็แนะนำว่า ลองทำอะไรที่เกี่ยวกับอาหารก็น่าสนใจ 

 โชค ดีมีวันหนึ่งได้ไปเดินงานในเมืองทองธานี บังเอิญมีการเปิดบูทขายเกาลัดที่ผลิตจากเครื่องจักรคั่ว  พอได้กินแล้วรู้สึกว่าอร่อยดี ประกอบกับเราเองเป็นคนชอบกินเกาลัดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว  จึงได้มาปรึกษากับที่บ้านว่าอยากจะทำ พ่อเลยแนะนำให้ไปเดินดูเกาลัดที่เยาวราช  เชื่อไหมว่าเดินซื้อเกาลัดตั้งแต่ต้นซอยยันท้ายซอยแล้วได้ถามอาแปะที่ยืน คั่วเกาลัดยังไง ทำไมถึงต้องนำเกาลัดมาแช่น้ำ  ได้คำตอบว่าเกาลัดที่ลอยขึ้นมาแสดงว่าเป็นเกาลัดที่ใช้ไม่ได้  ในที่สุดก็ได้คำตอบการคั่วเกาลัดถึงต้นทุน รู้แหล่งทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์น่าที่จะลองทำธุรกิจนี้ เถ้าแก่น้อยตัวจริง ให้ข้อคิดเอาไว้ว่า “คนเราจะทำธุรกิจอะไรที่ไม่รู้จะต้องกล้าที่จะถามอย่าไปอายกับความรู้ กลยุทธ์ในการประสบความสำเร็จของผมไม่ยาก คือ หนึ่งถาม สองถาม สามก็ถามอีกแหละ” 

 สำหรับ สาหร่ายทอดภายใต้ยี่ห้อ“เถ้าแก่น้อย” เป็นการได้มาด้วยความบังเอิญที่วันหนึ่งก่อนเขาจะออกจากบ้านเพื่อนำรูปแบบ แฟรนไชส์ไปเสนอห้างๆ หนึี่ง พอดีคุณพ่อนั่งอยู่ที่โต๊ะกินข้าวคุยโทรศัพท์อยู่กับเพื่อนเขา แล้วก็พูดแซวว่าลูกชายจะไปเป็นเถ้าแก่น้อยแล้ว  ระหว่างที่นั่งเสนองานอยู่นั้น ทางห้างถามว่าคุณมีช่ือร้านหรือยัง  ความใหม่ในธุรกิจจึงยังไม่ทันคิดช่วงนั้นตายแล้ว เขาจะไล่กลับหรือเปล่า แว๊บแรกคิดถึงคำพูดของพ่อขึ้นมาทันทีว่า “ร้านเถ้าแก่น้อยเกาลัดครับ” นำ้เสียงบ่งบอกถึงความภูมิใจกับไหวพริบที่่มีอยู่ในตัว 

 ระหว่าง ที่เล่าถึงที่มาในการทำธุรกิจแฟรนไชส์ เริ่มจากห้างแห่งหนึ่งวันแรกที่ขายขาดทุน 500 บาท วันที่สองขาดทุนพันบาท ขาดทุนแบบนี้อยู่สองเดือน จากเงินที่เล่นเกมส์มาก็เริ่มหดหายไปเรื่อยๆแต่ใจยังสู้ไม่ถอย ก็เลยไปเปิดอีก 1 สาขายิ่งขาดทุนหนักกว่าเก่า พอคิดที่จะเลิกทำโชคดีมีห้างสรรพสินค้าโลตัสมาติดต่อแล้วบอกว่าเกาลัดคุณที่ ผลิตมากับเครื่องจักรน่าจะลองไปขายในห้างเขา จากที่คิดจะเลิกก็มองว่าเป็นโอกาส เลยลองไปเปิดวันแรกขายได้ 5,000 กว่าบาท เชื่อไหมว่าไฟที่กำลังจะมอดกลับลุกโชนขึ้นมาเป็นกำลังใจ 

 จึง เริ่มคิดว่า อาจเป็นเพราะทำเล ทำให้ไปหาหนังสือเกี่ยวกับที่ตั้ง ฮวงจุ้ย มาศึกษา คำตอบที่ได้คือ ทำเลที่ดีที่สุดของห้างต้องอยู่ทางซ้ายของประตูทางออกเสมอเพราะมีคนเดินเข้า ออกหมุนเวียนตลอด อีกคำตอบที่ได้หากทำสินค้าให้ประสบความสำเร็จมี 3 อย่างเหมือนกัน คือ หนึ่งโลเกชั่น สองโลเกชั่น สามก็โลเกชั่น เป็นที่มาขยายแฟรนไชส์ออกไปกว่า 30 สาขา 

 พอ มีหน้าร้านเหลือที่ว่างน่าจะนำสินค้าตัวอื่นมาขายเพื่อให้เกิดรายได้โดยนำ สินค้าของประเทศจีนมาขาย  เช่น ลูกพลับแห้ง ลำไยอบแห้ง ซึ่งก็ขายได้ในระดับหนึ่ง กระทั่งวันหนึ่งขับรถไปรับเพื่อนที่มหาวิทยาลัย (เราสวนทันควันว่าใช่แฟนไหมเจ้าตัวยังยืนยันว่าเป็นเพื่อน คำว่าเพื่อนสนิทก็ตอบไม่เต็มปาก ก่อนตอบเอาใจสาวๆ ว่าวันนี้ยังโสด) โดยเพื่อนคนนี้ได้ซื้อสาหร่ายทอดมากินบนรถได้ขอเขากินบ้าง ก็เลยรู้สึกว่าชอบอร่อยดี วันหลังไปรับก็ขอให้เขาซื้อมาฝากอีก จากนั้นได้นำไปให้คนในครอบครัวกินกัน ทุกคนก็ฝากซื้อกัน   

 ใน ที่สุดได้นำสาหร่ายทอดนี้มาขายหน้าร้านเกาลัด ผลตอบรับที่ดีกว่ายอดขายเกาลัดซึ่งเป็นสินค้าหลักในบางสาขา จากนั้นเห็นว่ามีอนาคต มีความคิดแบบพ่อค้าที่จะพัฒนาสินค้าสาหร่ายทอดต่อยอดธุรกิจออกไป เรียกว่าไฟลุกโชนอยู่ในใจ จึงเริ่มนำสินค้าตัวอย่างไปเสนอให้กับร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น ที่คิดว่าเหมาะกับสินค้าและกลุ่มลูกค้า แต่ต้องผิดหวังเพราะเขาบอกกลับมาว่า สินค้ายังต้องพัฒนาอีกหลายๆด้าน เพราะสินค้าอยู่ในถุงพลาสติกใสๆ จะเก็บไว้ได้ไม่นาน จนศึกษาปรับปรุงพัฒนาหีบห่อใหม่ แล้วนำไปเสนออีกครั้งทางเซเว่นฯก็ทำท่าเหมือนไม่สนใจเพียงบอกให้ฝากสินค้า เอาไว้ แต่พอช่วงเช้าเสนอไปกลับมาช่วงบ่ายโทรศัพท์ดังตื้ดๆ (ทำท่ารับโทรศัพท์แบบจริงจัง) ปรากฎว่าทางเซเวนโทรมาบอกว่าทางเราสนใจสินค้าคุณมากเลย พร้อมจะขายกับเราไหม 3,000 สาขา ตอนนั้นบอกตามตรงได้เลยว่าโรงงานผลิตยังไม่มีสาหร่ายก็ทอดอยู่หลังบ้านมีคน งานอยู่ 6 คนรวมตัวเอง

 วัน นั้นคิดว่าเป็นโอกาสใจที่แฟ๊บๆ ก็ฟูขึ้นมาอีกรอบ สมองคิดเลยว่าจะต้องใช้เครื่องจักร คนทำอีกเท่าไหร่ คำตอบที่ตอบกลับไป “พร้อมครับ” ทางเซเว่นฯ ให้เวลาสองเดือนพร้อมก็ส่งสินค้าได้ จุดนี้เองจึงได้สร้างโรงงานขึ้นมาด้วยการตัดสินใจขายแฟรนไชส์เกาลัดทิ้ง เพื่อนำเงินมาเป็นทุนหมุนเวียนในการผลิตสาหร่ายทอด บอกตรงๆ ว่าเวลานั้นเป็นการตัดสินใจที่ยากว่าจะหยุดธุรกิจอย่างหนึ่งแล้วมาทำอีก อย่างหนึ่งไม่ง่ายเลย สิ่งสำคัญเราต้องให้กว่ารับ ให้มากกว่ารับในบางครั้งการทำธุรกิจต้องไม่ทำแค่นี้พรุ่งนี้ แต่ต้องมองไปถึงเจ็ดแปดเก้า ทำทุกอย่างให้ผู้บริโภคได้ชิมสินค้าว่าถูกใจไหม

 ความ สำเร็จจากการทำธุรกิจเกาลัดคนเดียวนึกว่าตัวเองเก่ง หลงตัวเองในที่สุดก็เกิดการผิดพลาด นี่เป็นคำยอมรับจากเถ้าแก้น้อย ก่อนอธิบายถึงการดูแลพนักงานกว่า 600 คนว่า เราต้องรับฟังความคิดเห็นจากพนักงานทุกคนที่จบปริญญาตรี ปริญญาโท แล้วเอาเหตุผลเราเป็นหลักแล้วเราจะจ้างเขามาทำไม ดังนั้น เราต้องรับฟังความเห็นแล้วนำมากลั่นกรองอีกครั้งก่อนสรุป สุดท้ายเราตัดสินใจอะไรไปแล้วเกิดความผิดพลาดเราก็จะต้องเป็นภาวะผู้นำที่ดี ในการกล้าที่จะยอมรับความผิดนั้นๆ ชีวิตก่อนหน้านี้ไม่ได้ค่อยไปไหนเพราะต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูกน้อง แต่วันนี้พอมีเวลาว่างก็จะเดินทางไปเที่ยวบ้าง

 ใคร อยากทำธุรกิจแบบเถ้าแก่น้อยได้นั้น “อย่างแรกต้องเริ่มต่้นจากความคิดก่อน ผมทำอะไรใหม่ๆ โชคดีที่ผมมักเป็นคนที่คิดว่า ถ้าทำไม่สำเร็จแล้วจะทำยังไง แต่ผมจะคิดเสมอว่า ถ้าทำสำเร็จแล้วต้องทำอะไรต่อ แล้วถ้าคุณกล้าที่จะเดินในโลกธุรกิจแล้ว ต้องยอมรับให้ได้ว่าต้องมีปัญหา ต้องมีอุปสรรค หรือทางตัน ก็ขอให้มองปัญหาเป็นบทเรียนที่สอนเรา ให้คิดเสียว่า เมื่อมีประตูหนึ่งปิด ก็ต้องมีประตูหนึ่งเปิดมันจะไม่มีทางตันหรอก สำคัญมากคนเราผิดพลาดได้เสียเงินเสียทองได้ แต่ขออย่างเดียวไม่หมดกำลังใจ เพราะถ้าหมดกำลังใจก็เหมือนคนตายที่ทำอะไรไม่ได้ กำลังใจเท่านั้นที่จะพาไปสู่ความสำเร็จได้”

 แม้ วันนี้ธุรกิจสาหร่ายทอดเถ้าแก่น้อยจะประสบความสำเร็จมากแค่ไหน หนุ่มต๊อบ-อิทธิพัทธ์ กุลพงษ์วณิชย์ ก็ยังไม่หยุดคิดที่จะพัฒนาสินค้าอื่นต่อไป 




ติดตามเรื่องราวดีๆได้ที่ WhO? Magazine ฮู แมกกาซีน

อัพเดทล่าสุด