เตรียมตัวรับมือก่อนเกษียณอายุ
นิตยสาร ฟอร์จูน ฉบับวันที่ 26 มิถุนายน ถึง 3 กรกฏาคม 2549 ขึ้นปก " Retire Rich" แผนควบคุมอนาคตของตัวท่าน โดยกล่าวถึงผู้ที่กำลังเกษียณอายุการทำงานว่า ไม่ควรคิดว่าจะมีชีวิตที่ดีกว่า เพราะวันพรุ่งนี้จะยังมีอยู่เสมอ ซึ่งหมายถึงว่า ในระยะอันใกล้นี้ ท่านอาจจะได้นั่งทานดินเนอร์กับภรรยาแสนรัก และวางแผนเดินทางไปเยี่ยมหลานช่วงวันพุธหรืออาจจะเป็นวันพฤหัสบดี ก่อนที่จะบ่ายหน้าไปขึ้นเขานักตกปลา ใช้เวลาพักผ่อนสักหนึ่ง หรือ สองสัปดาห์ ก่อนที่จะกลับมาพักอยู่บ้าน ฟอร์จูนกล่าวว่าถ้า คนที่เกษียณจากการทำงานมีชีวิตสนุกสนานแบบข้างต้น นั่นก็หมายความว่า ชิวิตในที่ทำงานได้กลายเป็นเพียงความทรงจำ และตอนนี้ก็มีความสุขกับการพักผ่อนมากเท่าที่ท่านจะทำได้
แต่ขอถามหน่อยว่า นี่คือสิ่งที่ท่านต้องการหรือไม่? จริงๆแล้วสิ่งเหล่านี้ล้วนดีทั้งสิ้น แต่ตอนนี้เป็นสิ่งที่สวนทางกับความเป็นจริง เพราะภาพของคนเกษียณการทำงานได้เปลี่ยนไปแล้ว และพวกเขาต้องทำงานมากขึ้น
ผลสำรวจจากสถาบันวิจัยผลประโยชน์ลูกจ้าง หัวข้อ เราจะต้องทำงานตลอดไปหรือ? ได้ชี้ให้เห็นว่า ภาพลักษณ์ของการเกษียณอายุจำเป็นต้องเปลี่ยนไป และเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ เนื่องจากการขยายตัวของคนในกลุ่มนี้จะมาใช้จ่ายเงินในส่วนของคนเกษียณอายุ ซึ่งไม่ใช่เฉพาะการพักผ่อนเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการทำงาน ซึ่งเป็นการทำงานที่บางครั้งก็ได้เงิน แต่บางครั้งก็ทำฟรี และเพียงเพื่อเป็นรางวัลให้กับชีวิต ซึ่งเป็นภาพที่แตกต่างไปจากที่เคยเห็นว่าคนเกษียณจะรวยขึ้น หรือเพียบพร้อมมากขึ้น
โดย ฟอร์จูน ได้แนะนำ Retirement Guide ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับข้อเท็จจริงของคนเกษียณการทำงานในปัจจุบันนี้ และการจะเตรียมตัวอย่างไร เนื่องจากปัจจุบันคนทำงานต้องลงทุนเพื่อให้ได้ผลตอบแทนมากกว่าที่เคยได้ เพราะไม่มีไครรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเมื่อผู้สูงอายุ 74 ล้านคนเริ่มเกษียณอายุและขายการลงทุนออกไป
แรงงานในปัจจุบันจึงต้องสร้างมุมมองหลังการเกษียณอายุใหม่ ซึ่งหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สุด คือ เงินบำนาญ อาจจะเป็นไปได้ยาก ที่จะคาดหวัง เพราะหลายประเทศกำลังเผชิญวิกฤต สาเหตุเพราะคนสูงอายุมีจำนวนมาก และยังมีอายุยืนยาวกว่าในอดีต
ในขณะเดียวกันก็ไม่ง่ายนักหากจะออมเงินให้ได้มากที่สุด โดยเลิกทำงานก่อนเกษียณ 20-30 ปี หรือแม้จะทำได้ ท่านอยากจะทำหรือไม่? ในจำนวนคนงานปัจจุบันนี้ นอกจากคนที่อยากทำงานเพื่อรับเงินช่วงเกษียณการทำงานแล้ว มี 27% ที่กล่าวว่าพวกเขาวางแผนทำงานนอกเวลาเพื่อความสนุกหรือสนใจทำ อีก 15% หวังนำไปเริ่มต้นทำธุรกิจ อีก 14% ต้องการเป็นอาสาสมัคร ผลการสำรวจของสถาบันวิจัยผลประโยชน์ของลูกจ้าง กล่าวว่า คนทำงานส่วนใหญ่เชื่อว่า การทำงานหรือทำธุรกิจจะช่วยให้ก้าวหน้า แต่การศึกษาก่อนหน้านี้ระบุว่า คนที่ทำงานมานานอายุยืนกว่าคนที่เกษียณการทำงานก่อน
ซึ่งจริงๆ แล้ว การเกษียณจากการทำงานในปี 2549 นับเป็นสิ่งที่ท้าทาย แม้ในภาพใหญ่ จะมองว่ายังมีโอกาสที่สดใส จากประสพการณ์ที่คนรุ่นก่อนไม่เคยได้รับ โดยเฉพาะการปฏิบัติตัวในแนวทางใหม่ และด้วยคนเกษียณอายุจากการทำงาน ที่มีจำนวนมากนี้ ทำให้อนาคตจากนี้ไปจะไม่เป็นไปตามอย่างที่เคยเป็นแน่นอน
ฟอร์จูนยังกล่าวด้วยว่า ให้คิดเรื่องการเกษียณอายุ เป็นเสมือนการสร้างผลประโยชน์ใหม่ ที่ทุกคนจะพอใจ
ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ