เจอเจ้านายเจ้าปัญหามาทางนี้


618 ผู้ชม


เจอเจ้านายเจ้าปัญหามาทางนี้




จะทำอย่างไร เมื่อเจ้านายที่คุณคุยด้วยตอนสัมภาษณ์งานกับในการทำงานจริง ๆ เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ พูดจากันทีแรกถูกอกถูกคอกันชนิดที่เรียกว่าชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ แต่เวลาผ่านไปแค่ครึ่งเดือน เจ้านายในฝันไหงกลับกลายเป็นเจ้านายมหาโหดที่ทำงานไม่ได้หยุด, หรือบ้ามาทำงานเช้า แถมชอบสอดส่องคนอื่นๆ ฯลฯ
วิธีที่ง่ายที่สุด คือ ลาออก แต่ถ้าทำไม่ได้ล่ะ.. เรามีวิธีที่ช่วยคุณได้
ที่จะพูดถึงต่อไปนี้ คือ รูปแบบยอดฮิตติดอันดับของเจ้านายที่ทำให้ลูกน้องฝันร้ายสุด ๆ ที่อาจจะประจวบเหมาะเข้ากับเจ้านายในฝัน (ร้าย) ของคุณเข้าบ้าง ..ลองมาดูกันว่าควรจะจัดการอย่างไรดี
บ้างานเกินจำเป็น
สำหรับเจ้านายที่ทำงานบ้าเลือด แถมต้องการให้คนรอบข้างทำงานในแบบเดียวกัน เช่น อยู่ให้เรียกใช้ได้ตลอดเวลา, เลิกงานเลททุกวัน ฯลฯ ทางออกของคุณ คือ ต้องหาทางให้ตัวเองได้พักผ่อนโดยไม่เสียสัมพันธภาพ
คุณอาจต้องกุเรื่องราวซีเรียส ๆ หรือเรื่องจำเป็นที่ดูสมเหตุสมผลที่สามารถนำไปอ้างกับเจ้านาย เพื่อให้เลิกงานตามเวลาได้บ้าง สักอาทิตย์ละครั้งสองครั้ง เช่น คุณต้องรับหน้าที่ดูแลคุณแม่ที่แก่เฒ่าแทนพี่น้องคนอื่น ๆ ทุกวันอังคารและพฤหัสบดี เป็นต้น
แต่เตือนไว้นิดว่า อย่ากุเรื่องที่เว่อร์เกินจริง ...เดี๋ยวจะโดนจับได้ให้ได้อาย
ทางเลี่ยงแบบอ้อม ๆ อีกทางหนึ่งคือ อย่าเหมางานไว้กับตัวคนเดียว ลองนึกถึงพนักงานคนอื่น ๆ ที่อาจจะต้องการความก้าวหน้า อยากแสดงความสามารถแต่ไร้หนทาง คุณก็จัดการมอบหมายงานให้เขาบ้าง หรือไม่ลองยุเจ้านายให้รับนักศึกษาฝึกงานเข้ามาช่วยแบ่งเบางาน
ข้อดีของวิธีนี้ คือ คุณจะได้แสดงทักษะในการบริหารงานให้เจ้านายเห็นด้วย ว่าคุณน่ะเยี่ยมยอดขนาดไหน
ไม่ใส่ใจ..หายเข้ากลีบเมฆ
คุณเตรียมใจมาล่วงหน้าที่จะรับงานหนัก เพราะตอนที่มาสัมภาษณ์ เจ้านายบอกคุณว่างานที่นี่ยุ่งมาก ๆ แต่พอถึงคราวที่มาทำงานจริง ๆ ทำไมอะไรต่ออะไร กลับหน้ามือเป็นหลังมือ คุณได้แต่นั่งเฉย ๆ ตลอดทั้งวัน เพราะไม่มีอะไรจะทำ ในขณะที่เจ้านายของคุณยุ่งอยู่กับงานตรงหน้า โดยไม่หันมาสนใจคุณเลยแม้แต่น้อย หรือแย่ไปกว่านั้น ไม่เคยโผล่มาให้คุณเห็นหน้าเลยแม้แต่ครั้งเดียว
แน่นอนว่าการแสร้งทำเป็นว่างานยุ่งตลอด 8 ชั่วโมงนั้นคงยากเอาการ ต่อให้คุณนั่งส่งเมล์ถึงคนทุกคนที่รู้จักเลยก็ตาม
หนทางรอดของคุณ คือ อย่าอยู่เฉย ๆ สร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน เลียบเคียงถามดูสิว่าพวกเขามีงานอะไรที่อยากทำให้เสร็จแต่ไม่มีเวลาพอจะทำบ้างไหม ถ้ามีก็เสนอตัวช่วยไปเลย
ถ้าลองวิธีนี้แล้วยังไม่ได้ผล ลองออกไปนอกแผนกดูบ้าง โดยติดต่อกับแผนกอื่น ๆ ที่ทำงานร่วมกับแผนกคุณ อาจจะมีบางงานที่ไม่สำคัญขนาดที่จะต้องผ่านไปถึงเจ้านายของคุณ แต่ก็พอจะให้ให้คุณดูยุ่งแบบคนอื่น ๆ เขาได้บ้าง และถ้าโชคช่วย งานออกมาดี คุณก็ได้ช่องทางในการแสดงความสามารถแถมมาด้วย
ชอบตั้งฉายา..วาจาขู่ตะคอก
คงไม่มีอะไรจะแย่เกินไปกว่า การที่คนเก่ง ๆ ที่มีปริญญาประดับกาย พ่วงท้ายด้วยประสบการณ์การทำงานตั้งหลายปีอย่างคุณ ต้องมาทนกับสมญานามที่เจ้านายจอมโหดตั้งให้ว่าเป็นพนักงานสุดห่วย เพียงเพราะว่าคุณทำในสิ่งที่เจ้านายไม่ชอบเท่านั้นเอง
เทคนิคที่จะตอบโต้กับเจ้านายประเภทนี้ คือ พยายามอย่าอยู่ในมุมที่ทำให้คุณรู้สึกด้อย หากเจ้านายนั่งอยู่ คุณควรจะยืน จะอ้างไปว่าหลังเจ็บหรืออะไรก็ว่าไป เพราะอะไรน่ะหรือ ลองนึกภาพดูสิว่า มันจะยากแค่ไหนที่ต้องตะคอกใส่คนที่ยืนสูงกว่าเรา แต่ระวังกิริยาท่าทางให้นอบน้อมไว้ด้วย ยิ่งพูดเบา ๆ ไว้ยิ่งดี ความโมโหของเจ้านายจะได้มลายหายไปเร็ว ๆ
ทีนี้ วิธีการป้องกันตัวที่ดีที่สุด คือ การรุก นึกถึงการติเพื่อก่อเกี่ยวกับการทำงานในแผนก เสนอแนะวิธีการที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน จะบอกให้ว่านี่เป็นวิธีการหันเหความสนใจให้ออกห่างจากเรื่องที่เจ้านายจะเอามากล่าวโทษคุณได้ดีทีเดียว
จะยังไงขอให้ได้แก้
เวลาส่งงาน หากเจ้านาย จะบ่นหรือขอแก้ไขสักครั้งสองครั้งถือว่าธรรมดา แต่ถ้านับได้ถึง 5-6 ครั้ง ให้สงสัยไว้ก่อนเลยว่าคุณกำลังเจอกับเจ้านายเจ้าปัญหาเข้าแล้ว อาจเป็นได้ว่าแก้งานบ่อย เลยติดเป็นนิสัย ไม่ว่างานที่ส่งจะดีแค่ไหนก็ขอชั้นแก้หน่อยเถอะ
กรณีนี้ แนะนำว่าเขียนอะไรที่ดูไม่สลักสำคัญลงไปบ้าง อย่างน้อยก็เป็นการเปิดโอกาสให้เจ้านายได้สนองความอยาก “แก้” ส่วนตัว ในขณะเดียวกัน งานของคุณก็ไม่เสียหายด้วย
แต่ยังไงก็อย่าลืมมองข้อดีของการจู้จี้จุกจิกแบบนี้ ว่ามันทำคุณเป็นคนรอบคอบ ใส่ใจในรายละเอียด ดังนั้น..อย่าลืมตรวจทานงานให้ดีก่อนทุกครั้ง เพื่อจะได้ไม่ทำผิดซ้ำซากให้เขาว่าเอาได้
จอมรักษาเวลา
จะทำอย่างไร ถ้ามีเจ้านายที่ชอบมาทำงานแต่เช้าทุกวัน แถมไม่มาเปล่า ยังชอบเดินตรวจเช็คคนอื่น ๆ ประหนึ่งผู้คุ้มกฎ
วิธีรักษาตัวรอด คือ อย่าไปฝืนไปขัด เขาชอบคนมาเช้า คุณก็พยายามมาแต่เช้าเข้าไว้ รักษาเวลาเข้างานประหนึ่งรักษาชีวิต แต่ในช่วงเวลาระหว่างวันนั่นละ คือ สวรรค์ของคุณ เพราะเมื่อเจ้านายเห็นคุณมาทำงานกันครบครันก็จะวางใจ คงไม่มาคอยนั่งจับผิดอีก คุณอาจจะยืดเวลาพักเที่ยงให้ยาวกว่าเดิมนิดหน่อย กรณีที่เจ้านายไม่อยู่ หรือมีประชุมข้างนอก หรือใช้ช่วงเวลาที่เหลือจากการออกไปติดต่องานนอกบริษัททำธุระส่วนตัวเสียด้วยเลย งานนี้ไม่เสียทั้งงาน และเรื่องส่วนตัว
ข้อแนะนำประการสุดท้าย ไม่ว่าเจ้านายคุณจะเป็นแบบไหน คือ พยายามหาเพื่อนฝูงมาแบ็คอัพ ไว้บ้าง จะได้มีคนคอยแก้ต่างให้ กรณีที่ทำอะไรผิดพลั้งพลาดไป ..ก็ขนาดโบราณเขายังว่าไว้ ว่าสองหัวดีกว่าหัวเดียวนี่นา
คบเพื่อนดี ๆ ไว้รับรองว่าไม่เสียหลายแน่นอน
โดย JOBROADS

อัพเดทล่าสุด