"Recruitment Agency ไม่ใช่ทุกอย่างต้อง Yes ไปหมด"


778 ผู้ชม


"Recruitment Agency ไม่ใช่ทุกอย่างต้อง Yes ไปหมด"




 ปี 2548 น่าจะสนุกขึ้น เป็นสัญญาณที่ดีของธุรกิจจัดหาคน (Recruitment Agency) การแข่งขันจะเป็นลักษณะแข่งขันกันด้านบริการมากกว่า โดยส่วนตัวมองว่าไม่น่าจะแข่งขันเรื่องราคา แต่มีรูปแบบการบริการที่เน้นว่า สามารถหาคนได้ตรงกับความต้องการไหม? หาคนได้รวดเร็ว ทันใจไหม? หรือสิ่งสำคัญบริษัทลูกค้าต้องการจากธุรกิจจัดหาคนคือ การเข้าไปมีบทบาทการเป็นที่ปรึกษา ตั้งแต่ระดับการวางแผนในการรับคน
        ผลจากการวิจัยของบริษัท Resource Link เกี่ยวกับ Customer Research Focus Group จำนวนหนึ่ง ลูกค้าส่วนใหญ่บอกว่า อยากจะได้ Recruitment Agency เข้าไปมีส่วนช่วยในการวางแผนกลยุทธ์เรื่องการรับคน นอกเหนือจากบริการจัดการคน
        ตัวอย่างเช่น บริษัทขนาดกลางขายเครื่องมือแพทย์ ตามหลักแล้วบริษัทนี้ไม่ควรมี HR ไม่ควรมี recruitment department อยู่ในบริษัท สิ่งที่ควรมีคือ sale department กับ service department เป็นบริษัทที่เน้นการขายและซ่อมแซมเครื่องมือแพทย์ เพราะฉะนั้นบทบาทของบริษัทจัดหาคนจึงควรจะไปช่วยแบกรับส่วนงานตรงนี้
        หรือตัวอย่างบริษัทหนึ่งอยากจะได้เซลส์มาขายสินค้า บริษัทจัดหาคนก็ควรจะเข้าไปเลย สอบถามว่า ควรจะให้เงินเดือนเท่าไหร่เทียบกับอัตราตลาด จะลงโฆษณาหรือค้นหาจากฐานข้อมูล หรือว่าจะไปดึงตัวมาดี เป็นการช่วยกันทำงานกับลูกค้า
        องค์กรขนาดใหญ่อาจจะมี HR ที่ซับซ้อนกว่าองค์กรเล็ก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าบริษัทจะใช้บริษัทจัดหาคนมาเป็นพันธมิตรไม่ได้ โดยความจริงบริษัทจัดหาคนควรจะเป็นคู่คิดกับ HR ไม่ใช่แข่งขันกับ HR บริษัทจัดหาคนควรจะไปเป็นเพื่อนกับฝ่ายรับคนของบริษัท ผู้จัดการบริษัทไม่ควรจะถามว่า ทำไมเมื่อมี HR ในบริษัทแล้วทำไมต้องจ้างบริษัทจัดหาคนมาเพิ่มอีก? ถือว่าไม่ควรเป็นคำถามที่มาจากฝ่ายบริหาร แต่ควรจะพูดว่า ดีเหมือนกันได้บริษัทจัดหาคนเข้ามาเพื่อจะได้ช่วย HR หาคน ในตำแหน่งที่อาจจะต้องการกำลังภายใน
        ประโยชน์ของบริษัทจัดหาคนมีมากมาย ในโลกของความเป็นจริงบริษัทมีฝ่ายบุคคลไว้หาคนเข้าทำงาน จะมีงานด่วนที่ทำไม่ทัน แล้วจะเก็บไว้คนเดียวทำไม ก็ต้องมีเพื่อนมาช่วยแบ่งเบางาน อีกประเด็นคือ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทใหญ่หรือบริษัทเล็ก คนที่เป็นฝ่ายจัดหาคนถ้าไม่มีประสบการณ์ตรงในการจัดหาคน ไม่ใช่งานง่าย ไม่เหมือนงานจำเจ แต่เป็นงานที่ต้องใช้ทักษะค่อนข้างเยอะ
        ประเด็นที่คนจะเปลี่ยนงานน้อยลงเพราะค่าตอบแทนแต่ละองค์กรไม่ต่างกัน ไม่สำคัญเท่ากับว่า สุดท้ายแล้วธุรกิจ Recruitment Agency จะมีการจัดการอย่างไร? ไม่ว่าผู้สมัครจะเป็นคนดังจากที่ไหนก็แล้วแต่ หรือบริษัทจัดหางานดังขนาดไหนก็แล้วแต่ เป็นเรื่องของมุมมองการจัดการมากกว่า
        อย่างไรก็ดี การเปลี่ยนงานเหมือนกับพระอาทิตย์ต้องขึ้นและต้องตกแต่ละวัน เพราะเป็นเรื่องของคน ต่อให้เงินเดือนขึ้นน้อยขึ้นเยอะ ถ้าพนักงานไม่มีความสุขเสียอย่างก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลง มีการโยกย้ายงาน
        ธุรกิจ Recruitment Agency ที่ดี ต้องมีจรรยาบรรณ บริการด้วยความจริงใจ เป็นจริงตามเหตุผล ไม่ใช่ทุกอย่างต้อง Yes ไปหมด ต้องมี No บ้าง ลูกค้าไม่ใช่ god ในธุรกิจนี้ การทำงานต้องรู้จักลูกค้า ถ้าลูกค้าบอกอะไรไม่ดี หน้าที่ Recruitment ต้องบอกให้แก้ไข ไม่งั้นผู้สมัครไม่ยอมมาทำ ถ้าเราทำงานแบบนี้ไม่มีวันตาย
        คำถามที่ได้ยินบ่อยๆ ตลอด 13 ปีของการทำงานคือ พอบริษัทจัดหาคนส่งมอบคนให้ลูกค้าแล้ว ผ่านไป 3 เดือนพนักงานคนนี้ลาออก แล้วบริษัทลูกค้าจะโทษว่าเป็นการวางยาของ Recruitment Agency เพราะไปดึงพนักงานคนนี้ออกมา ซึ่งสิ่งเหล่านี้ Resource Link เราไม่เคยคิดจะทำ

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายสัปดาห์

อัพเดทล่าสุด