10 ปี แมนพาวเวอร์ บนธุรกิจจัดหาบุคลากร "กลยุทธ์ต้องทรงพลัง"

เพิ่งฉลองความสำเร็จในงานครบรอบ 10 ปีไปหมาดๆ สำหรับบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการจัดหาทรัพยากรบุคคลที่ให้บริการด้านการจัดการและบริหารงานบุคคลระดับโลกอย่าง "แมนพาวเวอร์"
ไซมอน แมทธิวส์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท แมนพาวเวอร์ (ประเทศไทย) ได้นำตัวเลขผลประกอบการออกมาโชว์ให้ผู้ประกอบการธุรกิจอื่นได้อิจฉา เพราะมีตัวเลขเติบโตกว่า 18% สวนกระแสปัญหาเศรษฐกิจและการเมือง แถมยังเปิดแผนรุกตลาดจัดหาบุคลากรในช่วงครึ่งปีหลังแบบ 360 องศา ทั้งการตลาดและกิจกรรมเพื่อสังคม สร้างความเป็นหนึ่งในธุรกิจจัดหางานที่ครบวงจร
เท่านั้นยังไม่พอยังเข็นโปรเจ็กต์ใหม่ Cross Border Recruitment ออกมา ต่อยอดการดำเนินงานอีกโครงการหนึ่ง
ไซมอน แมทธิวส์ หัวเรือใหญ่แมน พาวเวอร์ พูดถึงความสำเร็จขององค์กรในช่วงครึ่งปีแรกว่า มีอัตราการเติบโตกว่า 18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยรายได้ส่วนใหญ่มาจากการจ้างงานแบบ contract และแบบ permanence ซึ่งเป็นไปตามแผนที่วางไว้ตั้งแต่ต้นปี
แต่นั่นก็ไม่ได้บ่งบอกว่าในปี 2551 อัตราการเติบโตจะขยายตัวต่อเนื่องเพราะปัจจัยเสี่ยงมีมากมาย ในช่วงครึ่งปีหลังแมนพาวเวอร์จึงวางแผนรุกตลาดแบบเต็มสูบเพื่อดันยอดรายได้ให้ทะลุ 20% ตามเป้าหมายที่วางไว้
เพราะจากการเก็บข้อมูลภาพรวมของธุรกิจจัดหางานและงานบริหารงานบุคลากรในช่วงครึ่งปีแรก แม้ว่าจะไม่หวือหวามากนัก แต่ก็พบว่าตลาดยังมีความต้องการบุคลากรอยู่มากในเกือบทุกอุตสาหกรรม
อุตสาหกรรมที่มีความต้องการแรกงานสูงสุดถึง 36.33% คือ อุตสาหกรรมการผลิตยางและพลาสติก อาหารและเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์การผลิตอุปกรณ์วิทยุ โทรทัศน์และอุปกรณ์สื่อสาร การผลิตเคมีภัณฑ์
รองลงมาคือ ภาคการขนส่ง การขายปลีก มีความต้องการแรงงานประมาณ 25.54%
ตามมาด้วย ภาคอสังหาริมทรัพย์และภาคบริการทางธุรกิจ มีความต้องการแรงงานประมาณ 11.92%
ที่น่าสนใจมีการเปิดตำแหน่งงานเพิ่มขึ้นมากกว่า 10% โดยตำแหน่งที่เป็นที่ต้องการของลูกค้ามากที่สุด คือ พนักงานขายของ รองลงมาเป็นเจ้าหน้าที่สำนักงาน ผู้จัดการ ฝ่ายต่างๆ
เจ้าหน้าที่บัญชี ตัวเลขความต้องการก็ยังไม่ทิ้งห่างจากช่วงที่ผ่านมามากนัก
ส่วนพนักงานการตลาด วิศวกรพนักงานบรรจุภัณฑ์ และช่างเย็บปัก ความต้องการในตลาดยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง
ซึ่งแมนพาวเวอร์ประเมินว่า อัตราการว่างงานที่ลดลงกว่า 3 หมื่นคนในช่วงครึ่งปีแรกเมื่อเปรียบเทียบกับรอบปีที่ผ่านมา ส่งสัญญาณในทางบวกต่อสถานการณ์ด้านแรงงานในช่วงปีหลังชัดเจน
เป็นที่รู้กันว่าในวันที่โลกเปลี่ยนเร็ว คนที่ปรับตัวทันกับการเปลี่ยนแปลงเท่านั้นจึงจะอยู่รอด ในครึ่งปีหลังแมนพาวเวอร์จึงได้ปรับแผนกลยุทธ์ให้ทรงพลังมากยิ่งขึ้น
"ไซมอน" กล่าวว่า ครึ่งปีหลังก็ยังคงเดินหน้ากลยุทธ 360 องศาเช่นเดิมแต่ได้ปรับกลยุทธ์เพิ่มเติมจากครึ่งปีแรก โดยเน้นการพัฒนาศักยภาพในการบริหารงานลูกค้าองค์กร ควบคู่ไปกับการสรรหาบุคลากรในส่วนของการบริหารงานลูกค้า โดยได้มีการสร้างมูลค่าเพิ่มทางด้านกลยุทธ์ให้กับลูกค้าองค์กร เน้นรูปแบบการให้บริการที่เต็มรูปแบบมากขึ้น มีความต่อเนื่อง ฉับไว
และที่สำคัญจะต้องมีการรายงานความคืบหน้า พร้อมทั้งประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะตรงนี้คือกุญแจสำคัญที่จะสร้างความรู้ความเข้าใจกับลูกค้าโดยตรง
นอกจากนั้นแมนพาวเวอร์ยังมีแผนจัดกิจกรรมพิเศษเกี่ยวกับสถานการณ์ตลาดแรงงาน เช่น การรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับกฎหมายแรงงาน ฯลฯ
ในส่วนของการสรรหาบุคลากร จะเน้นรูปแบบการรับสมัครผ่านกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ การโรดโชว์ในมหาวิทยาลัยต่างๆ การออกบูทในงาน Job Fair เปิดโอกาสให้ผู้ที่ต้องการสมัครงานได้งานที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด
ส่วนแผนขยายสาขาและขยายไลน์ธุรกิจของบริษัทนั้นก็ยังคงเดินหน้าต่อ โดยจะเปิดเพิ่มเติมที่จังหวัดลำพูน จังหวัดสงขลา และจังหวัดนครราชสีมา หลังจากในรอบปีที่ผ่านมาได้วิ่งเข้าไปเจาะตลาดในหลายพื้นที่ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด เช่น อาคาร ยูไนเต็ด เซ็นเตอร์ อาคารซันทาวเวอร์ อาคารทศพลแลนด์ 3 (บางนา) เขตนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ฯลฯ
และอีกโครงการหนึ่งที่ผู้บริหารแมน พาวเวอร์ไม่ลืมที่จะเอ่ยถึง นั่นคือ การเดินหน้าดำเนินโครงการ Cross Border Recruitment หลังจากเตรียมความพร้อมมาระยะหนึ่ง
"ไซมอน" บอกถึงรายละเอียดของโครงการ Cross Border Recruitment ว่า จะแบ่งการดำเนินการออกเป็น 2 ลักษณะ
ลักษณะแรก เป็นการเปิดตลาดแรงงานไทยในต่างประเทศ ในรูปแบบของการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานในต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้ถือได้ว่าได้รับการตอบรับจากแรงงานเป็นอย่างดี โดยเฉพาะตลาดใหม่อย่างตะวันออกกลาง หรือยูเออี ซึ่งถือว่าเป็นตลาดใหญ่ที่มีความต้องการแรงงาน ต่างชาติสูง รองลงมาเป็นตลาดแรงงานในโซนเอเชีย เช่น ไต้หวัน สิงคโปร์
ลักษณะที่สอง เป็นการจัดส่งแรงงานชาวต่างชาติเข้ามาทำงานในประเทศไทย ในรูปแบบการแลกเปลี่ยนทรัพยากร บุคคล เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดให้มากขึ้น โดยเฉพาะในธุรกิจ engineer, IT และ technology
ซีอีโอหนุ่มชี้ว่า การที่องค์กรแห่งนี้ก้าวมาได้ขนาดนี้ก็เพราะคน ในโอกาสครบรอบ 10 ปี แมนพาวเวอร์จึงได้จัดให้มีโครงการตอบแทนสู่สังคมทั้งในและต่างประเทศมากมาย โดยจะดำเนินการภายใต้หลักการ 4 ประการเช่นเดิม นั่นคือ การพัฒนาด้านการทำงาน การบรรเทาสาธารณภัย การช่วยเหลือผู้อพยพ และการต่อต้านการทารุณกรรมมนุษย์
ในช่วงที่ผ่านมา แมนพาวเวอร์ได้ดำเนินกิจกรรมต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง เช่น การสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการติดตามคนของศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา ในต่างประเทศ แมนพาวเวอร์ อิงก์ บริษัทแม่ก็ได้ให้การสนับสนุนโครงการ Nine Milion Org ช่วยเหลือผู้อพยพ ซึ่งยังมีอยู่เป็นจำนวนมากในภาคเหนือของประเทศไทย
แมนพาวเวอร์ ประเทศจีน ได้จัดตั้งโครงการ Hope School Project ช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในมณฑลเสฉวน โดยระดมเงินจากพนักงานแมนพาวเวอร์ เพื่อนำไปสร้างโรงเรียนในเขตพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ
จะว่าไปแล้วเรื่องของความรับผิดชอบต่อสังคมถือเป็นพันธะสัญญาที่หยั่งรากลึกอยู่ในวัฒนธรรมองค์กรของบริษัทแห่งนี้ และเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้แมนพาวเวอร์เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
ทั้งหมดคือความมุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการด้วยการพัฒนาคุณภาพและประสิทธิผลและลดต้นทุนในกระบวนการบริหารงานบุคคล ของแมน พาวเวอร์ เพื่อให้ลูกค้าของแมนพาวเวอร์สามารถจัดการและบริหารธุรกิจได้อย่างเต็มประสิทธิภาพภายในกลยุทธ์หลัก 5 ประการ นั่นคือ การพัฒนาด้านรายได้ ประสิทธิผลในการให้บริการ การพัฒนานวัตกรรม แนวคิดการเป็นผู้นำ และการพัฒนาองค์กรและวัฒนธรรมองค์กร
เพราะฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่แมน พาวเวอร์จะฝ่ากระแสความผันผวนของเศรษฐกิจ ค่าครองชีพปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ราคาน้ำมันที่ถีบตัวสูงขึ้นฃต่อเนื่อง หลายบริษัทต้องชะลอการลงทุน หลาย โรงงานต้องปิดตัวลง แต่ "แมนพาวเวอร์" กลับลุยไปข้างหน้าด้วยความมั่นใจ
และวันนี้สิ่งที่แมนพาวเวอร์สั่งสมมา ทำให้ฐานกลุ่มลูกค้าขององค์กรแห่งนี้มีมากถึงกว่า 400,000 รายต่อปี ครอบคลุมในทุกขนาดของกลุ่มธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างๆ ทั่วโลก โดยมีสำนักงานให้บริการกว่า 4,500 แห่ง ครอบคลุม 80 ประเทศทั่วโลก มีพนักงานรวมกว่า 30,000 คน
และนี่คือย่างก้าวที่น่าจับตามองของ แมนพาวเวอร์ !!!
หน้า 37

อ้างอิง : matichon.co.th