HR/Management : ทักษะ 6 ด้าน “ติดปีก” ผู้หญิงเก่ง


880 ผู้ชม


HR/Management : ทักษะ 6 ด้าน “ติดปีก” ผู้หญิงเก่ง




การเป็นผู้หญิงเก่ง ยุคใหม่นี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย เพราะโลกเราก้าวหน้าทั้งด้านความรู้และเทคโนโลยี แค่ลองนึกย้อนหลังไปเมื่อราว 4-5 ปีที่แล้วเราก็จะเห็นความแตกต่างมากมายเกิดขึ้น ระหว่างตอนนั้นที่ทุกคนมีความรู้สึกว่าความรู้เรื่องไอทีและการใช้คอมพิวเตอร์ ยังเป็นเรื่องที่ท้าทายความสามารถและยากที่จะเรียนรู้ กับตอนนี้ที่ไม่ว่าจะไปทางไหนก็จะเห็นคนกำลังใช้อุปกรณ์ไฮเทคอย่างใดอย่างหนึ่งอยู่ตลอดเวลา แม้แต่ในร้านอาหารบางแห่งยังให้พนักงานใช้คอมพิวเตอร์พกพาเครื่องเล็กๆ ที่เรียกว่า "ปาล์ม" ในการบันทึกรายการสั่งอาหารหรือเครื่องดื่มแทนกระดาษกับปากกาไปเรียบร้อยแล้ว

จากผลการสำรวจของบริษัทเอคเซนเชอร์ ประเทศไทย ที่นำมาเผยแพร่เพื่อฉลองวันสตรีสากล เมื่อ 14 มีนาคม ที่ผ่านมา เรื่อง “อีกก้าวสำคัญของปี 2554: มิติใหม่สำหรับผู้หญิงทำงาน” ช่วยยืนยันว่าคนทำงานเห็นว่ายุคนี้เห็นว่า ความคุ้นเคยในการใช้งานเครื่องมือไอทีต่างๆ ถือเป็นทักษะที่จำเป็นอันดับต้นๆ ทีเดียว หากต้องการเดินหน้าสู่ความสำเร็จในอีก 3 ปีข้างหน้า

การสำรวจจากผู้ตอบแบบสอบถามราว 4,100 คน ที่เป็นผู้บริหาร องค์กรธุรกิจขนาดกลางและเล็ก ที่มีสาขาหรือมีการติดต่อกับคู่ค้าภายนอกประเทศ จาก 17 ประเทศ เช่น ออสเตรเลีย บราซิล จีน ฝรั่งเศส เยอรมนี อินเดีย ไอร์แลนด์ อิตาลี เนเธอแลนด์ นอร์เวย์ แอฟริกาใต้ สเปน สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ อังกฤษและสหรัฐ เป็นต้น สำรวจผ่านระบบออนไลน์ ระหว่างเดือนธันวาคม 2550 - มกราคม 2551

อายุของผู้ที่ตอบสอบถามมีทั้งยุคเบบี้ บูมเมอร์ (46 ปีขึ้นไป) เจน เอ็กซ์ (36 -45 ปี) และเจน วาย (26 - 35 ปี) จำนวนใกล้เคียงกัน และมีทั้งผู้หญิงและผู้ชายในสัดส่วนใกล้เคียงกัน

นางสาวทิพรัตน์ วงศ์วัฒนะ กรรมการอาวุโส บริษัทเอคเซนเชอร์ ประเทศไทย บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการให้คำปรึกษาแก่บริษัทข้ามชาติบอกว่า ผลการสำรวจความคิดเห็นครั้งนี้พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามให้น้ำหนักว่าทักษะด้านเทคโนโลยี มีความสำคัญที่สุดสำหรับการทำงานในยุคนี้

ผู้หญิง 8 ใน 10 คน (83%) ให้คำตอบว่าพวกเธอพร้อมที่จะเรียนรู้และใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ไม่ว่าจะ บล็อก หรือชุมชนออนไลน์ เพื่อเป็นช่องทางในการเสริมสร้างความสำเร็จในอนาคต และผู้หญิงมากกว่า 3 ใน 4 ส่วน (76 %) คาดการณ์ว่าในอนาคตเทคโนโลยีจะยิ่งทวีความสำคัญ 2 ใน 3 (66 %) คาดว่าการนำเทคโนโลยีมาให้ในการจัดการความสัมพันธ์ของคนเราจะมีการเปลี่ยนแปลงไปอีกมากนับจากนี้ไปจนถึงปี 2554

ผลการสำรวจยังพบด้วยว่ามีผู้หญิงทำงานเพียง 43% เท่านั้นที่รู้สึกว่าพร้อมที่จะแข่งขันในโลกธุรกิจแห่งอนาคตได้อย่างมั่นใจ ขณะที่ผู้หญิง ในประเทศที่เป็นตลาดเกิดใหม่ เช่น อินเดีย จีน บราซิล และแอฟริกาใต้ รู้สึกว่าพวกเธอพร้อมที่จะเดินหน้าสร้างความสำเร็จในโลกอนาคตในปี 2554 มากกว่าเทียบกับความรู้สึกมั่นใจของผู้หญิงยุโรป

แม้ว่าเรื่องไอที เป็นหนึ่งในทักษะจำเป็นและต้องเตรียมพร้อมสำหรับการทำงานยุคนี้ แต่ผลจากการเปลี่ยนแปลงที่ธุรกิจค่อยๆ ย้ายฐานการผลิตจากซีกโลกตะวันตก มาสู่ ซีกโลกตะวันออกมากขึ้นนั้นตลอดเวลาก็ทำให้ คนในโลกแห่งการทำงานจำเป็นต้องมีทักษะและความสามารถที่สำคัญอีกอย่างน้อย 6 ด้าน เพิ่มเข้ามาด้วยจึงจะจัดอยู่ในแถวของคน “เก่ง” ยุคใหม่ ได้อย่างมั่นใจ

กรรมการอาวุโสของเอคเซนเชอร์ กล่าวว่า จากการที่เราคาดการณ์ว่า โลกธุรกิจในปีในอีก 3 ปีข้างหน้านี้ จะมีการย้ายฐานการผลิตออกจากยุโรปมายังเอเชียมากขึ้น โดยเฉพาะในประเทศเกิดใหม่ ทำให้คนในวัยทำงานทั้งชายและหญิงในดินแดนเหล่านั้น ต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเผชิญหน้าและจัดการกับสิ่งท้าทายใหม่ ๆ ไม่ให้พลาดโอกาสใหม่ๆ ที่คาดว่าจะมาพร้อมกับยุคที่อำนาจทางธุรกิจโลกเปลี่ยนเป็นแบบหลายขั้ว (Multi-Polar World)

นอกจากนี้ประเทศที่เป็นตลาดเกิดใหม่ก็เริ่มจะมีศักยภาพในการแข่งขันกับประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา ยุโรป และญี่ปุ่นมากขึ้น กระตุ้นการแข่งขันให้เป็นไปอย่างรุนแรงมากขึ้น บริษัททั้งหลายจึงจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกิจให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมไปกับการเสริมอาวุธทางปัญญาและทักษะในการทำงานให้แก่พนักงานระดับปฏิบัติการให้หลากหลายไปพร้อมกัน

ทั้งนี้ทักษะสำคัญ 6 ด้าน ที่บริษัทข้ามชาติส่วนใหญ่ควรต้องเตรียมพร้อมเสียแต่บัดนี้ เพื่อความสำเร็จในอนาคต ได้แก่

1. ความคล่องแคล่วเฉลียวฉลาด (Agility) พร้อมที่จะรับผิดชอบเพิ่มงานใหม่และงานที่ซับซ้อนกว่าเดิม หน้าที่ที่หลากหลาย หรือแม้แต่การต้องโยกย้ายไปทำงานในที่อื่นๆ

2. ความรับผิดชอบต่อสังคม (Social Responsibility) ตระหนักถึงความสำคัญความรับผิดชอบและดูแลสังคมที่องค์กรควรมี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคนี้คือเรื่องการเข้าใจเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและภาวะโลกร้อน

3. ทักษะด้านการสื่อสารระดับโลก (Global Skills) หรือ ทักษะที่เป็นสากล การทำงานกับคนต่างชาติ ทักษะการติดต่อสื่อสาร,การใช้ภาษาเป็นต้น

4. ด้านเทคโนโลยี ซึ่งเป็นทักษะที่ได้รับความสำคัญอันดับต้นๆ สำหรับแทบทุกคนที่ตอบแบบสอบถาม ความพร้อมในด้านนี้จะเน้นที่การเรียนรู้และสามารถใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น เรื่องบล็อก, เครือข่าย, อีเมล ได้ นอกเหนือจากการใช้ไมโครซอฟต์เวิร์ด, เอ็กเซล, พาวเวอร์พอยท์ ได้แล้ว

5. ความสามารถในการผนวกรวมและยอมรับความหลากหลาย (Inclusion & Diversity) ทักษะในการทำงานกับเพื่อนร่วมงานที่มีวัฒนธรรมที่ต่างกัน การเข้าใจความหลากหลายทางวัฒนธรรม เห็นคุณค่าและยอมรับความแตกต่างทางความคิด

6. การเสริมสร้างสัมพันธภาพทางธุรกิจ (Business Relationships) หรืออาจจะหมายถึงเครือข่ายของผู้อยู่ในสายงานหรืออาชีพเดียวกัน สังคมเดียวกัน สนใจเรื่องคล้ายกัน รวมไปการติดต่อสังสรรค์กับคนอื่นๆ เพื่อทำความรู้จักและสร้างมิตรภาพใหม่ๆ เพิ่มขึ้น

น่าเสียดายที่การสำรวจครั้งนี้เน้นไปที่ตลาดเกิดใหม่ ไม่ได้มุ่งเน้นผู้ร่วมตอบแบบสอบถามจากไทยเข้าไปด้วย แต่ก็ทำให้เราได้รู้ว่าคนทำงานในบริษัทระหว่างประเทศทั้งหลายควรมีทักษะประการใดบ้าง

นอกจากนี้ กรรมการอาวุโสของเอคเซนเชอร์ ยังกล่าวอีกด้วยว่า การจัดการทรัพยากรบุคคลอย่างเหมาะสม ตั้งแต่การสรรหา พัฒนาและรักษาผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม เป็นสิ่งที่องค์กรไม่อาจละเลยได้ พร้อมทั้งแนะนำว่า องค์กรควรวิเคราะห์ก่อนว่าในอีก 3 ปีข้างหน้า องค์กรของเราต้องการทักษะแบบไหน และเราต้องทำอะไรเพิ่มเติมเพื่อจะได้แข่งขันกับตลาดได้ เพื่อจะได้เตรียมความพร้อมเสียแต่บัดนี้ และสิ่งสำคัญที่มองข้ามไม่ได้เช่นกัน คือทักษะต่างๆ นั้นองค์กรต้องช่วยสร้าง ไม่ใช่สิ่งที่พนักงานจะทำได้ตามลำพัง

เธอยังกล่าวด้วยว่า บริษัทต่างๆ ควรตระหนักถึงความสำคัญและความจำเป็นในการจัดฝึกอบรมและพัฒนาเพื่อเพิ่มทักษะการทำงานให้แก่พนักงานในองค์กรอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ บริษัทที่มีผลประกอบการดีเด่นหลายแห่งต่างยอมรับว่า การลงทุน พัฒนาศักยภาพของบุคลากรมีความสำคัญต่อองค์กรอย่างมาก เพราะจะช่วยให้องค์กรมีขีดความสามารถในการแข่งขันได้อย่างยั่งยืนและมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น

ถ้าองค์กรใดรู้สึกว่ามีทักษะเหล่านี้พร้อมแล้ว ก็เตรียมตั้งเป้าสู่ถนนสายนานาชาติได้เลย....

 

โดย : ทวีวัฒนา ทุนคุ้มทอง


อัพเดทล่าสุด