ประเมินตนเองแบบผู้นำที่มีฝีมือ
กิจกรรมที่สำคัญอย่างหนึ่งของผู้บริหาร คือ การประเมินความสำเร็จในการบริหารงานของตนในระยะเวลาที่ผ่านมา
ส่วนใหญ่ก็มักเป็นการประเมินตามวาระการทำงานโดยเฉพาะการประเมินในช่วงปลายปี ถ้าเป็นกระทำแบบพอเป็นพิธี ก็มักปรากฏในรูปแบบของการแถลงผลงาน เป็นแค่บอกกล่าวว่าได้ทำอะไรไปบ้าง ซึ่งก็พอรับได้หากมีการบอกกล่าวว่างานที่ทำไปนั้น สำเร็จหรือไม่สำเร็จมากน้อยเพียงใด มีอะไรยังติดขัดอยู่บ้าง คือ ยอมบอกทั้งที่ได้ทำและที่ยังทำไม่สำเร็จ แต่ที่พบเห็นกันบ่อยครั้งจะเป็นแค่บอกว่าทำอะไรไปแล้วบ้าง แต่ไม่ยอมบอกที่ยังทำไม่เสร็จ ฟังแล้วเหมือนกับว่าประสบความสำเร็จอย่างงดงาม การประเมินตนเองในแบบนี้ไม่สามารถแสดงให้เห็นฝีมือของผู้บริหารในช่วงเวลาการทำงานที่ผ่านมา บอกได้แค่ว่าท่านได้ทำงานไปบางอย่าง แต่งานนั้นสำเร็จมากน้อยแค่ไหนไม่มีใครทราบได้ ผู้บริหารหลายคนจึงชอบใช้วิธีการแถลงผลงานมากกว่าที่จะเปิดโอกาสให้มีการประเมินผลงานที่แท้จริงของตน
การประเมินความสำเร็จในการบริหารงานของผู้บริหารนั้น มีการเสนอแนะไว้มากมายหลายวิธี แต่มีวิธีหนึ่งที่น่าสนใจ คือ ใช้หลักการที่ว่า จะประเมินอะไร ต้องรู้ให้ชัดเจนก่อนว่าเรื่องนั้นทำเพื่ออะไร ผู้บริหารจึงต้องเริ่มต้นการประเมินผลงานของตนเอง จากการประกาศให้ชัดเจนก่อนว่าจะไปทางไหน จะทำอะไร จะทำเมื่อใด ซึ่งที่จริงแล้วก็เป็นคล้ายกับการประกาศยุทธศาสตร์ บางครั้งก็เรียกกันว่าการแถลงนโยบายบ้าง การแสดงวิสัยทัศน์บ้าง แต่ถ้อยคำที่ประกาศเป็นยุทธศาสตร์ไว้นั้น อาจเป็นแค่แนวทางกว้างๆ ดังนั้น จึงต้องประกาศกันอีกครั้งให้ชัดเจนว่าจะทำอะไร ในการประเมินผลการบริหารในฐานะผู้บริหารที่มีฝีมือนั้นคงไม่ใช่แค่เอาผลงานที่เกิดขึ้นในองค์กรที่ตนเองเป็นผู้บริหารอยู่มากองไว้ข้างหน้า แล้วประกาศว่าเป็นความสำเร็จของตนเอง เพราะต้องยอมรับความจริงว่าหลายครั้งที่สรรพสิ่งทั้งหลายค่อยๆ พัฒนาเกิดขึ้นมาเองได้ โดยผู้บริหารมีส่วนส่งเสริมให้เกิดขึ้นน้อยมาก พูดกันตรงๆ ได้ว่าใครมาเป็นผู้บริหารก็ได้ผลงานแบบเดียวกัน ผลงานนั้นจะค่อยๆ เกิดขึ้นมาเอง การกล่าวอ้างสรรพสิ่งที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัวมาเป็นผลงานจากการบริหารของตน จึงเป็นการกล่าวอ้างที่เกินเลยไปจากฝีมือที่ตนเองมีอยู่มากไปหน่อย
การประเมินฝีมือของผู้บริหารในช่วงเวลาที่ผ่านมา ต้องมีการทบทวนกันอีกครั้งว่าในตอนเริ่มต้นรับหน้าที่บริหารนั้น ท่านได้บอกไว้หรือไม่ว่าท่านให้ความสำคัญกับเรื่องใด คุณค่าที่ท่านให้ความสำคัญคืออะไร ท่านได้บอกไว้ด้วยหรือไม่ว่าเป้าหมายของท่านในการบริหารงานนั้นคืออะไร และได้บอกกล่าวว่าท่านจะนำพาองค์กรไปถึงเป้าหมายนั้นได้อย่างไร การประเมินฝีมือผู้บริหารที่เริ่มต้นแบบนี้ ทำให้ผู้บริหารที่ต้องทำงานแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปวันหนึ่งๆ ได้มีสติที่จะย้อนกลับมาคิดถึงสิ่งที่ตั้งใจจะทำ ได้ย้อนกลับไปจัดลำดับความสำคัญว่าเรื่องใดควรมาก่อน เรื่องใดควรมาทีหลัง และ ที่แน่ๆ ก็คือ ได้ทบทวนว่าตนเองยังเดินทางไปในทิศทางที่จะไปถึงเป้าหมายที่วางไว้อยู่หรือไม่ ถ้ามัวแต่แก้ปัญหาหลากหลายที่วิ่งเข้าไปเรื่อยๆ ในแต่ละวัน ปลายปีอาจพบว่าทุกอย่างที่ได้ทำไปนั้น ไม่มีสักอย่างที่เป็นสิ่งที่อยู่บนเส้นทางไปสู่เป้าหมายที่กำหนดไว้ได้ ตั้งใจจะทำให้เป็นบริษัทชั้นนำของโลก แต่ไตรมาสแรกทุ่มเทแก้ปัญหาน้ำท่วมโกดัง ไตรมาสที่สองทุ่มเทแก้ปัญหาการขนส่งสินค้าเข้าออกจากบริษัทผ่านถนนที่ชำรุดจากน้ำท่วมตอนต้นปี ไตรมาสที่สามหมดเวลาไปกับการแก้ปัญหาการลักขโมยจากชุมชนใกล้เคียงที่หมดตัว เพราะน้ำท่วมตอนต้นปี ไตรมาสสุดท้ายใช้เวลาแทบทั้งหมดรักษาภาพลักษณ์ของบริษัทหลังจากถูกโจมตีว่าโรงงานของบริษัทเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดน้ำท่วม เมื่อดูงานทั้งปี ผู้บริหารก็มีงานทำสำเร็จมากมายหลายอย่าง แต่ไม่ใช่งานที่เป็นไปตามที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าตั้งรับได้ดี แต่นำไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ได้ไม่ดี จะประเมินว่าตนเองเก่งมาก คงยอมรับได้ยาก
ดังนั้น การทบทวนสิ่งที่ผู้บริหารได้ประกาศเป้าหมาย และคุณค่าที่จะใช้ในการบริหารงานอีกครั้งก่อนที่จะป่าวประกาศความสำเร็จ จะช่วยให้ทั้งผู้บริหารและผู้คนที่ทำงานในองค์กรนั้นรู้ตัวว่าทั้งปีที่ผ่านมา ตนได้นำพาองค์กรของตนเข้าใกล้เป้าหมายมากน้อยเพียงใด ยังเดินหน้าไปได้หรือแค่ยืนแก้สารพัดปัญหาอยู่ที่เดิม เก่งมากก็เดินหน้าท่ามกลางสารพัดปัญหาได้ เก่งน้อยก็ขยับไปข้างหน้าได้บ้างแต่ส่วนใหญ่วุ่นอยู่กับสารพัดเรื่องเดิมๆ ถ้าไม่เก่งก็ไม่ไปไหน แก้ปัญหาเดิมๆ อยู่ที่เดิม ถ้าไม่ทบทวนเป้าหมายและคุณค่าก่อนการวัดฝีมือผู้บริหารแล้ว ผู้บริหารทุกคนย่อมเป็นคนเก่งทั้งหมด เว้นเสียแต่ว่าเอาแต่นั่งเฉยๆ ไม่ทำอะไรเลย นอกจากเซ็นแฟ้มกับเดินชมกิจการ
เพื่อให้มั่นใจว่าได้พยายามนำพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ ไปพร้อมกับการแก้ปัญหาจุกจิกนานาประการที่รุมล้อมอยู่รอบตัว ขอให้ลองมองย้อนไปดูผลงานที่ผ่านมาว่าสิ่งที่ได้ทำไปนั้นสอดคล้องกับเป้าหมายและคุณค่าที่ได้ประกาศไว้หรือไม่ ลองถามตนเองว่าสิ่งที่ได้ทำมานั้น มีผลลัพธ์ใดบ้างที่ช่วยส่งเสริมให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้บ้าง ทั้งนี้ เพื่อให้ไม่หลงสนุกอยู่กับการขจัดปัดเป่าปัญหาจุกจิกเฉพาะหน้า จนกระทั่งหลงลืมการขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายที่ได้กำหนดไว้ ฝีมือของผู้บริหารจะมีมากหรือน้อยไม่ได้อยู่ที่ปริมาณของงานที่ได้ทำ แต่อยู่ที่ความสำเร็จของการขับเคลื่อนองค์กรไปสู่เป้าหมายที่ได้กำหนดไว้ได้มากน้อยเพียงใด ถ้าเก่งจริงและไม่หลอกตนเองแล้ว คงไม่ยากที่จะประเมินตนเองว่าการบริหารงานที่ผ่านมาได้ ทำให้เกิดความสำเร็จมากน้อยเพียงใดในการเดินหน้าสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ ถ้าหลงตนเองแล้ว ทำอะไรก็ดูเป็นความสำเร็จไปได้ทั้งหมด แต่คนอื่นกลับเห็นเป็นเพียงภาพลวงตาของความสำเร็จบนความล้มเหลวที่เกิดขึ้นอย่างซ้ำซากขององค์กรนั้น
โดย : ดร.บวร ปภัสราทร / bangkokbiznews.com