บุคลิกภาพเพื่อความสำเร็จ ในธุรกิจเครือข่าย
ธุรกิจเครือข่าย (Network Business) หรือที่เรียกกันจนติดปากว่า “ธุรกิจขายตรงแบบ MLM” เป็น ธุรกิจที่ผู้ที่ทำธุรกิจจำเป็นจะต้องให้ความสำคัญกับ “บุคลิกภาพ” เป็นอย่างยิ่ง เปรียบเสมือน “ใบเบิกทาง” ในอาชีพที่สำคัญยิ่ง หากผู้ที่มีบุคลิกภาพที่ดีก็จะสามารถ สร้างความน่าสนใจ สะดุดตา และน่าเชื่อถือให้แก่ผู้พบเห็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งแล้วส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่ไม่รู้จักกันมาก่อน ดังนั้นหากมีบุคลิกภาพดีก็มีชัยไปกว่าครึ่งได้ ซึ่งบุคลิกภาพเป็นสิ่งที่จำเป็นจะต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อนำไปสู่ความสำเร็จในอาชีพอย่างแท้จริง บุคลิกภาพ (Personality) หมายถึง ภาพรวม หรือโครงร่างการแสดงออกของบุคคลที่สามารถเห็นได้ในลักษณะเฉพาะด้านต่างๆ ของบุคคล ที่มีพื้นฐานมาจากพันธุกรรม สิ่งแวดล้อม และสถานการณ์ บุคลิกภาพของคนเราที่เกิดขึ้นมาเป็น “พื้นฐานบุคลิกภาพ” ในปัจจุบันนั้นมาจากปัจจัยองค์ประกอบ 3 ด้าน ได้แก่ - อิทธิพลทางพันธุกรรม (Heredity) เป็นสิ่งที่ก่อตัวอยู่ภายในตนซึ่งได้แก่ “โครโมโซม” และ “ยีน” ทำหน้าที่ส่งเป็น “อิทธิพลพื้นฐาน” ที่ส่งผลต่อบุคลิกภาพ พฤติกรรม อารมณ์ ตั้งแต่เด็กจนโตขึ้นมา เช่น พ่อแม่เป็นคนที่มีบุคลิกภาพอารมณ์ร้อน ลูกก็มีแนวโน้มสูงที่จะเป็นคนอารมณ์ร้อน พ่อแม่รักกีฬาและมีทักษะด้านกีฬาสูง ลูกก็มีแนวโน้มที่จะสนใจและรักการเล่นกีฬา เป็นต้น - อิทธิพลจากสิ่งแวดล้อม (Environment) เป็นอิทธิพลที่ประกอบด้วย “สังคม วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม ประเพณี ภาษา การอบรมสั่งสอนจากคนรอบตัว” ที่หล่อหลอมและพัฒนาบุคลิกภาพของคนเราแบบค่อยเป็นค่อยไป รวมถึงทำให้มีค่านิยม ทัศนคติ และบรรทัดฐานของคนในความคิด และการกระทำเป็นอย่างใดอย่างหนึ่งออกมาอีกด้วย ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปนานเข้าก็จะส่งผลต่อบุคลิกภาพของคนได้มากขึ้น เหนือกว่าอิทธิพลทางพันธุกรรมได้ - อิทธิพลตามสถานการณ์ (Situation) ถึงแม้ว่าบุคลิกภาพของคนเราจะเปลี่ยนแปลงแก้ไขแบบค่อยเป็นค่อยเพราะต้องใช้เวลาหล่อหลอมและพัฒนาก็ตาม แต่บางครั้งสถานการณ์บางลักษณะได้แก่ “อาชีพ สังคมใหม่ๆ ลักษณะงาน และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแบบทันทีทันใด” สามารถส่งผลให้คนมีการเปลี่ยนบุคลิกภาพได้ตาม การเปลี่ยนแปลงนั้นๆ เพื่อความเหมาะสม เช่น นักบัญชีที่เงียบสงบ สันโดษ เมื่อมาทำงานขาย ต้องพบปะผู้คน เข้าสังคม เฮฮา ต้องปรับเข้ากับคน หรือคนที่ชอบหัวเราะ เฮฮา เสียงดัง ขำขัน แต่เมื่อเข้าวัดต้องปรับเป็นคนสงบเสงี่ยมตามกาลเทศะ เป็นต้น บุคลิกภาพของคนเรา มี “โครงสร้างบุคลิกภาพ” 5 ประการ ที่เป็นตัวควบคุมภาพใหญ่ของตนเอง ดังนี้ - บุคลิกภาพโอนอ่อนผ่อนตาม (Agreeableness) มากหรือน้อย - บุคลิกภาพด้านความรอบคอบ (Conscientiouness) มากหรือน้อย - บุคลิกภาพด้านความมั่นคงทางอารมณ์ (Emotional Stability) มากหรือน้อย - บุคลิกภาพการเปิดเผย (Extraversion) มากหรือน้อย - บุคลิกภาพแบบเปิดใจกว้างต่อประสบการณ์ (Openness to Experience) มากหรือน้อย ซึ่งจะทำให้คนเรามีพื้นฐานแตกต่างกันในด้านต่างๆ มากบ้าง น้อยบ้างของบุคลิกภาพแต่ละคน การแสดงออกบุคลิกภาพของคนที่เหมาะสมกับอาชีพนักธุรกิจเครือข่าย เรียกว่าเป็น “พื้นฐานบุคลิกภาพของอาชีพนักธุรกิจเครือข่าย” ที่ควรจะมีได้แก่ 1.กล้าได้กล้าเสีย (Enterprising) เป็นบุคลิกภาพอย่างแรกที่ต้องเป็นคนที่ต้องการการทำงาน และต้อง การกิจกรรมที่ท้าทาย มีอิทธิพลต่อกลุ่มคน มีคุณลักษณะ มั่นใจตนเอง มุ่งมั่น ฉับไว มีภาวะผู้นำที่ดีได้ 2.ชอบสังคม (Social) เป็นบุคลิกภาพที่ชอบกิจกรรมที่มีปฏิสัมพันธ์ มีคุณลักษณะ ชอบสังคม เป็นมิตรชอบช่วยเหลือคนอื่นๆ เช่น ช่วยเหลือในการทำงาน ช่วยเหลือสังคม ช่วยเหลืองานต่างๆ ในองค์กร 3.ยึดถือรูปแบบ (Conventional) เป็นผู้ที่มีบุคลิก ภาพในการทำงานที่มีแบบแผนให้เป็นกรอบปฏิบัติและพร้อมจะผ่อนตามตามความเหมาะสมของภาพรวมเพื่อให้เกิดผลดีกับทุกฝ่ายได้ บุคลิกภาพเป็นสิ่งสำคัญในอาชีพธุรกิจเครือข่ายเป็นอย่างมาก ดังนั้นการพิจารณาปรับบุคลิกภาพที่เหมาะสมเป็นเรื่องจำเป็นตาม “เกณฑ์บุคลิกภาพ 4 ด้าน” ที่ดีดังนี้ 1.บุคลิกภาพทางกายภาพ (Physical Personality) บุคลิกภาพทางกายภาพ คือ บุคลิกภาพที่มองเห็นได้โดยทั่วไปของแต่ละบุคคล > การพูด - การใช้คำพูดที่เหมาะสม สุภาพ อยู่เสมอ - น้ำเสียงต้องมีพลัง และน้ำหนัก สูง-ต่ำ ของเสียง ทั้งนี้ให้เหมาะกับ เนื้อหา สถานการณ์ เวลา สถานที่ สิ่งแวดล้อม และผู้ฟัง ตามกาลเทศะ - การเปล่งเสียง ให้ชัดถ้อยชัดคำถูกหลักไวยากรณ์ และภาษา - ไม่ใช้ แสลง ภาษาวัยรุ่น ภาษาวิบัติ ซึ่งเป็น “ขยะภาษา” - มีความสุภาพในการพูดคุยเสมอ > สายตา - การใช้สายตาสื่อความหมายกับคู่สนทนากับเรื่องที่พูดอย่างเหมาะสม (ประกอบคำพูดหรือท่าทาง) - สบตากับผู้คนอย่างเหมาะสม อย่ากลัวสายตาคน หรืออย่าจ้องจนเสียมารยาท - ไม่สวมแว่นดำ เป็นการเสียมารยาทในการพบปะผู้คน > ท่าทาง - พื้นฐานอิริยาบถ อกผาย ไหล่ผึ่ง หลังตรง เป็นธรรมชาติและดูกลมกลืนกัน - การนั่ง นั่งหลังตรง ชิดพนักพิง หลังไม่โค้งงอหน้าหรือหลัง ฝ่าเท้าแนบกับพื้น ขาต้องไม่นั่งแบบไขว่ห้าง ไม่ไขว้ข้อเท้า ไม่เขย่าขาไปมา จิกปลายเท้ากับพื้น หรือเปิดปลายเท้า ดูเสียมารยาทและดูขาดความเชื่อมั่น ในขณะที่ผู้ที่มีความเชื่อมั่นและผู้นำนิยมจะนั่งหน้าและท่าทีสง่าผ่าเผย - ท่ายืน การยืนที่สง่าคือ ฝ่าเท้าห่างในช่วง 1 ฝ่าเท้า หรือไม่เกินไหล่ของตนเอง หากเป็นผู้ชายหรือคนตัวใหญ่ มั่นคง นิ่ง ไม่โอนเอน - การเดิน ระยะก้าว 2 เท้าต้องเท่ากัน น้ำหนักเท่ากัน จังหวะสม่ำเสมอ ยกเท้าเดินไม่ลากเท้าหรือเดินเสียงดัง โดยส่วนใหญ่แล้วผู้ที่มั่นใจในตนเองและผู้นำจะเดินค่อนข้างเร็วกว่าคนอื่นๆ ไม่เดินทอดน่อง > การใช้มือประกอบ - การใช้มือประกอบการสนทนา ต้องพอเหมาะสม - การจับมือ ต้องหงายมือเล็กน้อย แสดงถึงความสุภาพ (คว่ำมือ คือการแสดงอำนาจ) - การผายมือแนะนำคน หรือประกอบ - ไม่ควรมือล้วงกระเป๋า แคะ แกะ เกา เกร็ง เกี่ยว กุม ซึ่งดูไม่ดี > การแต่งกาย - แต่งกายตามความเหมาะสมของกาลเทศะ และโอกาส รวมถึงเนื้อผ้าและสีสันด้วย สีไม่ควรมีมากกว่า 3 สีในร่างกาย หากเป็นเชิงทางการหรือวิชาการ - สะอาดสะอ้าน - กลิ่นสะอาด หอม อาจใช้น้ำหอม ที่เพิ่มความหอมได้ แต่ต้องไม่ฟุ้งเกินไป และกลิ่นที่เหมาะสมกับกิจกรรม - สำหรับสุภาพบุรุษ รองเท้าสีดำคือสีที่เหมาะกับทุกโอกาส สุภาพสตรี ต้องเหมาะกับชุดและสีของชุด รวม ถึงเครื่องประดับ ปากกา นาฬิกา กระเป๋า ที่มีคุณภาพ (อย่าใช้ของปลอม) สามารถเสริมบุคลิกภาพที่ดีได้อย่างมาก 2.บุคลิกภาพทางสติปัญญา (IQ Personality) คือ บุคลิกภาพที่สะท้อนทางความรู้ของคน ที่สามารถแสดงออกให้ผู้อื่นพบได้จากการสะท้อนออกมาของบุคลิกภาพในการแสดงความคิดเห็นต่างๆ - การเป็นผู้ใฝ่รู้ - การพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องในการเสาะแสวง หาความรู้เพิ่มพูนศักยภาพของตนเอง - สามารถนำองค์ความรู้ด้านต่างๆ มาประกอบและสังเคราะห์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ - การเป็นแหล่งความรู้ - สามารถถ่ายทอดความรู้ให้กับคนอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ - พร้อมต่อการเป็นศูนย์กลางข้อมูลความรู้ของบุคคลรอบข้าง - การสนับสนุนให้ผู้อื่นเรียนรู้ - กระตุ้นให้ผู้อื่นเรียนรู้และพัฒนาตนเอง - เป็นที่ปรึกษาในการแนะนำให้ผู้อื่นเรียนรู้และพัฒนาตนเอง - แสดงความรู้อย่างชาญฉลาด - การคิดริเริ่มสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ที่เป็นประโยชน์อยู่เสมอ - สอนงานแบบเป็นผู้ช่วยเหลือ ไม่ใช่ “อวดความรู้” ต่อคนอื่น - ใช้ความรู้และสติปัญญาเพื่อ “เสริมสร้างความเป็นผู้นำ” ไม่ใช้แบบ “ยกตนข่มท่าน” - พร้อมในความรู้ของธุรกิจเครือข่าย - สามารถแสดงปฏิภาณไหวพริบที่ดีในองค์ความรู้ของธุรกิจเครือข่ายและแบ่งเวลาเรียนรู้และให้ค่าน้ำหนักของธุรกิจดังนี้ - ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ (42%) - ความรู้เกี่ยวกับตลาด ลูกค้า (17%) - ความรู้เกี่ยวกับบริษัท (13%) - ความรู้เกี่ยวกับเทคนิคการขาย (24%) - อื่นๆ ทั่วไป (4%) 3.บุคลิกภาพทางสังคม (Social Personality) - การรับประทาน - ไม่มูมมาม รีบเกินไป ช้าเกินไป - การใช้ชุดช้อน ซ่อน จากข้างนอกสู่ข้างใน ให้ถูกต้อง - การรินเครื่องดื่ม ต้องเหลือเนื้อที่ประมาณ 1 ซ.ม. ขอบบนแก้ว ไม่ปริ่มขอบแบบร้านอาหารที่พยายามยัดเยียดให้ลูกค้า - การถือแก้ว ต้องมั่นคง นิ้วก้อยประคองฐานใต้แก้ว ห้ามชี้ออก - การยกแก้ว ใช้นิ้วก้อยแตะดันที่รอง เอียงแก้วเล็กน้อย แล้วยกขึ้นดื่ม (อย่าก้มหน้าลงไปดื่มที่แก้ว) - การแสดงตนในสังคม - เป็นมิตร อารมณ์ดี เข้าได้กับทุกคน และวางตัวเหมาะสม - เป็นผู้ฟังที่ดี มากกว่าผู้พูดที่เก่ง - ให้เกียรติคนเสมอในทุกสถานะ และโอกาส - ยอมรับความแตกต่างระหว่างพื้นฐานของคนต่างๆ - พยายามจดจำชื่อ และนามสกุลของบุคคลต่างๆ และรายละเอียดเกี่ยวกับคนเหล่านั้น เพื่อการสนทนาครั้งต่อๆ ไป - แสดงออกถึงความเชื่อมั่นในตนเอง - เป็นผู้ที่เปี่ยมด้วยความรับผิดชอบ 4.บุคลิกภาพในการทำงาน (Working Personality) การเป็นวิทยากร - เป็นนักเตรียมการ - มีการเตรียมการที่ดีในเนื้อหา อุปกรณ์ และเหมาะสมกับเวลาและหัวข้อ มีสมาธิ ไม่ประหม่า - รู้จักซักซ้อมที่ดี - มีการทดลองพูด และการจับเวลา - พร้อมก่อนการเริ่ม - มาถึงก่อนเวลาเล็กน้อย เพื่อการดูสถานที่ และการเตรียมการเรื่องอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงทำสมาธิต่อการเริ่ม - รู้จักวิเคราะห์ผู้ฟัง - ต้องพิจารณาพื้นฐาน เพศ ระดับอายุเฉลี่ย อาชีพ ความรู้ ลักษณะกลุ่ม ประกอบ - ทักษะแนะนำตัวตามลำดับ - กล่าวขอบคุณ - ทักทายในการถูกเชิญ - แนะนำชื่อ - นามสกุล - แนะนำสถานภาพการศึกษา (ไม่เกิน 3 ระดับ) - ประสบการณ์จากอดีต-ปัจจุบัน เฉพาะที่สำคัญๆ - สถานภาพทางครอบครัว ณ ปัจจุบัน - ประสบการณ์ด้านอื่นๆ ประกอบ และการช่วยสังคม - ทักษะใช้ไมโครโฟน - ต้องปรับไมล์หรือถือให้อยู่ในระดับ 1 ฝ่ามือใต้คาง เพื่อไม่ให้บดบังบุคลิกภาพที่ดี - ใช้ปลายนิ้ว หรือเล็บสะกิด เพื่อทดสอบการเปิด อย่าเคาะ อย่าออกเสียงนับเลข หรือทำเสียง จุ๊ จ๊ะ - ไม่กวัดแกว่งไมล์ไปมา ขึ้นลง เพราะดูบุคลิกไม่ดี - ใช้มือในการประกอบตามความเหมาะสม ไม่ แคะ แกะ เกา ดึง เกี่ยว ส่วนต่างๆ ของร่างกาย หรือสิ่งอื่น > กระบวนการพูด 1.การเริ่มต้นทักทาย ต้องเริ่มที่ประธานในงานนั้นเป็นลำดับแรก และอาจมีบุคคลสำคัญอื่นอีกแต่ไม่เกินอีก 1 ท่าน และลำดับที่ 3 ต้องเป็นภาพรวมของกลุ่มผู้ฟังที่เหลือ (การพูดชื่อ ยศ และตำแหน่งต่างๆ ต้องถูกต้อง) 2.เริ่มต้นเนื้อหา ต้องตื่นเต้น น่าสนใจ อาจเริ่มต้นด้วยโคลง กลอน คำถาม พาดหัวข่าว หรือคำกล่าวของบุคคลสำคัญ 3.การเดินเรื่อง ตามลำดับเนื้อหากำหนดการ เน้นย้ำประเด็นสำคัญ สังเกตพฤติกรรมผู้ฟัง กระตุ้นให้น่าสนใจ สื่อสาร 2 ทาง อย่าออกนอกประเด็น ยาวให้บั่นสั้นให้ต่อ รักษาเวลา 4.สรุปจบต้องจับใจ การสรุปภาพรวมและมีวาทศิลป์ ในการจบ 5.หลังประโยคสุดท้าย ต้องมีคำว่า “สวัสดี” หรือ “ขอบคุณ” > บุคลิกภาพในการพบลูกค้า - มีความน่าเชื่อถือ - วางตนให้เหมาะสม สง่างาม บุคลิกน่าเชื่อถือ - พูดและท่าทางดี - มีการใช้คำพูดที่มีความน่าฟัง จังหวะดี เนื้อหาแน่น มีตัวอย่างประกอบ พร้อมตอบข้อสงสัย - เป็นนักกระตุ้น - เป็นผู้ที่มีความสามารถโน้มน้าวใจกระตุ้นให้สนใจ กระตุ้นให้ลงมือตัดสินใจ กระตุ้นให้เริ่มปฏิบัติได้ดี - ช่วยเหลือ - มีความช่วยเหลือทีมงานอย่างต่อเนื่อง และการสอนงาน จากเกณฑ์บุคลิกภาพ 4 ด้าน เปรียบเสมือน พื้นฐานบุคลิกภาพที่ผู้ที่เข้าสู่ธุรกิจเครือข่ายควรจะเรียนรู้ และนำไปปรับใช้ในการทำงาน เพราะบุคลิกภาพที่ดีสามารถส่งเสริมให้บุคคลนั้นๆ เป็นที่ยอมรับชื่นชม เป็น ที่รักใคร่ และเป็นส่วนเสริมสร้างความเชื่อมั่นต่อตนเอง ในการผลักดันตนเองสู่ความสำเร็จตั้งแต่ภายในใจ ทั้งความคิด และการปฏิบัติตามมาสู่ความสำเร็จนั่นเอง
|
|
ที่มา : siamturakij.com