สิทธิตามสัญญาจ้างแรงงานเป็นสิทธิเฉพาะตัว


624 ผู้ชม


สิทธิตามสัญญาจ้างแรงงานเป็นสิทธิเฉพาะตัว




คดีแดงที่  3744/2531

นางรัชนี ก่อวนิช จ.
บริษัทแซนดอซ (ประเทศไทย) จำกัด กับพวก ล.

 

ป.วิ.พ. มาตรา 56
ป.พ.พ. มาตรา 368, 1476
ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ลงวันที่ 16 เมษายน 2515 ข้อ 2
พ.ร.บ. แรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518 มาตรา 10

สิทธิตามสัญญาจ้างแรงงานเป็นสิทธิเฉพาะตัว ไม่เป็นสินสมรสการฟ้องเรียกเก็บเงินตามสัญญาจ้างแรงงานมิใช่เป็นการจัดการสินสมรส หญิงมีสามีจึงมีอำนาจฟ้องคดีได้ตามลำพังตน โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากสามี

เงินค่านายหน้าหรือค่าตอบแทนการขายที่นายจ้างจ่ายให้แก่ลูกจ้างเพื่อตอบแทนการขายอันเป็นการจ่ายตอบแทนการทำงานในเวลาทำงานปกติของวันทำงาน เป็นค่าจ้างตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงาน ข้อ 2 ต้องนำมาเป็นฐานในการคิดคำนวณค่าชดเชยด้วย

นายจ้างกำหนดว่าเงินโบนัสพิเศษจะจ่ายให้เมื่อสิ้นปี ย่อมแสดงว่าลูกจ้างต้องทำงานถึงสิ้นเดือนธันวาคมจึงจะมีสิทธิได้รับเงินดังกล่าว เมื่อลูกจ้างถูกเลิกจ้างก่อนถึงสิ้นเดือนธันวาคม ถูกจ้างก็ไม่มีสิทธิได้รับเงินโบนัสพิเศษ

 

…………………..……………………………………………………………..

 

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นลูกจ้างของจำเลย จำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยโจทก์ไม่มีความผิด เป็นการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม ขอให้บังคับจำเลยจ่ายค่าเสียหายจากการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม ค่าชดเชยส่วนที่ชำระไม่ครบ เงินสะสม เงินโบนัส เงินโบนัสพิเศษ (รางวัลการขาย) ค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปี และออกหนังสือรับรองการทำงานแก่โจทก์

จำเลยทั้งสองให้การว่า โจทก์ไม่ได้รับความยินยอมจากสามีจึงไม่มีอำนาจฟ้อง การเลิกจ้างมิใช่การเลิกจ้างไม่เป็นธรรม ค่าพาหนะและค่านายหน้ามิใช่ค่าจ้าง จำเลยไม่ต้องรับผิดตามฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง

ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า โจทก์มีอำนาจฟ้อง โจทก์มีสิทธิได้ค่าชดเชยเพิ่ม มีสิทธิได้โบนัสพิเศษ ค่าทำงานในวันหยุดพักผ่อนประจำปี ค่าเสียหายจากการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม แล้วพิพากษาให้จำเลยร่วมกันจ่ายเงินแก่โจทก์ ๒๐๖,๐๗๗.๕๐ บาทพร้อมดอกเบี้ย และให้จำเลยออกหนังสือรับรองการทำงานแก่โจทก์

โจทก์และจำเลยทั้งสองอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า แม้โจทก์เป็นหญิงมีสามีฟ้องความโดยไม่ได้รับความยินยอมจากสามี แต่สิทธิตามสัญญาจ้างแรงงานเป็นสิทธิเฉพาะตัวของโจทก์ผู้เป็นลูกจ้าง ไม่เป็นสินสมรส การฟ้องเรียกเงินตามสัญญาจ้างแรงงานมิใช่เป็นการจัดการสินสมรส โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องได้ลำพังตน หาจำต้องได้รับความยินยอมของสามีโจทก์ก่อนไม่ ส่วนเงินค่านายหน้าหรือค่าตอบแทนการขายเป็นเงินที่จำเลยจ่ายแก่โจทก์เพื่อตอบแทนการขายอันเป็นการจ่ายตอบแทนการทำงานในเวลาทำงานปกติของวันทำงาน เงินค่านายหน้าจึงเป็นค่าจ้างตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงาน ฯ ข้อ ๒ ต้องนำมาเป็นฐานคำนวณค่าชดเชยด้วย และจำเลยมีข้อกำหนดว่า เงินโบนัสพิเศษจะจ่ายให้เมื่อสิ้นปี แสดงว่าโจทก์ต้องทำงานถึงสิ้นเดือนธันวาคม จึงจะมีสิทธิได้รับโบนัสพิเศษดังกล่าว โจทก์ทำงานถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๓๐ แล้วถูกเลิกจ้าง โจทก์จึงไม่มีสิทธิได้รับเงินโบนัส

พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยไม่ต้องจ่ายเงินโบนัสพิเศษจำนวน ๖,๐๐๐ บาท แก่โจทก์ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลแรงงานกลาง

 

(สีนวล คงลาภ - จุนท์ จันทรวงศ์ - มาโนช เพียรสนอง )

 

ศาลแรงงานกลาง - นายมงคล คุปต์กาญจนากุล

ศาลอุทธรณ์ -


อัพเดทล่าสุด