ใช้สิทธิลาพักผ่อนประจำปี รวมทั้งวันลาสะสมที่มีอยู่ให้หมดในปีที่พนักงานผู้นั้นจะ "เกษียณอายุ"


731 ผู้ชม


ใช้สิทธิลาพักผ่อนประจำปี รวมทั้งวันลาสะสมที่มีอยู่ให้หมดในปีที่พนักงานผู้นั้นจะ "เกษียณอายุ"




คดีแดงที่  2297/2529

นางสาวชด คำสม กับพวก โจทก์
ธนาคารออมสิน จำเลย

 

ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ฯ ข้อ 10, 45

คำสั่งของจำเลยแจ้งให้พนักงานของจำเลยใช้สิทธิลาพักผ่อนประจำปี รวมทั้งวันลาสะสมที่มีอยู่ให้หมดในปีที่พนักงานผู้นั้นจะเกษียณอายุ หาใช่เป็นการกำหนดให้พนักงานหยุดพักผ่อนในช่วงเวลาใดที่กำหนดไว้แน่นอนไม่ และไม่ปรากฏว่า หัวหน้าฝ่ายหัวหน้ากอง และหัวหน้าหน่วยงานทุกหน่วยงานของจำเลยได้จัดวันหยุดให้พนักงานในสังกัดลาพักผ่อนประจำปี จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยผู้เป็นนายจ้างได้กำหนดให้โจทก์ซึ่งเป็นลูกจ้างหยุดพักผ่อนประจำปีแล้ว เมื่อจำเลยเลิกจ้างโจทก์เพราะเกษียณอายุ จำเลยต้องจ่ายค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีให้โจทก์ตามข้อ 45 แห่งประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน

 

…………………..……………………………………………………………..

 

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ทั้งสิบสี่เป็นลูกจ้างประจำของจำเลยต่อมาวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๒๘ จำเลยเลิกจ้างโจทก์ทั้งสิบสี่โดยอ้างเหตุว่าเกษียณอายุครบ ๖๐ ปีบริบูรณ์ โดยไม่จ่ายค่าชดเชยและค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปี ขอให้ศาลบังคับจำเลยจ่ายเงินค่าชดเชยและค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีพร้อมด้วยดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ทั้งสิบสี่

จำเลยให้การ โจทก์ไม่มีสิทธิได้รับค่าชดเชยและดอกเบี้ยตามฟ้องส่วนวันหยุดพักผ่อนประจำปีได้มีคำสั่งที่ ๕๔/๒๕๒๘ เรื่องกำหนดหลักเกณฑ์ให้พนักงานใกล้เกษียณอายุลาพักผ่อนประจำปี กำหนดให้ใช้สิทธิลาให้หมดในปีที่เกษียณอายุด้วยโจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง

ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยให้แก่โจทก์ที่ ๑ ถึงที่ ๑๔ ตามฟ้อง พร้อมทั้งดอกเบี้ยในเงินดังกล่าวนับแต่วันเลิกจ้างจนกว่าจะชำระเสร็จ คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก

โจทก์ทั้งสิบสี่และจำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า สำหรับข้ออุทธรณ์ของโจทก์ที่เกี่ยวกับค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีว่า ตามคำสั่งที่ ๕๔/๒๕๒๘ ของจำเลยเป็นเรื่องการกำหนดหลักเกณฑ์ให้พนักงานที่ใกล้เกษียณอายุลาพักผ่อนประจำปีให้หมดเท่านั้น หาใช่เป็นการกำหนดให้โจทก์ลาพักผ่อนวันใดถึงวันใดไม่ จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยได้กำหนดวันให้โจทก์หยุดพักผ่อนประจำปีแล้วนั้น พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ตามคำสั่งที่ ๕๔/๒๕๒๘ ของจำเลยนั้น เป็นเพียงหนังสือแจ้งให้พนักงานของจำเลยใช้สิทธิลาพักผ่อนประจำปีรวมทั้งวันลาสะสมที่มีอยู่ให้หมดในปีที่พนักงานผู้นั้นจะเกษียณอายุเท่านั้น หาใช่เป็นการกำหนดให้พนักงานหยุดพักผ่อนในช่วงเวลาใดที่กำหนดไว้แน่นอนไม่ และข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่า หัวหน้าฝ่าย หัวหน้ากองและหัวหน้าหน่วยงานทุกหน่วยงานของจำเลยได้จัดวันหยุดให้พนักงานในสังกัดลาพักผ่อนประจำปีแล้ว จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยผู้เป็นนายจ้างได้กำหนดให้โจทก์ซึ่งเป็นลูกจ้างหยุดพักผ่อนประจำปีแล้ว เมื่อจำเลยยังไม่ได้กำหนดวันหยุดพักผ่อนประจำปีให้แก่โจทก์ที่ ๑๐ ถึงที่ ๑๓ ดังที่ได้วินิจฉัยมาแล้ว และโจทก์ดังกล่าวยังมิได้ใช้สิทธิหยุดพักผ่อนประจำปีเช่นนี้ การที่จำเลยเลิกจ้างโจทก์ที่ ๑๐ ถึงที่ ๑๓ เพราะเกษียณอายุ จำเลยจึงต้องจ่ายค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีให้ ตามข้อ ๔๕ แห่งประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงานลงวันที่ ๑๖ เมษายน ๒๕๑๕ และเนื่องจากกฎหมายกำหนดให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีเมื่อเลิกจ้าง จำเลยไม่จ่ายจึงตกเป็นผู้ผิดนัดต้องเสียดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันเลิกจ้าง

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยเสียดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีสำหรับค่าชดเชยของโจทก์ กับให้จำเลยชำระค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีให้แก่โจทก์ที่ ๑๐ ถึงโจทก์ที่ ๑๓ พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันเลิกจ้างไปจนกว่าจะชำระเสร็จ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลแรงงานกลาง

 

(สุรัตน์ ศรีอนุพันธุ์ - สมบูรณ์ บุญภินนท์ - จำนง นิยมวิภาต )

 

ศาลแรงงานกลาง - นายธวัชชัย พิทักษ์พล

ศาลอุทธรณ์ -


อัพเดทล่าสุด