นายจ้างปิดงาน ลูกจ้างก็มิได้ยื่นใบลาคลอดตามระเบียบเกี่ยวกับการลาของนายจ้าง
สถานประกอบกิจการแห่งหนึ่งมีการแจ้งข้อเรียกร้อง มีการเจรจาระหว่างผู้แทนนายจ้างและผู้แทนลูกจ้าง และได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายแรงานสัมพันธ์ตลอดมาจนตกเป็นข้อพิพาทแรงงานที่ตกลงกันไม่ได้ นายจ้างได้ใช้สิทธิตามกฎหมายแรงงานสัมพันธ์ด้วยการแจ้งปิดงานตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน ครั้นวันที่ 25 พฤษภาคม นายจ้างกับลูกจ้างตกลงกันได้ นายจ้างจึงเลิกการปิดงาน ลูกจ้างกลับเข้าทำงานตามปกติ ลูกจ้างหญิงคนหนึ่งของสถานประกอบกิจการดังกล่าวได้คลอดบุตรในวันที่ 29 เมษายน ซึ่งอยู่ในระหว่างช่วงที่นายจ้างปิดงาน เมื่อนายจ้างเลิกปิดงาน ลูกจ้างอื่นกลับเขาทำงานตามปกติแล้ว ลูกจ้างรายนี้ยังคงไม่ไปทำงานเนื่องจากคลอดบุตร ไปทำงานเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม หลังจากคลอดแล้ว 1 เดือนเต็ม โดยลูกจ้างดังกล่าวไม่ได้ยื่นใบลาคลอดต่อนายจ้างตามระเบียบ ลูกจ้างรายนี้ฟ้องเรียกค่าจ้างในระหว่างการคลอด (ตามกฎหมายฉบับเดิม) ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าการปิดงานของนายจ้างนั้นเป็นการใช้สิทธิตามกฎหมายแรงงานสัมพันธ์ การที่ลูกจ้างคลอดบุตรในช่วงที่นายจ้างปิดงานนั้น แม้ลูกจ้างจะมิได้คลอดบุตรก็จะไม่ได้ไปทำงานให้แก่นายจ้าง ตั้งแต่วันที่ 29 เมษายน ซึ่งเป็นวันคลอดบุตรจนกกระทั่งถึงวันที่ 24 พฤษภาคม อันเป็นวันสุดท้ายที่นายจ้างปิดงาน นายจ้างจึงไม่มีหน้าที่จะต้องชำระค่าจ้างให้ลูกจ้างสำหรับช่วงระยะเวลาดังกล่าว แต่ในช่วงหลังคือตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม ลูกจ้างก็มิได้ยื่นใบลาคลอดตามระเบียบเกี่ยวกับการลาของนายจ้าง ลูกจ้างจึงไม่มีวันลาคลอดอันจะพึงมีสิทธิได้รับค่าจ้างตามกฎหมาย
คำพิพากษาฎีกาที่ 1612/2530