ตัวอย่าง กรณีที่ 2 โครงสร้างค่าตอบแทนบัญชีเดียวไม่ได้ใช้แนวคิด “ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน” อย่างสมบูรณ์
ตัวอย่าง กรณีที่ 2 โครงสร้างค่าตอบแทนบัญชีเดียวไม่ได้ใช้แนวคิด “ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน” อย่างสมบูรณ์
บริษัทหลายแห่งในปัจจุบันหรือแม้กระทั่งรัฐวิสาหกิจหลายๆ แห่งจะมีโครงสร้างค่าตอบแทนเพียงบัญชีเดียว หรือเพียงโครงสร้างเดียว ทั้งนี้ก็เพราะว่า
1) เข้าใจว่าความเป็นธรรมภายในองค์กร (Internal Equity) ในเรื่องของค่าตอบแทนนั้นควรเป็นลักษณะที่เหมือนๆ กันของทุกตำแหน่งหรือทุกสายอาชีพซึ่งการคิดดังกล่าวทำให้นำไปสู่การมีโครงสร้างค่าตอบแทนบัญชีหลักเพียงบัญชีเดียว
2) ลักษณะดังกล่าวทำให้เกิดความแตกต่างในความเป็นธรรมกับภายนอก (External Equity) หมายความว่า บางกลุ่มอาชีพเช่น ตำแหน่งพนักงานหรือผู้บริหารด้านพัฒนาผลิตภัณฑ์ (Product Development) ไม่สามารถทำการว่าจ้างได้ทั้งนี้ก็เพราะว่า
“หากต้องการให้เกิดความเป็นธรรมภายในองค์กร ค่าตอบแทนของตำแหน่งดังกล่าวจะสูงกว่าตำแหน่งที่เทียบกันภายในองค์กร แต่ค่าตอบแทนลดลงมาเท่ากับระดับตำแหน่งภายในองค์กรก็ไม่อาจแข่งขันกับราคาตลาดได้”
เหตุการณ์ที่เล่าอธิบายให้เห็นภาพนี้ เกิดขึ้นก็เป็นอันว่า บริษัทจบเห่แน่ๆ โดยเฉพาะระบบโครงสร้างค่าตอบแทนบัญชีเดียว
ซึ่งบางบริษัทอาจจะแก้ไขปัญหาอย่างถูกวิธีโดยให้ ค่าของความรู้หรือปริญญาตรีของวุฒิปริญญาบัญชี ตามสายอาชีพ เช่น
ฝ่าย ก. เป็นงานด้านวิเคราะห์ตลาดให้ 10,000 บาท
ฝ่าย ข. เป็นงานด้านพัสดุ-จัดซื้อให้ 8,000 บาท
ฝ่าย ค. เป็นงานด้านบัญชีต้นทุนให้ 12,000 บาท
อาจจะแก้ปัญหาระหว่างความเป็นธรรมภายนอกกับความเป็นธรรมภายในบุคคลได้ระดับหนึ่ง แต่แก้ไม่ได้ทั้งหมด
ทางออก ! ที่ดีที่สุดในเรื่องนี้ บางองค์กร/ธุรกิจทำได้ดี เช่น มีค่าตำแหน่งหรือค่าวิชาชีพ ซึ่งช่วยแก้ปัญหาได้จนกระทั่งเกิดความเป็นธรรมใน 3 องค์รวมคือความเป็นธรรมภายในองค์กร ความเป็นธรรมภายในบุคคลและความเป็นธรรมภายนอกองค์กรเทียบกับอัตราตลาด (Market Rate)
3) ไม่ได้นำหลักของระบบคุณธรรม (Merit System) เข้ามาใช้เพราะว่าพนักงานใหม่ทั้ง 3 คนเรียนสาขาบัญชีจากมหาวิทยาลัยชั้นนำแห่งหนึ่งมีผลการเรียน (GPA) เกียรตินิยมถูกบรรจุไปใน 3 ฝ่ายงานคือ ฝ่าย ก. เป็นงานด้านวิเคราะห์ตลาดฝ่าย ข. เป็นงานด้านพัสดุจัดซื้อ และฝ่าย ค. เป็นฝ่ายงานด้านบัญชีต้นทุน
ปรากฏว่า บริษัทแห่งนี้ว่าจ้างอัตราเริ่มต้นของวุฒิปริญญาตรีที่ 10,000 บาท พนักงานทั้ง 3 คน จะได้รับเงินเดือนที่ 10,000 บาททั้ง 3 คน
ถ้ามองความเป็นธรรมในองค์กรถือว่าใช้ได้ แต่ความเป็นธรรมของบุคคลอาจเกิดปัญหาโดยเฉพาะการให้แตกต่างกันตามตัวอย่างข้างต้น ถ้าหากอัตราตลาดของวุฒิปริญญาตรีทางบัญชีข้างนอกอยู่ที่ 12,000 บาท สำหรับผู้ที่ได้รับปริญญาตรีเกียรตินิยม และถ้าหากทำงานที่ตรงสายอาชีพ เช่น บริษัทผู้ตรวจสอบบัญชีอาจจะว่าจ้างที่ 13,500 บาท