นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยเมื่อวันที่ 22 ธ.ค. ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบตามข้อเสนอของกระทรวงการคลังเกี่ยวกับมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการออมเพื่อการชราภาพ กรณีกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (กสล.) โดยในส่วนของ กบข. เป็นมาตรการใหม่เพิ่มเติมจากมาตรการเดิม โดยให้ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินหรือผลประโยชน์ที่สมาชิกได้รับจาก กบข.ในกรณีที่พ้นสมาชิกภาพ จากการเกษียณก่อนกำหนด ทุพพลภาพหรือตาย หากสมาชิกคงเงินหรือผลประโยชน์ไว้ใน กบข.ทั้งจำนวนและขอรับเงินหรือผลประโยชน์เท่านั้น หรือขอทยอยรับเมื่อครบอายุเกษียณ จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีที่มีการโอนเงินหรือผลประโยชน์ที่ได้รับจาก กบข.ไปยังกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (กสล.) ให้สมาชิกได้รับสิทธิประโยชน์ หากเงินหรือผลประโยชน์ที่โอนจาก กบข.ไปยัง กสล. เข้าเกณฑ์ก็ให้ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่หากเงินหรือผลประโยชน์ที่โอนจาก กบข.ไปยัง กสล.ไม่เข้าเกณฑ์อยู่ก่อนแล้ว เมื่อมีการขอรับเงินหรือผลประโยชน์ดังกล่าวออกจาก กสล.ให้เสียภาษีตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ โดยให้นับอายุราชการเดิมรวมกับอายุงานที่เกิดจากการจ้างงานใน กสล. สำหรับมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการออมเพื่อการชราภาพกรณี กสล. จะยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับเงินหรือผลประโยชน์ที่ลูกจ้างได้รับจาก กสล.กรณีที่ออกจากงาน เพราะเกษียณอายุ ทุพพลภาพ หรือตาย แต่ยังคงเงินหรือผลประโยชน์ทั้งจำนวน และได้เพิ่มกรณีที่ลูกจ้างออกจากงานโดยไม่ใช่เพราะเหตุเกษียณอายุ ทุพพลภาพ หรือตาย แต่เมื่อลูกจ้างได้คงเงินหรือผลประโยชน์ไว้ในกองทุนทั้งจำนวน สามารถโอนเงินหรือผลประโยชน์ที่ได้รับจาก กสล.ไปอีก กสล.หนึ่งได้ นายประดิษฐ์ กล่าวต่อว่า ส่วนมาตรการภาษีเพื่อช่วยเหลือคนพิการนั้น นายจ้าง หรือ เจ้าของสถานประกอบการที่รับคนพิการเข้าทำงาน จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และภาษีเงินได้นิติบุคคล เป็น 2 เท่า จากเดิมที่นำไปหักหย่อนภาษีได้เพียง 1 เท่า แต่หากต้องจัดสถานที่หรือมีอุปกรณ์สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้กับคนพิการด้วย ก็ได้รับยกเว้นภาษีนิติบุคคลและบุคคลธรรมเป็น 2 เท่าจากเดิม 1 เท่า นอกจากนี้ ที่ประชุม ครม. ยังอนุมัติให้ขยายเวลาในมาตรการภาษีปรับปรุงโครงสร้างหนี้และโครงสร้าง องค์กร ออกไปอีก 1 ปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. 53 โดยยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และ ภาษีเงินได้นิติบุคคลให้กับลูกหนี้ของสถาบันการเงิน หรือ เจ้าหนี้อื่น เพื่อส่งเสริมให้มีการปรับโครง สร้างหนี้ และลดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ เอ็นพีแอล ซึ่งในปี 51 เอ็นพีแอลปรับลดลง 84,000 ล้านบาท และในไตรมาส 2 ของปีนี้ ปรับลดลง 23,000 ล้านบาท ครม. ยังขยายระยะเวลาการงดจัดเก็บภาษีอากรขาเข้า 13 รายการซึ่งเป็นวัตถุดิบที่ไม่สามารถผลิตในประเทศไทยได้ เช่น ไส้กรองท่อไอเสียจักรยานยนต์ รวมถึงการขยายอากรขาเข้าของถังบรรจุก๊าซธรรมชาติ ถังเหล็ก 4 ประเภทจะหมดอายุลงในสิ้นปีนี้ ขยายเวลาออกไปอีก 1 ปี สิ้นสุด 31 ธ.ค. 53 เนื่องจากประเทศไทยยังไม่สามารถผลิตจำหน่ายเชิงพาณิชย์ได้ ซึ่งการยกเว้นภาษีดังกล่าวทำให้กรมศุลกากรสูญเสียรายได้ 35 ล้านบาท “มาตรการภาษีที่นำเสนอและได้รับอนุมัติจาก ครม.จะช่วยส่งเสริมให้เกิดการออมระยะยาวในประเทศมากขึ้น ช่วยสนับสนุนคนพิการให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบการของไทย ในส่วนผลกระทบรายได้ภาครัฐนั้น คาดว่าจะทำให้รายได้ภาษีอากรลดลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น” รมช.คลัง กล่าว
ที่มา : matichon.co.th |