ข่าวกฎหมาย พจมานขึ้นศาล เป็นพยาน ยึดทรัพย์ทักษิณ

คุณหญิงอ้อขึ้นเบิกความเป็นพยานฐานะผู้ร้องคัดค้านคดีที่อัยการสูงสุดร้องขอให้ทรัพย์สินของ พ.ต.ท.ทักษิณ และบุคคลภายในครอบครัว มูลค่ากว่า 76,000 ล้านบาท..
ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (15 ก.ย.) ว่า ที่ศาลฎีกา เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย  น.ส.พินทองทา ชินวัตร  บุตรสาว และ นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ พี่ชายคุณหญิงพจมาน เดินทางมายังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อขึ้นเบิกความเป็นพยาน ในฐานะผู้ร้องคัดค้าน คดีที่อัยการสูงสุด ร้องขอให้ทรัพย์สินของ พ.ต.ท.ทักษิณ และบุคคลภายในครอบครัว มูลค่ากว่า 76,000 ล้านบาท ที่ได้มาจากการร่ำรวยผิดปกติตกเป็นของแผ่นดิน
ทั้งนี้ ทนายฝ่ายผู้ร้องคัดค้านเตรียมพยานไว้ 1 ปาก คือคุณหญิงพจมาน ขึ้นเบิกความเกี่ยวกับที่มาของทรัพย์สิน และการขายหุ้นในบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น ให้กับกลุ่มทุนเทมาเส็ก ประเทศสิงคโปร์
คุณหญิงพจมาน เบิกความในส่วนของการโอนหุ้น และขายหุ้นให้นายพานทองแท้จำนวน 5,056 ล้านบาท โดยชำระเป็นตั๋วสัญญาใช้เงินรวม 4 ฉบับ และขายหุ้นให้นายบรรณพจน์ เป็นตั๋วสัญญาใช้เงินจำนวน 3 ฉบับ มูลค่ารวม 450 ล้านบาท โดยตนทราบว่า ทั้งสองไม่มีเงินชำระ แต่ได้บอกไม่ต้องรีบ มีเงินเมื่อไหร่ให้มาชำระ ทั้งนี้ เป็นการออกตั๋วสัญญาใช้เงิน ให้ชำระเมื่อทวงถาม โดยไม่มีดอกเบี้ย เนื่องจากเป็นบุตรและพี่ชาย ซึ่งทั้งสองได้ชำระเงินจนครบหมดแล้ว
ส่วนการที่หุ้นได้กำไร หรือได้ปันผล คุณหญิงพจมาน เบิกความว่า ตนและพ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้เงิน ต่อมา ตนได้มอบเงินจำนวน 370 ล้านบาทให้กับนางสาวพินทองทา เนื่องในโอกาสอายุครบ 20 ปี เมื่อวันที่ 17 เมษายน  2545 และลูกสาวนำเงินไปซื้อหุ้นจากนายพานทองแท้ ตนพอทราบบ้าง ส่วนเงินปันผล หรือการขายหุ้น ตนและพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เคยได้รับ การขายหุ้นของบริษัทชิน คอร์ปฯ ให้กับเทมาเส็ก เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2549 ก็เป็นความประสงค์ของบุตรทั้ง 2 คน ส่วนนายบรรณพจน์ ซึ่งพี่ชายได้มีการแจ้งบ้าง ว่าจะขายหุ้น
คุณหญิงพจมาน เบิกความต่อว่า นายบรรณพจน์ให้เหตุผลการขายหุ้น เพื่อนำเงินไปลงทุนเทคโนโลยี3G อีกทั้งมีอายุมากแล้ว จึงต้องการขายหุ้น ตนและพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เคยทราบเรื่องการขายหุ้นดังกล่าว
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนขึ้นเบิกความ คุณหญิงพจมาน เดินทางมาพร้อมบุตรชายและบุตรสาว โดยนางสาวพินทองทาได้สวมกอดและให้กำลังใจแม่ ก่อนขอตัวกลับ ส่วนนายพานทองแท้ นั่งฟังการเบิกความสักพัก ก่อนเดินทางกลับ เช่นกัน

ที่มา ;https://www.thairath.co.th/content/pol/33141