ไอซีทีเปิดระดมความคิดพ.ร.บ.คอมพ์ครบ 1 ปี ก่อนแก้ไขให้เข้าที่ “มั่น”ระบุกฎหมายยังมีช่องโหว่เกิดผลกระทบทั้งเอกชนและรัฐ เบื้องต้นพบต้องระบุกฎหมายให้ชัดเอาผิดเฉพาะผู้ทำผิดโดยเจตนา เผยที่ผ่านมาพบผู้กระทำผิดแล้ว 5,000 รายดำเนินคดีแล้ว 10 ราย นายมั่น พัธโนทัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีที เปิดเผยในงานสัมมนาระดมความคิด“วัดปรอทสังคมไทยหลังประกาศใช้พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ครบ 1 ปี” ของสมาคมคอมพิวเตอร์แห่งประเทศไทย ว่า หลังจากประเทศไทยประกาศใช้พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ออกมาอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 19 ก.ค. 50 ซึ่งมีการบังคับใช้มาครบ 1 ปี จึงถึงเวลาที่จะต้องปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย เช่นเดียวกับกฎหมายฉบับ เพื่อลดช่องว่างกฎหมายฉบับดังกล่าว อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมาพบว่าทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนต่างประสบปัญหาจากการประกาศใช้กฎหมายดังกล่าวเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะกรณีการกระทำผิดเกี่ยวกับกฎหมายคอมพิวเตอร์ที่ผ่านมาไม่ว่าจะทำผิดโดยตั้งใจหรือไม่ก็จะถูกดำเนินการทันที ดังนั้นจึงจำเป็นต้องแก้ไขเจาะลึกดำเนินคดีต่อผู้ที่กระทำผิดโดยเจตนา “ขณะนี้ใครกระทำผิดทางกฎหมายจะถูกดำเนินการโดยทันที ซึ่งผู้ที่จะถูกดำเนินคดีคือ CCO ผู้ดูแลการทำธุรกิจคอมพิวเตอร์ หรืออธิการบดีของสถาบันการศึกษา ทั้งที่บางรายกระทำไปโดยเจตนา ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องมีการแก้ไขกฎหมายเพื่อระบุให้ชัดเจนว่าเป็นการกระทำโดยเจตนา”นายมั่นกล่าว นอกจากนี้ยังมีกรณีที่กฎหมายระบุให้หน่วยงานรัฐ เอกชน อินเทอร์เน็ตคาเฟ่ ต้องมีการจัดเก็บข้อมูลการใช้งาน 90 วัน เพื่อง่ายต่อการตรวจสอบนั้นส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการ เนื่องจากราคาอุปกรณ์ที่ใช้ในการจัดเก็บมีราคาสูงจนส่งผลให้ผู้ประกอบการรายเล็กปิดบริการไปหลายราย ดังนั้นจึงจำเป็นต้องแก้กฎหมายเพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดให้ผู้ประกอบการ นายมั่น กล่าวต่อว่า หลังจากรับฟังความคิดเห็นเรียบร้อยแล้ว ทางกระทรวงและสมาคมจะนำสิ่งที่ต้องแก้ไขมาหารือร่วมกัน หากเรื่องใดสามารถออกเป็นกฎกระทรวงได้ก็จะเร่งดำเนินการให้ก่อน เพราะการออกกฎกระทรวงดำเนินการได้ง่ายกว่าการแก้ไขกฎหมาย ศ.ดร.ศรีศักดิ์ จามรมาน นายกสมาคมคอมพิวเตอร์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า หลังจากประกาศใช้พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ออกมาอย่างเป็นทางการพบว่ายังมีความไม่ลงตัวของกฎหมายกับสภาพสังคมอยู่หลายประการ อาทิ ควรเพิ่มโทษเจ้าหน้าที่ผู้ทำผิดในกฎหมายเสียเอง หรือการกระทำผิดที่ไม่สามารถยอมรับได้ จึงจำเป็นต้องมีการปรับปรุงแก้ไขให้เหมาะสมยิ่งขึ้น ซึ่งในต่างประเทศ เช่น เยอรมนี และสหรัฐอเมริกา ก็มีการแก้ไขกฎหมายคอมพิวเตอร์อยู่หลายครั้งจึงเข้าที่ ทั้งนี้ หลังจากประกาศใช้พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ครบ 1 ปีพบว่ามีผู้ร้องเรียนพบผู้กระทำผิดกฎหมายทั้งสิ้น 5,000 ราย และดำเนินการทางกฎหมายไปแล้ว จำนวน 10 คดี ซึ่งคดีที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่เป็นคดีส่งภาพลามกอนาจาร อย่างไรก็ดี สิ่งที่ควรดำเนินการหลังจากนี้คือควรยกเว้นการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อสถาบันการศึกษา ดำเนินการรวบรวมคดีตัวอย่างเพื่อปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย มีข้อยกเว้นไม่เอาผิดผู้ที่ส่งข้อมูลผิดกฎหมายผ่านอินเทอร์เน็ตแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ออกกฎหมายไอทีใหม่ และแก้กฎหมายให้มีความครอบคลุมมากขึ้น พ.ต.ท.ดรัณ จาดเจริญ สารวัตรกลุ่มงานตรวจสอบและวิเคราะห์ ศูนย์ตรวจสอบและวิเคราะห์การกระทำผิดทางเทคโนโลยี เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาพบว่ามีการกระทำในลักษณะการหมิ่นประมาท และการฉ้อโกงทางอินเตอร์เน็ตมากที่สุด ซึ่งเป็นการฉ้อโกงจากต่างประเทศและในประเทศเอง ส่วนกรณีหมิ่นประมาทเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์เป็นส่วนใหญ่ เช่น การตัดต่อรูปผู้อื่นไปโพสต์ตามเว็บต่างๆ และนำส่งต่อทางอีเมล ที่มา : manager.co.th
|