ตัวอย่าง คำฟ้องเรียกเงินตามเช็ค
ข้อ ๑.โจทก์เป็นผู้ทรงเช็คธนาคาร.................. สาขา.................. เช็คเลขที่..................ลงวันที่ ..................จำนวนเงิน .................. บาท(..................บาทถ้วน) ซึ่งมีจำเลยเป็นผู้ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คฉบับดังกล่าว เพื่อเป็นการชำระหนี้แก่โจทก์
ข้อ ๒. ครั้นเมื่อเช็คตามข้อ ๑. ถึงกำหนดสั่งจ่าย โจทก์ได้นำเช็คไปเข้าบัญชีของโจทก์ที่ธนาคาร..................สาขา.................. เพื่อให้ธนาคารเรียกเก็บเงินตามวิธีการของธนาคาร แต่ปรากฏว่าธนาคารตามเช็คได้ปฏิเสธการจ่ายเงิน เมื่อวันที่ .................. โดยให้เหตุผลว่า “บัญชีปิดแล้ว” พร้อมทั้งได้คืนเช็คและใบคืนเช็คให้แก่โจทก์ ปรากฏตามสำเนาภาพถ่ายเช็คและใบคืนเช็ค (เอกสารท้ายฟ้องหมายเลข ๑)
ข้อ ๓. โจทก์ได้ติดต่อทวงถามให้จำเลยชำระหนี้ตามเช็คหลายครั้งหลายหนแต่จำเลยก็เพิกเฉยไม่ชำระหนี้แก่โจทก์ การกระทำของจำเลยทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย จำเลยต้องรับผิดชำระเงินตามเช็คจำนวน .................. บาท (.................. บาทถ้วน) พร้อมทั้งดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปีจากต้นเงิน .................. บาทนับจากวันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่าย คือวันที่ .................. . จนถึงวันฟ้องเป็นเวลา.................. ปี คิดเป็นเงินดอกเบี้ย .................. บาท (.................. บาทถ้วน) รวมเป็นเงินทั้งสิ้น .................. บาท (.................. บาทถ้วน) ซึ่งโจทก์ขอถือเป็นทุนทรัพย์ในคดีนี้ และให้จำเลยชำระดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๗.๕ต่อปี จากต้นเงิน .................. บาท นับจากวันถัดจากวันฟ้องจนกว่าจำเลยจะชำระหนี้เสร็จสิ้น
อนึ่ง โจทก์ได้นำเช็คตามข้อ ๑. ฟ้องจำเลยนี้เป็นคดีอาญาในข้อหาผิดพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๓ ตามคดีอาญาหมายเลขแดงที่......................ของศาลจังหวัด..................
โจทก์ไม่มีทางอื่นใดที่จะบังคับให้จำเลยจำระหนี้ให้แก่โจทก์ได้ จึงต้องนำคดีนี้มาฟ้งต่อศาล เพื่อขอบารมีศาลเป็นที่พึ่ง
คำขอท้ายคำฟ้องแพ่ง
เพราะฉะนั้นขอศาลออกหมายเรียกตัวจำเลยมาพิจารณาพิพากษาและบังคับจำเลยตามคำขอต่อไปนี้
๑. ให้จำเลยชำระเงินตามเช็คจำนวน .................. บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี จากต้นเงิน .................. บาท นับแต่วันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายจนถึงวันฟ้อง เป็นเงินดอกเบี้ย .................. บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น .................. บาท
๒. ให้จำเลยชำระดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปีจากต้นเงิน .................. บาท นับจากวันถัดจากวันฟ้องจนกว่าจำเลยจะชำระหนี้เสร็จสิ้น
๓. ให้จำเลยชำระค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายความอย่างสูงแทนโจทก์ด้วย