:: พ.ร.บ. แรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518 มาตราที่ 1-9
:: บทนิยาม
มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518"
มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดสามสิบวันนับแต่วัน ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา 3 ให้ยกเลิกข้อ 4 และข้อ 11 แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 103 ลงวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ.2515
มาตรา 4 พระราชบัญญัตินี้มิให้ใช้บังคับแก่
(1) ราชการส่วนกลาง
(2) ราชการส่วนภูมิภาค
(3) ราชการส่วนท้องถิ่นรวมทั้งราชการของกรุงเทพมหานครและเมือง พัทยา
(4) กิจการรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยพนักงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์
(5) กิจการอื่นตามที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา
*หมายเหตุ:- มาตรานี้ให้ยกเลิกความในมาตราต่อไปนี้ และให้ใข้ข้อความ ต่อไปนี้แทนใน มาตรา 3 ของพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติแรงงาน สัมพันธ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2534 ประกาศในราชกิจจาฯ (ฉบับพิเศษ) เล่ม 108 ตอนที่ 69 ลงวันที่ 18 เมษายน พ.ศ.2534
มาตรา 5 ในพระราชบัญญัตินี้
"นายจ้าง" หมายความว่า ผู้ซึ่งตกลงรับลูกจ้างทำงานโดยจ่ายค่าจ้าง ให้และหมายความรวมถึงผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากนายจ้างให้ทำการแทน ใน กรณีที่นายจ้างเป็นนิติบุคคลหมายความว่า ผู้มีอำนาจกระทำการแทนนิติบุคคล นั้น และหมายความรวมถึงผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากผู้มีอำนาจกระทำการแทน นิติบุคคลให้ทำการแทน
"ลูกจ้าง" หมายความว่า ผู้ซึ่งตกลงทำงานให้แก่นายจ้างเพื่อรับค่าจ้าง
"สภาพการจ้าง" หมายความว่า เงื่อนไขการจ้างหรือการทำงาน กำหนดวันและเวลาทำงาน ค่าจ้าง สวัสดิการการเลิกจ้าง หรือประโยชน์อื่น ของนายจ้างหรือลูกจ้างอันเกี่ยวกับการจ้างหรือการทำงาน
"ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง" หมายความว่า ข้อตกลงระหว่าง นายจ้างกับลูกจ้าง หรือระหว่างนายจ้างหรือสมาคมนายจ้างกับสหภาพ แรงงานเกี่ยวกับสภาพการจ้าง
"ข้อพิพาทแรงงาน" หมายความว่า ข้อขัดแย้งระหว่างนายจ้างกับ ลูกจ้างเกี่ยวกับสภาพการจ้าง
"การปิดงาน" หมายความว่า การที่นายจ้างปฏิเสธไม่ยอมให้ลูกจ้าง ทำงานชั่วคราวเนื่องจากข้อพิพาทแรงงาน
"การนัดหยุดงาน" หมายความว่า การที่ลูกจ้างร่วมกันไม่ทำงาน ชั่วคราวเนื่องจากข้อพิพาทแรงงาน
"สมาคมนายจ้าง" หมายความว่า องค์การของนายจ้างที่จัดตั้งขึ้นตาม พระราชบัญญัตินี้
"สหภาพแรงงาน" หมายความว่า องค์การของลูกจ้างที่จัดตั้งขึ้นตาม พระราชบัญญัตินี้
"สหพันธ์นายจ้าง" หมายความว่า องค์การของสมาคมนายจ้างตั้งแต่ สองสมาคมขึ้นไปที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัตินี้
"สหพันธ์แรงงาน" หมายความว่า องค์การของสหภาพแรงงานตั้งแต่ สองสหภาพขึ้นไปที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัตินี้
"นายทะเบียน" หมายความว่า ผู้ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งให้ปฏิบัติการตาม พระราชบัญญัตินี้
"พนักงานประนอมข้อพิพาทแรงงาน" หมายความว่า ผู้ซึ่งรัฐมนตรี แต่งตั้งให้ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้
"อธิบดี" หมายความว่า อธิบดีกรมแรงงาน
"รัฐมนตรี" หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา 6 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราช บัญญัตินี้ และให้มีอำนาจดังต่อไปนี้
(1) แต่งตั้งนายทะเบียน พนักงานประนอมข้อพิพาทแรงงาน และผู้ ชี้ขาดข้อพิพาทแรงงาน เพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้
(2) ออกกฎกระทรวงเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ การแต่งตั้งตาม (1) ให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษากฎกระทรวงนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้
มาตรา 7 ให้จัดตั้งสำนักงานทะเบียนกลางขึ้นในกรมแรงงาน กระทรวงมหาดไทย มีอำนาจหน้าที่ในการควบคุมการจดทะเบียนสมาคม นายจ้าง สหภาพ แรงงาน สหพันธ์นายจ้างและสหพันธ์แรงงาน ทั่วราช อาณาจักร และทำหน้าที่เป็นสำนักงานทะเบียนประจำกรุงเทพมหานครด้วย
ในจังหวัดอื่นนอกจากกรุงเทพมหานคร รัฐมนตรีจะจัดตั้งสำนักงาน ทะเบียนประจำจังหวัดขึ้นตรงต่อสำนักงานทะเบียนกลางก็ได้
มาตรา 8 ให้จัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ขึ้นใน กระทรวงมหาดไทย มีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้
(1) ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงเบื้องต้น เกี่ยวกับคำร้องและข้อ พิพาทแรงงาน
(2) ดำเนินการให้เป็นไปตามมติของคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์
(3) อำนาจหน้าที่อื่น
มาตรา 9 ให้จัดตั้งสำนักงานผู้ชี้ขาดข้อพิพาทแรงงานขึ้นในกระทรวง มหาดไทยมีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้
(1) จัดทำบัญชีรายชื่อและคุณสมบัติ ของผู้ชี้ขาดข้อพิพาทแรงงานเพื่อ เสมอให้คู่กรณีเลือกตั้ง
(2) ควบคุมและดำเนินการทางวิชาการ และธุรการเกี่ยวกับการชี้ขาด ข้อพิพาทแรงงาน