ปัญหาน่าปวดหัวของหลายคนที่มักเจอ หลังจากที่ได้รับไฟล์มีเดียจากเพื่อน หรือไฟล์ที่ดาวน์โหลดมาเองจากอินเทอร์เน็ตคือ ไม่สามารถเปิดไฟล์ดังกล่าวเพื่อใช้งานได้ ปัญหานี้เกิดขึ้นค่อนข้างเยอะในยุคที่มีหลากหลายมาตรฐานของนามสกุลไฟล์เช่นปัจจุบัน
จริงๆ แล้วปัญหาประเด็นนี้เราสามารถแก้ไขได้ไม่ยาก เพียงแค่เราทราบว่าไฟล์นามสกุลดังกล่าวต้องเป็นไฟล์ประเภทไหน และใช้โปรแกรมอะไรเปิด หรือหากจะใช้ Windows Media Player จะต้องติดตั้งอะไรเพิ่มเสริมเข้าไปบ้าง
เรื่องนี้ฟังดูง่ายสำหรับบางคน แต่ก็เป็นเรื่องยาก (มาก) สำหรับอีกหลายคนเช่นกัน คอมพิวเตอร์.ทูเดย์ฉบับนี้จึงขอนำคุณสู่หนทางพ้นทุกข์ด้วยสารพัดโปรแกรมที่จะช่วยให้คุณเปิด (ไฟล์) ได้หมด แม้ตัวคุณจะไม่รู้จักไฟล์ดังกล่าวเลย
ประเภทไฟล์เรื่องที่คุณสงสัย
ไฟล์ AVI
สำหรับไฟล์ AVI ถ้าพูดไปแล้วหลายคนต้องรู้จักแน่ๆ เพราะเป็นไฟล์วิดีโอที่ดูผ่านคอมพิวเตอร์ ซึ่งถูกพัฒนาจากไมโครซอฟท์ โดยภายในไฟล์ .avi มาพร้อมกับภาพ และเสียงพร้อมกัน มีความคมชัดของภาพ และเสียงที่สมจริง ส่วนใหญ่จะนำมาเป็นต้นฉบับของไฟล์วิดีโอบนแผ่นดีวีดี
ซึ่งไฟล์ AVI นี้มหลากหลายรูปแบบ ถึงแม้ว่า จะเห็นเป็นไฟล์ .avi ก็ตาม แต่จะแตกต่างกันตามรูปแบบของการ encode ของไฟล์นั้น ไม่ว่าจะเป็น DivX codec, XVID codec เป็นต้น หากเป็นไฟล์ avi ธรรมดาทั่วไปเราก็สามารถใช้โปรแกรม Windows Media Player เปิดดูได้ทันที แต่หากเปิดไม่ได้คงต้องหาโปรแกรมอื่น หรือไม่ก็ต้องไปดาวน์โหลดไฟล์ codec จากเว็บไซต์ของไมโครซอฟท์มาติดตั้งภายในเครื่องถึงจะเปิดได้
วิธีแก้ไขเบื้องต้น หากต้องการเปิดไฟล์ AVI ด้วยโปรแกรม Windows Media Player ก็คือ ให้ไปดาวน์โหลดตัว Codec จากเว็บไซต์ไมโครซอฟท์ (www.microsoft.com) จากนั้นก็ให้ดับเบิลคลิกไฟล์ดังกล่าวเพื่อติดตั้ง Codec เพิ่ม แต่ที่สำคัญโปรแกรม Windows Media Player ของคุณต้องเป็นเวอร์ชัน 11
ไฟล์ XVID
เกิดจากกลุ่มนักพัฒนาอิสระ ที่พัฒนารูปแบบการบีบอัดบนพื้นฐานของ mp4 เหมือนกับ DivX แต่ XviD เป็น Open Source คือ ได้เผยแพร่ให้มีการพัฒนาจากนักพัฒนาทั่วโลก เนื่องจากว่ามาตรฐานการบีบอีกของ XviD ใช้เป็นแบบ ASP (MPEG-4 Advanced Simple Profile) ไฟล์ XviD จึงสามารถเล่นบนโปรแกรมหรือเครื่องเล่น DVD ที่สามารถเล่นไฟล์ MP4 หรือ DivX ได้เช่นกัน ทั้งนี้ทั้งนั้น กรุณาตรวจสอบเครื่องเล่นของท่านตามเว็บไซต์ว่าเครื่องเล่นของท่านสนับสนุนไฟล์ XviD ด้วย หากท่านต้องการเล่นไฟล์ Xvid บนเครื่องคอมพิวเตอร์ท่านจะต้องติดตั้ง Xvid Decoder ซึ่งหาได้ตามเว็บไซต์ทั่วไปเช่นกัน
ไฟล์ DivX
จะมีนามสกุลเป็น .avi หรือ .divx แต่ไฟล์ .avi ไม่จำเป็นต้องเป็นไฟล์ DivX เสมอไป ข้อแตกต่างอีกอย่างหนึ่งระหว่างไฟล์ DivX กับ avi ธรรมดาก็คือ ไฟล์ DivX สามารถเล่นพร้อมกับเลือกแสดง Subtitle ได้ หลายภาษา โดยปรับที่ Remote Control บนเครื่องเล่น dvd หรือ หากท่านใช้โปรแกรมเช่น Windows Media Player เล่นไฟล์ประเภทนี้ ท่านอาจจะต้องติดตั้งโปรแกรม แสดง subtitle เพิ่มเติม เช่นโปรแกรม Direct Vobsub เพื่อให้ subtitle ปรากฏไปพร้อมๆกับการรับชมภาพยนตร์ด้วย
ไฟล์ 3GP
ใครมีมือถือคงต้องรู้จัก 3gp แน่ๆ เพราะเป็นไฟล์วิดีโอที่สามารถเปิดดูได้จากโทรศัพท์มือถือทั่วไป ซึ่งไฟล์ประเภทนี้เป็นไฟล์วิดีโอที่มีขนาดเล็กกว่าไฟล์วิดีโอทั่วไป เพราะด้วยข้อจำกัดของการเปิดดูจำเป็นต้องดูจากโทรศัพท์มือถือเท่านั้น ทำให้ต้องถูกบีบอัดไฟล์ให้มีขนาดเล็ก และสิ่งที่ตามมาก็คือ เมื่อขนาดไฟล์เล็กแล้ว คุณภาพของภาพก็ต้องด้อยลง
แต่หากใครไปดาวน์โหลดไฟล์ 3gp จากอินเทอร์เน็ตแล้วจะมาเปิดดูในคอมพิวเตอร์ โปรแกรมดูหนังทั่วไปไม่สามารถเปิดได้ ต้องใช้โปรแกรม Nokia Multimedia Player หรือไม่ก็ต้องไปดาวน์โหลดโปรแกรมจากอินเทอร์เน็ตมาเปิดดู
ไฟล์ MKV
ไฟล์ประเภทนี้อาจจะไม่ค่อยคุ้นหูสักเท่าไร แต่ถ้าเป็นคนที่ท่องอินเทอร์เน็ตจริงๆ ต้องเคยเจอกันบ้าง ซึ่งไฟล์ประเภท MKV มีรูปแบบคล้ายๆ กับ MP4 หรือ AVI ที่สามารถบรรจุภาพ และเสียง พร้อม subtitle ให้อยู่ในไฟล์เดียวได้ ซึ่งคุณภาพของภาพและเสียงไม่แตกต่างกันเลย แต่สิ่งที่แตกต่างกันก็คือ MKV เป็นไฟล์แบบ Open Source ที่นักพัฒนาทั่วไปสามารถช่วยพัฒนาต่อยอดให้ไฟล์นี้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น
ไฟล์ FLV
หากใครชอบดูวิดีโอผ่านเว็บคงคุ้นเคยกันบ้าง เพราะเป็นไฟล์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายบนเว็บไซต์ที่ให้บริการวิดีโอผ่านเว็บไซต์ ซึ่ง FLV คือไฟล์วิดีโอที่ถูกสร้างจากโปรแกรม Macromedia Flash เป็นไฟล์ที่มีขนาดเล็ก แต่คุณภาพดีกว่าไฟล์ 3gp สามารถเปิดดูได้จากโปรแกรม Flash Player หรือ QuickTime จากแอปเปิ้ลก็ได้ ทำให้หลายเว็บนิยมแปลงไฟล์ให้เป็น FLV เพื่อง่ายต่อการชมผ่านเว็บไซต์
KMPlayer 2.9.3.1428 Final
Type: ฟรีแวร์
Download: https://imgcdn.pandora.tv/pan_img/KMP/Download/kmp.exe
Size: 13.5 เมกะไบต์
K-Multimedia Player คือโปรแกรมมัลติมีเดียสัญชาติเกาหลีที่กำลังมาแรงแบบฉุดไม่อยู่ในขณะนี้ (อักษร K ด้านหน้านั้นมีที่มาจากตัวย่อนามสกุลของผู้พัฒนา) ถูกสร้างขึ้นให้ทำงานกับระบบปฏิบัติการ Windows (ตั้งแต่เวอร์ชัน 2000/ XP ไปจนถึง Vista) ซึ่งเวอร์ชันแรกสุดของมันถูกพัฒนาขึ้นตั้งแต่ปี 2001 ที่ผ่านมาโน่นแน่ะ
จุดเด่นที่น่าสนใจคือ สามารถเล่นไฟล์ Video และ Audio ได้ในตัวโดยไม่ต้องติดตั้ง CODEC เพิ่มเติม แถมยังรองรับการอ่านไฟล์ฟอร์แมตต่างๆ ได้มากมาย อาทิเช่น VCD, DVD, AVI, MKV, Ogg Theora, OGM, 3GP, MPEG-1/2/4, WMV, RealMedia, และ QuickTime ที่สำคัญมันรองรับการติดตั้ง CODEC เพิ่มเติมจากภายนอกได้โดยไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับโปรแกรมดั้งเดิม ยกตัวอย่างเช่น ดาวน์โหลด K-Lite CODEC มาติดตั้งในเครื่อง โปรแกรม KMPlayer ก็จะได้รับอานิสงส์ไปด้วยโดยปริยาย
นอกจากความสะดวกในการอัพเดต CODEC แล้วมันยังเป็นโปรแกรมที่เต็มไปด้วยความสามารถรอบด้าน คุณสามารถใช้มันในการทำ SS (สตอรี่บอร์ด หรือ Screenshot) จากไฟล์หนัง บันทึกวิดีโอเป็นไฟล์เสียง ดูข้อมูลและอ่านไฟล์มัลติมีเดียที่ยังดาวน์โหลดไม่เสร็จ (หรือเสียหาย) โดยเล่นเฉพาะส่วนที่สมบูรณ์ก่อนได้ (แบบเดียวกับในโปรแกรม VLC Media Player)
ระบบ Multi-Language สามารถเลือกใช้ภาษาบนโปรแกรมเมนูคำสั่งให้สอดคล้องกับระบบปฏิบัติการอัตโนมัติ (สามารถปรับแต่งเองได้) ลงปลั๊กอินที่ซัพพอร์ตกับ WinAmp 2/5 เพื่อใช้งานร่วมกันได้ เพียงเลือกไดเรกทอรี่ติดตั้งไว้ในโฟลเดอร์หลักของโปรแกรม (เช่นติดตั้งไว้ที่ไดรฟ์ C: ก็จะเป็น C:Program FilesThe KMPlayerPlugIns) และที่เด็ดไปกว่านั้นคือมีสกินสวยๆ ให้ดาวน์โหลดใช้งานอยู่เพียบและยังปรับแต่งโทนสีได้ตามความพอใจ แบบนี้ต้องดาวน์โหลดไปลองกันสักหน่อยแล้วจริงไหมครับ
KMP Control Taskbar
- หากคุณต้องการให้โปรแกรมรันอินเทอร์เฟซควบคุมการทำงานบนทากส์บาร์ ต้องดาวน์โหลดโปรแกรม jwWinAmpRemocon ไปติดตั้งไว้เสียก่อน ที่ https://www.kmplayer.com/forums/attachment.php?attachmentid=5521&d=1192208577 (ขนาดไฟล์ 905 กิโลไบต์)
- เลื่อนเมาส์ไปยังทาส์กบาร์ คลิกขวาเลือก Toolbars> WinAmp Remocon เท่านี้ก็เรียบร้อย
ซับไตเติลเล่นไม่ตรง Speed Mode แก้ได้
- ปัญหาที่ปัจจุบันนี้พบไม่บ่อยนักก็คือเรื่องซับไตเติลที่ชอบโผล่มาไม่ถูกจังหวะ ทั้งเร็วไปบ้าง ดีเลย์ไปบ้าง หากเจอปัญหาแบบนี้คุณสามารถแก้ไขได้ ในระหว่างเล่นไฟล์วิดีโอที่มีปัญหาอยู่ ให้กดปุ่ม Alt+F เพื่อเปลี่ยนการเล่นเข้าสู่โหมด Super Speed Mode จะช่วยเพิ่มความไวในการอ่านโค้ดไฟล์ภาพให้เสถียรหรือไวมากขึ้น แต่หากไม่ได้ผลให้ลองกด Ctrl+Alt+F เพื่อปรับเป็น Highspeed Mode ก็น่าจะทำให้ปัญหาของคุณหมดไป (หากต้องการปิดโหมดให้กดปุ่มคีย์ลัดเดิมซ้ำอีกครั้งครับ)
- การปรับเป็น Super Speed Mode และ Highspeed Mode จะทำให้ไม่สามารถแคปเจอร์ภาพหน้าจอได้และอาจทำให้คุณภาพเสียงมีปัญหา หากพบว่าเสียงที่ออกมาดูเบาลงหรือผิดปกติ ให้กดปุ่ม Shift+F2 เพื่อปิดการทำงานของ Automatic Volume Control
- ไฟล์จำพวก .MKV อาจมีปัญหาการเล่นซับไตเติลดีเลย์ (ไม่ว่าจะเป็นซับแบบฝังหรือแยกต่างหาก) และแม้คุณจะติดตั้ง Haali renderer ไว้ในเครื่องแล้ว (อ่านวิธีการติดตั้งได้ใน https://www.kmplayer.com/forums/showthread.php?t=5264 ) แต่ก็ยังไม่ช่วยอะไร
กรณีนี้ปัญหาอาจไม่เกี่ยวกับซับไตเติลครับ ให้ลองเปิด Properties ของ Haali renderer แล้วเข้าไปปรับค่า frame numbers up ให้มีค่าลดน้อยลง (เหลือประมาณ 4) หรือกดคีย์ลัด Alt+V ในโปรแกรม KMPlayer เพื่อเปลี่ยนโครงสร้างการอ่านซับไตเติลเป็นแบบ draw to VMR/D3D surface
เปลี่ยนสกินให้โปรแกรม
- สามารถดาวน์โหลดสกินเพิ่มเติมได้ที่
https://www.kmplayer.com/forums/showthread.php?t=10 โดยนำมาไว้ในโฟลเดอร์ C:Program FilesThe KMPlayerSkins แล้วคลิกขวาที่หน้าต่างโปรแกรม เลือกคำสั่ง “รูปแบบ” จากนั้นเลือกชื่อสกินที่เป็นนามสกุล .ksf จากในลิสต์เพื่อเปลี่ยนสกิน - อีกวิธีหนึ่งที่รวดเร็วกว่าคือคลิกลากไฟล์สกินนามสกุล .ksf มาวางไว้ที่หน้าต่างโปรแกรม เท่านี้สกินก็จะเปลี่ยนให้อัตโนมัติเลยครับ ง่ายจริงๆ
Combined-Community-Codec-Pack
Type: ฟรีแวร์
Download: https://www.cccp-project.net/
Size: 5.92 เมกะไบต์
จะว่าไป Combined-Community-Codec-Pack ก็ไม่เชิงเป็นโปรแกรมเสียทีเดียว แต่เป็นการรวมโค้ดแพ็กและโปรแกรมมัลติมีเดียประเภทเดียวกับ K-Lite เข้าไว้ด้วยกัน โดยรวมเอา CoreWave Pack, FFDShow, FLV Splitter, Haali Media Splitter, MPV (MPEG2) Decoder, VS Filter และโปรแกรมเล่นไฟล์วิดีโอคุณภาพอย่าง Media Player Classic และ Zoom Player ยัดมาให้คุณเสร็จสรรพ แต่สามารถเลือกติดตั้งได้ตามต้องการในระหว่างลงโปรแกรม ส่วนฟอร์แมตหลักๆ ที่ซัพพอร์ตหลักๆ ก็มี .MKV (Matroska), AVI, OGM & OGG, MP4, TS และ FLV
สำหรับ Media Player Classic คิดว่าคุณผู้อ่านน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว ดังนั้นจึงอยากแนะนำในส่วนของโปรแกรม Zoom Player ที่รวมมาในแพ็กเสียมากกว่า เพราะนอกจากจะสวยงามไม่แพ้ KMPlayer แล้ว มันยังสามารถอ่านไฟล์มัลติมีเดียที่ถูกบีบอัดด้วยโปรแกรมจำพวก Zip หรือ WinRAR ได้เหมือนการเปิดไฟล์วิดีโอฟอร์แมตอื่นๆ ตามปกติและสามารถปรับแต่งคุณสมบัติการเล่นได้หลากหลายรูปแบบ
นอกจากนั้นมันยังมีคำสั่งช่วยค้นหาลิสต์รายชื่อฟอร์แมตในเครื่องที่ขาดหายไป พร้อมทั้งสืบค้นเพิ่มเติม (จากบนเว็บไซต์) เพื่อให้คุณเลือกดาวน์โหลดโค้ดและคอร์ที่จำเป็นสำหรับโปรแกรมมาติดตั้งได้แบบสบายๆ อีกต่างหาก ทั้งนี้ คุณสามารถดาวน์โหลดเวอร์ชันใหม่ รวมถึงสกินและสามารถติดตั้งปลั๊กอินเสริมเพื่อเล่นไฟล์ฟอร์แมตใหม่ๆ อย่างเช่น Monkey Audio (APE) ได้ที่ https://www.inmatrix.com/
สืบค้นฟอร์แมตที่ขาดหายด้วย Missing Formats
- เปิดโปรแกรม Zoom Player ขึ้นมาโดยไปที่เมนู Start> All Programs> Combined Community Codec Pack> Players> Zoom Player
- คลิกขวาที่หน้าต่างโปรแกรม เลือกเมนูคำสั่ง Options/ Setup คลิกเปิดดรอปดาวน์เมนูของ System เลือกซับเมนู Missing Formats หากเครื่องของคุณขาดโค้ดไฟล์ฟอร์แมตพื้นฐานตัวใดไป (หรือมีบางส่วนที่ขาดหาย) รายชื่อของมันจะถูกแสดงอยู่ในกรอบสีขาวด้านขวามือ คุณสามารถคลิกเลือกที่ชื่อฟอร์แมตจากในลิสต์เพื่อตรวจดูรายละเอียดจากฐานข้อมูลบนเว็บไซต์ได้ทันที และหากต้องการให้โปรแกรมค้นหาและติดตั้งฟอร์แมตในลิสต์ดังกล่าวให้คลิกเลือกที่ปุ่มคำสั่ง Click here to run the Install Center
- จะเห็นว่าในหน้าต่าง Install Center คุณสามารถเลือกติดตั้งหรือถอดถอนส่วนเสริมเหล่านี้ได้โดยตรงจากที่นี่เลย โดยเมื่อคลิกที่รายชื่อในลิสต์ตรงส่วนบนและล่างของหน้าต่างจะแสดงรายละเอียดพร้อมเวอร์ชันล่าสุดของมันที่ตรวจหาพบ หากต้องการติดตั้งตัวไหนลงไปให้ติ๊กถูกด้านหน้าลิสต์และกดปุ่ม Install Selected แล้วรอดาวน์โหลด-ติดตั้งจนเสร็จก็เรียบร้อยแล้วครับ
Blaze Media Pro
Type: แชร์แวร์ 15 วัน
Download: https://www.mystikmedia.com/download/setup_blazemp.exe
Size: 15.6 เมกะไบต์
คนที่ไม่ค่อยชอบติดตั้งโปรแกรมหลายๆ ตัวให้รกเครื่อง น่าจะถูกใจเจ้า Blaze Media Pro เป็นพิเศษ ด้วยความสามารถระดับ All in 1 ขนานแท้ คุณจะต้องการอะไรอีก ในเมื่อมันมีความสามารถในการทำธุรกรรมกับไฟล์มัลติมีเดียแบบครบวงจรแนบมากับตัว
ไม่ว่าจะเป็นการแปลงไฟล์ ตัดต่อ เข้ารหัส ขยับบิทเรต ปรับแต่งข้อมูล จัดการระบบมัลติมีเดีย หาเนื้อเพลง แก้ไขออดิโอแท็ค เขียนแผ่นซีดี/ ดีวีดี หรือแม้กระทั่งริปหนังริปเพลง พร้อมรองรับไฟล์ฟอร์แมตยอดนิยมอย่างครบครัน ได้แก่ MP3, MP2, OGG Vorbis (OGG), ASF, MPEG Video (MPG, MPEG, MPE), AVI, WMA, WMV, Vivo Digital Video (VIV),MOV, QT, WAV, CDA, DAT, ASX, WAX, M3U, WVX, MIDI, AIFF, AU, SND ฯลฯ
ตัดต่อเพลงด้วย Audio Editor
- เลือกคำสั่ง Edit Audio ตรงแถบเมนูด้านขวาของหน้าต่างโปรแกรม
- ไปที่เมนู File> Open เลือกไฟล์เพลงที่ต้องการตัดต่อ จากนั้นไปที่เมนู Command> Play เพื่อสั่งเล่น ระหว่างนี้สามารถคลิกเมาส์ไปยังช่องคลื่นเสียงทั้ง 2 แถบตรงกลางหน้าจอเพื่อเลือกช่วงที่คุณต้องการเริ่มต้นตัดต่อ จะเห็นว่าจุดที่คลิกเมาส์ลงไปจะมีแถบสีเหลืองขึ้นมามาส์กจุดให้เห็น เมื่อเลือกจุดเริ่มได้แล้วให้เลื่อนเมาส์มาตรงกึ่งกลางช่องเสียง คลิกเมาส์ซ้ายค้างลากคลุมช่วงเสียงที่ต้องการตัดออกมาไว้ สังเกตดูจะพบว่าช่วงที่เลือกไว้จะถูกทำไฮไลต์สีให้เห็นดังในภาพ
- เมื่อไฮไลต์จุดที่ต้องการแล้วกดปุ่ม Ctrl+C เพื่อก๊อบปี้ ไปที่เมนู File> New จากนั้นกด Ctrl+V เพื่อสั่งวางช่วงเสียงที่ก๊อบปี้ไว้มาวางลงไป เสร็จแล้วทดลองเล่นดู หากต้องการใส่เอฟเฟ็กต์ให้กับไฟล์เสียงใหม่นี้อย่างเช่น Fade Out (ทำให้เสียงค่อยๆ เบาลงจนหายไป) สามารถทำได้โดยลากเมาส์คลุมทำไฮไลต์ในส่วนที่ต้องการแล้วเลือกเอฟเฟ็กต์เหล่านี้ได้จากแถบไอคอนแถวที่สองดังในภาพตัวอย่าง เมื่อปรับแต่งเสร็จแล้วจัดการเซฟไฟล์ไว้โดยไปที่เมนู File> Save As
*** โปรแกรมนี้สามารถปรับเปลี่ยนสกินได้ โดยสามารถดาวน์โหลดสกินสวยๆ ได้ที่ https://www.blazemp.com/skindownloads.html เมื่อดาวน์โหลดมาแล้วให้เปิดโปรแกรม ไปที่เมนู Option> General ที่หัวข้อ Skin File กดปุ่ม Browse… เลือกไฟล์สกินที่คุณดาวน์โหลดมา เสร็จแล้วกดปุ่ม OK ปิดและเปิดโปรแกรมขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
MpcStar 2.2
Type: ฟรีแวร์
Download: https://download.mpcstar.com/achive/mpcstar_setup.exe
Size: 23.7 เมกะไบต์
โปรแกรมดีๆ อีกตัวสำหรับคนชอบดาวน์โหลดไฟล์วิดีโอจากอินเทอร์เน็ต ด้วยความที่มันเป็นโปรแกรมฟรีที่รวมเอาโอเพ่นซอร์ตอย่าง FFDshow Codec Pack, QuickTime Codecs, a.k.a. VSFilter, RealPlayer Codecs & ActiveX controls และ Media Player Classic เอาไว้ ทำให้มั่นใจได้ว่ามันสามารถเล่นไฟล์วิดีโอได้ทุกชนิด
นอกจากจะไม่มีสปายแวร์ แอดแวร์ แถมมาให้แล้ว มันยังช่วยบล็อก Pop-Up น่ารำคาญที่อาจแถมมากับไฟล์วิดีโอบางประเภทให้อัตโนมัติอีกด้วย ของดีๆ แถมฟรีแบบนี้น่าจะเป็นโปรแกรมทางเลือกสำรองอีกตัวที่น่าพกติดไว้ที่เครื่องนะครับ
ImToo แปลงไฟล์ครอบจักรวาล
ชื่อโปรแกรม : ImToo MPEG Encoder 3.140
เว็บไซต์ : www.imtoo.com/download.html
ประเภทโปรแกรม : มีทั้งฟรีแวร์ และแชร์แวร์
ระบบปฏิบัติการ : Windows 98/ME/NT4/2000/2003/XP and Windows Vista
หลังจากได้เรียนรู้ถึงประเภทไฟล์ต่างๆ แล้ว รวมไปถึงโปรแกรมที่ใช้เปิดไฟล์แต่ละประเภทแล้ว หลายคนคงเกิดคำถามว่า เอ แล้วถ้าเกิดอยากแปลงไฟล์เหล่านั้นให้เป็นรูปแบบไฟล์ที่นำไปใช้งานได้ง่าย และเหมาะกับประเภทงานที่จะใช้ต้องทำอย่างไร ผมก็มีโปรแกรมมาแนะนำ ซึ่งเป็นโปรแกรมที่สามารถแปลงไฟล์มัลติมีเดียได้ครอบคลุมเกือบทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นไฟล์วิดีโอ หรือเสียงก็สามารถแปลงได้ นั่นก็คือ ImToo MPEG Encoder
ประเภทไฟล์ต้นฉบับที่รองรับ
3GPP Files (*.3gp) Animated GIF Files (*.gif) AVI Files (*.avi) DV Video Files (*.dv;*.dif) QuickTime Files (*.mov;*.qt) Macromedia Flash Files (*.swf) MP2 Files (*.mp2) Mp3 Files (*.mp3) Ogg Vorbis Files (*.ogg) AAC Files (*.aac) MPEG-4 Audio Files (*.m4a;*.mp4) MPEG-4 Files (*.mp4) Real Media Files (*.rm;*.ra;*.ram;*.rmvb) Windows Media Files (*.wma;*.wmv;*.asf) MPEG Files (*.mpg;*.mpeg;*.mpa;*.dat;*.vob) WAV Files (*.wav;*.au;*.aiff) CD Audio (*.cda)
ประเภทของไฟล์ผลลัพธ์ที่สามารถแปลงได้จากโปรแกรมนี้
MP4 - MPEG-4 Video (*.mp4) 3GPP - 3rd Generation Partnership Project (*.3gp) AVI - Audio-Video Interleaved (*.avi) DivX Movie (*.avi) DVD (*.vob) FLV - Flash Video Format (*.flv) iPhone MPEG-4 (*.mp4); MOV - QuickTime (*.mov) MP3 - MPEG Layer-3 Audio (*.mp3) MPEG-2 Movie (*.mpg) OGG - Ogg Vorbis Audio (*.ogg) RM - RealVideo (*.rm) Super VideoCD (*.mpg) SWF - SWF Format (*.swf) Video CD (*.mpg) VOB - MPEG2 PS Format (*.vob) WMA - Windows Media Audio (*.wma) WMV - Windows Media Video (*.wmv) XviD Movie (*.avi)
ขั้นตอนการแปลงไฟล์แบบง่ายๆ
1. หลังจากที่ดาวน์โหลดโปรแกรม และติดตั้งเรียบร้อยแล้ว ให้เปิดโปรแกรมขึ้นมา แล้วกดปุ่ม ADD ทางด้านบนซ้ายมือของโปรแกรม เพื่อเลือกไฟล์วิดีโอที่ต้องการแปลง ซึ่งเราสามารถเลือกให้แปลงครั้งละ กี่ไฟล์ก็ได้
2. เมื่อเลือกไฟล์เรียบร้อยแล้ว เราต้องเลือกว่า จะแปลงไฟล์ให้เป็นแบบไหน โดยคลิกเลือก Profile ทางด้านของโปรแกรม (ต้องคลิกที่ไฟล์นั้นให้เป็นแถบสีน้ำเงินก่อนเลือก Profile นะครับ)
3. ต่อมาก็เลือกว่า จะบันทึกไฟล์ที่แปลงเสร็จแล้วไปเก็บไว้ที่ไหน ให้คลิกปุ่ม Browse ที่อยู่ในส่วนของ Destination ทางด้านล่างของโปรแกรม
4. สุดท้ายให้กดปุ่ม Encode ที่อยู่ทางด้านบนของโปรแกรม แล้วรอเวลา เพียงเท่านี้เราก็สามารถแปลงไฟล์วิดีโอให้อยู่ในรูปแบบที่เราต้องการแล้ว
เพียงเท่านี้เราก็สามารถเปิดไฟล์วิดีโอแปลกๆ ที่เราไม่สามารถเปิดได้ด้วยโปรแกรมทั่วไป และยังสามารถแปลงไฟล์วิดีโอนั้นให้อยู่ในรูปแบบไฟล์ที่เราต้องการ และนำไปใช้งานได้ ไว้คราวหน้าคอยพบกับโปรแกรม และเทคนิคการใช้คอมพิวเตอร์กันต่อนะครับ