Strong Hold II


982 ผู้ชม


ถ้าลองเดินดูเกมวางแผนที่ออกมาในช่วงนี้ เกือบจะ 90 เปอร์เซ็นต์เต็มที่มีบรรยากาศเป็นโลกอนาคต เต็มไปด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ไม่ก็เซ็ตสถานที่เอาไว้ในยุคปัจจุบัน อ้างอิงการรบแบบเสมือนจริง และตลอดเกมคุณก็จะถูกสะกดจิตด้วยฝุ่นควันระเบิดนิวเคลียร์ แสงเลเซอร์ ปืนรังสี ฯลฯ ถ้าเกิดคุณรู้สึกว่าแสงสีเหล่านั้นเริ่มทำให้คุณรู้สึกจำเจบ้างแล้วล่ะก็ ลองหันมาย้อนยุคสู่ทุ่งราบยุคกลาง ขี่ม้าถือดาบวิ่งไปกลางทุ่งแล้วฟาดฟันเหล่าข้าศึกใส่เกราะเหล็กเพื่อปกป้องปราสาทกันบ้างท่าจะเป็นความคิดที่ดี คิดว่าอย่างนั้นมั้ยครับ "ท่านลอร์ด"?"

พื้นที่โฆษณา  
สนใจลงโฆษณา ติดต่อ โทร.0-2642-3400 ต่อ 4613

นี่เป็นภาคที่สองของเกมยอดเยี่ยมแนววางแผนแห่งปี 2001 ถ้าคุณเคยเล่นมัน ผมคงไม่ต้องอธิบายอะไรมากไปกว่า มันเป็นเกมที่เน้นการบริหารเมืองควบคู่ไปกับการตั้งรับต่อสู้กับกองทัพทหารข้าศึกที่มาบุกโจมตี และยังมีบางครั้งที่คุณต้องจัดกองทัพใหญ่บุกทลายค่ายของศัตรูด้วย โดยมีคุณ (ท่านลอร์ด) เป็นผู้นำ อืม... เรียกว่ามีครบทุกมุมมองของการสงครามเลยเชียว
ความคิดที่ชาญฉลาดของทีมพัฒนาเห็นได้ชัดว่าอยู่ที่การคิดว่า "ปราสาทคือจุดยืนหลักของเกม" และมันจะเป็นจุดดึงความสนใจจากผู้เล่นได้มากพอๆ กับการจัดวางกำลังปกป้องเมือง ซึ่งความคิดนี่เอง ทำให้เราได้มีเกม Building Strategy/RTS ชั้นดีเล่นกัน แต่สิ่งที่ผิดคาดก็คือ เราไม่ได้เห็นเกมภาคสองตามติดกันออกมาตามธรรมเนียมยอดฮิตของเกมที่ประสบความสำเร็จแบบติดลมบน เพราะ อย่างช้า ส่วนมากเมื่อเกมติดตลาด สิ่งที่มักจะเกิดขึ้นตามมาก็คือ ค่ายเกมพยายามเข็นภาคต่อออกมาให้เร็วที่สุด ซึ่งก็เว้นช่วงห่างจากภาคแรกไม่นานนักตกประมาณปีถึงปีครึ่ง (แต่อย่าได้เหมารวมเกมตระกูล Doom หรือ Half Life เข้าไปเชียวครับ เหอะๆ)
ทางทีมงานได้เคยประกาศออกมาในช่วงปลายปี 2004 หลังจากหายเงียบไปกว่า 2 ปีครึ่งว่าพวกเขากำลังพัฒนาภาคต่ออย่างเป็นทางการของ (SH) Strong Hold รวมถึงการนำเอาเอนจิ้นเกมตัวใหม่ที่พัฒนาขึ้นมาใช้กับระบบเกมโดยเฉพาะ เหตุผลหนึ่งที่เข้าใจได้ง่ายก็คือ เรื่องการแข่งขันทางด้านกราฟิกที่มากขึ้นทุกวัน เชื่อว่าคุณคงไม่อยากเล่นเกม 2D กันในปี 2005 นี้แน่นอนในเมื่อการ์ดจอที่ซื้อมามันทำประโยชน์ได้มากกว่านั้น สรุปคือ สิ่งที่อยู่ในมือผมตอนนี้คือ SH ที่มีสภาพเป็น Full 3D อย่างเต็มพิกัด และคำถามก็คือ มันมีอะไรมากกว่านั้นอีกรึเปล่า? พวกเขาได้สรุปทิ้งท้ายเอาไว้ก่อนเปิดตัวเกมว่า จริงๆ แล้วความคิดที่จะปรับปรุงระบบการเล่นให้มีลูกเล่นที่มากขึ้นนั้นมีมาตั้งแต่ตอนที่กำลังสร้างภาคเสริม Strong Hold: Crusader แล้วล่ะ เพียงแต่ว่าด้วยเวลาที่จำกัด จึงไม่สามารถใส่ไอเดียใหม่ๆ ลงไปในนั้นได้ มาจนวันนี้ด้วยระยะเวลาการสร้างที่เพิ่มขึ้น พวกเขาเลือกที่จะคงระบบการเล่นเดิมเอาไว้ และเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ ลงไปอีกส่วนหนึ่งโดยใช้ระบบสามมิติเป็นตัวชูโรงรูปโฉมใหม่ ซึ่งผมจะพาคุณมาดูกันครับว่าการตัดสินใจนี้จะส่งผลอย่างไรบ้างกับ SH 2 เกมนี้


Firefly Studios ชื่อนี้สามารถสั่นสะเทือนวงการเกมได้อย่างแทบไม่น่าเชื่อ ผลงานแรกที่แจ้งเกิดของพวกเขาก็คือ Strong Hold ผลงานชุดนี้ ออกมาในช่วงกลางปี 2001 จัดเป็นเกมวางแผน สร้างเมือง ซึ่งมีการสลับการเล่นเป็น RTS ในบางช่วงของเกม โดยปกติคุณจะต้องพยายามรวบรวมทรัพยากรเพื่อนำมาใช้ในการเลี้ยงปากท้องประชาชนไปพร้อมๆ กับขยายเมืองให้ใหญ่โต กล้าแข็ง เพื่อเตรียมรับมือกับข้าศึกที่ตั้งท่ารอบุกโจมตีอยู่เป็นระยะ ดังนั้นการเล่นจึงเป็นการแข่งกับตัวเองในการค้นหาทำเลยุทธ์ศาสตร์ตั้งรับที่ดี และยังต้องแข่งกับเวลาไปในตัวด้วย แต่ถ้ามองโดยรวมแล้วกราฟิกอยู่ในขั้นพื้นๆ ไม่โดดเด่นอะไร แต่จุดได้เปรียบที่ทำให้เกมส่องประกายคือแนวการเล่นที่มีกลไกบริหารบ้านเมืองเข้าท่า มีระเบียบแบบแผนที่น่าสนใจ และสิ่งนั้นก็ส่งผลให้เกมมีภาคเสริมออกติดต่อกันถึง 2 ชุด ในเวลาไล่เลี่ยกัน (ยังไม่นับชุด Gold ที่เป็นแพ็กเกจรวมขายเกมต้นฉบับและภาคเสริมที่ขายดีหลายล้านชุดทั่วโลกอีกนะ)

เส้นทางสู่สันติภาพ & การทำลายล้าง

จำได้ว่าภาคแรกในส่วนการเล่นเดี่ยว คุณทำหน้าที่ออกปราบพวกสามพี่น้องผู้ชั่วร้ายที่ต้องการทำศึกครอบครองดินแดนไว้แต่เพียงผู้เดียว งานของคุณคือการเคลื่อนทัพออกยึดพื้นที่แต่ละส่วนของดินแดนกลับคืนมา แต่ระหว่างเล่น คุณจะไม่มีทางเลือกในการดำเนินเกมนัก นอกเสียจากเลือกเส้นทางเดินในการเคลื่อนทัพเข้าสู่มิชชั่นใหม่เท่านั้น (และไม่ตลอดทั้งเกมที่คุณสามารถทำแบบนั้นได้) และตลอดเกมคุณจะพบเจอมิชชั่นอยู่ 2 แบบ คือ แบบสร้างปราสาทเพื่อตั้งรับการบุกโจมตี และอีกแบบคือการเกณฑ์ทหารบุกตีปราสาทศัตรู แต่ถ้าคุณต้องการเลือกแนวทางเล่นที่ตัวเองชอบเท่านั้น คุณทำได้แล้วครับในคราวนี้
ในแคมเปญโหมด คุณมีทางเลือกเล่นเกม 2 ทาง ซึ่งแต่ละทางก็จะมีการแบ่งออกเป็นตอนๆ (Chapter) และแต่ละตอนก็มีการแบ่งย่อยลึกลงไปอีก ทางแรกคือ Path of Peace การเลือกแคมเปญนี้ คุณไม่ต้องใส่ใจกับการวางแผนรบอะไรมากนัก สิ่งที่ต้องใส่ใจมากๆ คือการสร้างอาคารต่างๆ บริหารเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชากรที่อาศัยเป็นหลัก ซึ่งการเล่นแนวนี้จะมีระยะเวลาเล่นค่อนข้างนานพอดู ส่วนอีกทางคือ Path of War ชื่อมันบ่งบอกความหมายในตัวเองได้ชัดเจนว่า คุณจะได้เค้นสมองส่วนตรรกะเพื่อรีดมันมาใช้กับการนั่งจัดกลยุทธ์ในการรบ แต่ในส่วนนี้การเล่นจะดูตื่นตาตื่นใจผมมากกว่า และมันยังมีภารกิจที่แตกต่างกันหลายอย่างด้วย แต่ไม่ว่าคุณจะเลือกเล่นทางไหน คุณจะพบกับการสอนวิธีเล่นที่ทื่อๆ ตามแบบฉบับดั้งเดิมของทีมงาน Firefly Studios รอหลอกหลอนอยู่ทั้งสองทาง
การเริ่มเกมครั้งแรก สำหรับคนที่เคยผ่านมือภาคแรกมาแล้วนั้น บอกได้เลยครับว่าวิธีเล่นนั้นแทบไม่แตกต่างไปจากเดิมเลย แต่สำหรับมือใหม่แล้วคงเป็นการเริ่มเล่นที่ตะกุกตะกักอยู่บ้าง เนื่องจากระบบการบริหารทรัพยากรนั้นซับซ้อนพอตัว แต่ก็ใช้เวลาไม่มากมายนักที่คุณจะจดจำได้ว่าคุณต้องรวบรวมอะไรเป็นลำดับแรก อย่างเช่น ไม้ เป็นปัจจัยพื้นฐานในการสร้างอาคาร บ้านเรือน กำแพง และอีกหลายๆ สิ่งในเกม ถ้าคุณต้องการไม้ก็ต้องทำการสร้างโรงเลื่อยไม้ขึ้นมา และอาคารทุกๆ หลังก็จะใช้หลักการคล้ายๆ กัน เมื่อรวบรวมทรัพยากรมาได้แต่ละครั้ง พวกชาวบ้านจะนำมันไปเก็บไว้ในคลังประจำเมือง ซึ่งคุณสามารถตรวจสอบได้ว่ามีอะไรเพิ่มหรือลดลงไป ที่สำคัญที่สุดก็คืออาหารและทรัพยากรที่คุณจำเป็นต้องหามาเพื่อใช้สร้างอาวุธ เพราะถ้ามีไม่มากพอ คุณจะสร้างยูนิทเพิ่มไม่ได้และถึงสร้างได้ก็จะได้ยูนิทที่อ่อนแอเนื่องจากขาดทรัพยากรบางชนิดมาใช้อัพเกรดอาวุธและชุดเกราะ


แต่อย่างไรก็ตาม ประชาชนยังคงเป็นทุกอย่างที่คุณต้องคอยเอาใจใส่ อย่างแรกเลย คุณจำเป็นต้องใช้พวกเขาในการช่วยดูแลปราสาท ทั้งในเรื่องของการแปลงพวกเขาเป็นยูนิททหาร การเข้ารับงาน เช่นเป็นช่างไม้ ช่างตีเหล็ก รวมไปถึงช่วยคุณดับไฟ ในกรณีเมืองโดนวางเพลิง คุณจะเห็นพวกเขาช่วยกันตักน้ำมาดับไฟด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการดูและใจใส่พวกเขานั้นมันแบ่งออกเป็นหลายส่วน นอกจากเรื่องการกินอยู่ที่ต้องไม่ให้ขาดตกบกพร่องแล้ว (เพราะถ้าขาดอาหารพวกเขาจะพากันอพยพออกจากเมืองคุณไป) เรื่องทั่วๆ ไปอย่างการระงับโรคระบาดที่เกิดจากหนูวิ่งพล่านไปทั่วเมืองแบบภาคที่แล้ว คุณต้องขุดหลุมเพื่อฝังกลบขยะให้หมดจากเมือง เพื่อที่จะได้ไม่มีหนูมารบกวน เรื่องขโมยที่เข้ามาใหม่ก็เป็นงานที่หนักหนาในการดูแล เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณเพิ่มภาษีหนักหรืออาหารขาดแคลนคุณต้องคอยวางกำลังตรวจตราเมืองให้ดี และสร้างคุกไว้กักขังขโมยเมื่อทหารลาดตระเวนสามารถจับมาได้จะได้จับขังลืม (หุหุ) แต่ก็มีวิธีการอื่นในการลงโทษด้วยครับ แต่ผมไม่ค่อยอยากแนะนำ นั่นคือการทรมานเพื่อขู่ไม่ให้คนอื่นเอาเยี่ยงอย่าง เพราะคุณจะสูญเสียค่าความนิยมด้วย นอกเหนือจากนี้ก็เป็นงานทั่วๆ ไปอย่างการลดภาษีให้ถูกลง การสร้างอาคารเช่นโรงเหล้าให้พวกคนงานได้พักผ่อน (แต่ต้องระวังเรื่องคนงานเมาด้วย)
ทีนี้มาว่ากันเรื่องปราสาทบ้าง จุดหลักในการคว้าชัยชนะมีหัวใจสำคัญอยู่ที่การวางแผนสร้างปราสาทเป็นลำดับที่ 1 เนื่องจากปราสาทคืออาวุธชิ้นโตของคุณที่จะช่วยกันกองทัพขนาดมหึมาไม่ให้เข้าถึงตัวท่านลอร์ดซึ่งก็คือตัวคุณในเกม (ถ้าคุณโดนเจี๋ยนก็เกมจบครับ) และยังใช้ลดกำลังโจมตีศัตรูได้ในตัว ไม่ว่าจะยกกองทัพใหญ่มามากแค่ไหน ลองถ้าตั้งรับดีแล้วก็พลิกเกมได้ไม่ยากเย็นนัก ถ้าคุณสามารถสร้างโดยบีบพื้นที่ในการเข้าถึงตัวปราสาทให้แคบลง คุณจะสามารถรุมขยี้กองทัพศัตรูขนาดมโหฬารให้แหลกได้ง่ายๆ รวมถึงการวางกำลังพลไว้คอยซุ่มโจมตีตลบหลังก็ช่วยให้การต่อสู้ปิดฉากลงได้เร็วขึ้น และถ้าคุณอัพเกรดจนปราสาทมีกำแพงหินสูงใหญ่แล้วล่ะก็ งานนี้คุณจะกวาดล้างผู้บุกรุกได้มันส์ยิ่งขึ้น เพราะพวกมันจะต้องหาทางเข้าปราสาทด้วยการใช้หอคอยสูงเข้าเทียบกำแพงแล้วบุกเข้าไป หรือทลายกำแพงลงด้วยการใช้เครื่องยิงหินเจาะรูงามๆ ที่กำแพง แต่ก็มีทริกอื่นๆ อีกมากมายที่สามารถเป็นตัวเลือกใช้ในการยับยั้งการบุกของฝ่ายศัตรู เช่นการวางกับดัก หลุมพรางต่างๆ

กราฟิกโฉมใหม่

สิ่งที่คุณได้รับในระหว่างการสร้างปราสาทจากภาคแรกก็คงจะมีทั้งความสนุกในการใช้ไอเดียตกแต่งรูปร่างปราสาทอย่างอลังการ และอีกสิ่งที่ตามๆ กันมาคงเป็นความหัวเสียที่เกิดจากเรื่องมุมกล้องเกมที่ขังคุณอยู่กับมุมมองแบบ Bird Eyes Views ที่ไม่สามารถหมุนมุมมองได้แม้แต่ 1 องศา (ทำได้อย่างมากก็ซูมภาพเข้า-ออก ซึ่งภาพที่ได้ตอนซูมก็แตกระนาว) มันเป็นเรื่องลำบากมากในการสร้างกำแพงเมือง เพราะในบางครั้งผมไม่มีโอกาสตรวจสอบดูได้เลยว่ามีจุดไหนบ้างที่ผมสร้างแล้วแนวกำแพงไม่ต่อเนื่องกัน ที่สำคัญที่สุดคือเวลาผมสร้างแนวกำแพงลึกจากหน้าจอไล่ไปด้านบน ภาพกำแพงมันจะทับกันจนดูหลอกตาว่ามันเชื่อมต่อกันสนิทซึ่งความเป็นจริงมันอาจไม่ใช่ สุดท้ายมารู้ตัวอีกทีว่ามีจุดรั่วก็ต่อเมื่อทัพศตรูบุกแล้วเดินผ่านช่องว่างระหว่างกำแพงเข้ามายึดปราสาทผมได้อย่าง่ายดายนั่นแหละครับ (โอ้ว!! นรกจริงๆ)
เหตุน่าสลดแบบนั้นจะไม่เกิดขึ้นซ้ำรอยเดิม เนื่องจากคราวนี้คุณสามารถหมุนมุมกล้องได้ทั่วทุกด้าน และสามารถซูมดูรายละเอียดสิ่งก่อสร้างรวมถึงประชาชนได้ดีกว่าเดิมมากจนกลบปัญหาน่ารำคาญในการสร้างปราสาทได้อย่างหมดจด ลูกเล่นใหม่เกี่ยวกับมุมมองยังไม่หมดแค่นี้ ถ้าจะเรียกฟีเจอร์ใหม่สำหรับมุมมองที่เพิ่มมาในภาคนี้ก็คงต้องเรียกว่า Real Life Cam กระมังครับ เพราะว่าเวลาที่คุณเอาเมาส์ลากไปยังส่วนที่เป็นตัวอาคารหรือสิ่งก่อสร้างบางอย่าง คุณสามารถมองทะลุเข้าไปดูการใช้ชีวิตของพวกชาวบ้านได้ด้วย เป็นต้นว่ามองทะลุไปในร้านเหล้าก็จะเห็นคนงานกำลังนั่งซดเหล้าฉลองกันครื้นเครง และในบางครั้ง เมื่อคุณเล่นไปเรื่อยๆ จนเวลาผ่านไปสักระยะ คุณจะได้พบกับงานเทศกาลต่างๆ ตามช่วงเวลานั้นๆ ถูกจัดขึ้นมาในเมืองเป็นการเฉลิมฉลองอีกด้วย แต่เหตุการณ์เหล่านี้จะเกิดขึ้นเองและคุณไม่สามารถเข้าไปกำหนดเองได้ แต่ก็ช่วยทำให้เกมมีชีวิตชีวามากขึ้นกว่าเดิมมากเลยล่ะ
ขาดฟีเจอร์ใหม่ในการรบ แต่คงเดิมเรื่องความสนุกแนวทางการเล่นเกมในภาคใหม่นี้ดูเผินๆ ก็คือ คุณสามารถเลือกเล่นแนวที่ตัวเองชื่นชอบได้ แต่ทว่าสิ่งที่น่าสังเกตก็คือไม่ว่าคุณจะเลือกเส้นทางไหนก็แล้วแต่ เมื่อเล่นต่อไปได้ระยะหนึ่งจะเริ่มตะหงิดๆ ว่าแนวเกมมันเริ่มจะคล้ายคลึงกันไปซะหมด เพราะไม่ว่าจะเลือกทางไหนก็แล้วแต่ สุดท้ายในบางภารกิจ คุณจำเป็นต้องดูแลการบริหารทั้งสองส่วนให้เท่าๆ กันอย่างทั่วถึง ไม่อย่างนั้นอาจพบความลำบากเอาทีหลังได้เมื่อพบเหตุการณ์ผิดความคาดหมาย


สิ่งที่สองที่ทำให้ตัวเกมดูเปลี่ยนไปก็คือ ระบบการปกครองในภาคนี้ดูมีความรัดกุม หรือจะว่ากันง่ายๆ ว่ายุ่งยากขึ้นบ้างกว่าที่เคยเป็น และคุณจำเป็นต้องใช้เวลาที่มีไม่มากนักในการดูแลทุกอย่างให้เข้าที่จริงๆ ถ้าประชากรไม่ได้รับการตอบสนองที่ดี อย่างเรื่องอาหารการกิน โรคภัยไข้เจ็บ และอีกหลายๆ ปัจจัยที่ผมได้ยกมาว่ากันแล้ว คุณอาจต้องเหนื่อยแบบสุดๆ ในช่วงท้ายภารกิจเลยก็ได้ และนั่นก็ทำให้ระยะเวลาในการรบพุ่งต้องถูกตัดทอนไปด้วยประการฉะนี้ครับ ซึ่งอาจไม่ถูกใจคอเกม RTS นักก็ได้ สำหรับการเปลี่ยนแปลงทางด้านกราฟิกก็ไม่ใช่ว่าจะทำให้ทุกอย่างดูหอมหวาน สำหรับ SH แล้ว กราฟิกที่ได้รับก็ยังไม่ค่อยสวยงามนัก ถ้าเทียบกับเกมสามมิติที่มีอยู่ทั่วไปในปัจจุบัน แต่การยกเครื่องใหม่แล้วเรียกความรู้สึกเดิมๆ ให้กลับมาได้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง แต่ข้อเสียของเกมก็คือไม่ได้ให้อะไรใหม่ๆ มากไปกว่ากราฟิกที่พัฒนามาอีกขั้นและระบบริหารที่ซับซ้อนขึ้นเท่านั้น ถ้าคุณชอบเกมภาคแรกมาก่อน ภาคนี้คุณจะรู้สึกสนุกกับมัน เพราะระบบในการเล่นทุกอย่างยังคงรูปแบบเดิมแต่ได้โลกทัศน์ที่ดูดีกว่าในแบบสามมิติครับ แต่ถ้าคุณชอบการปั๊มยูนิทแล้วยกไปลุยแบบล้างผลาญแบบเอาเร็วเข้าว่าอาจต้องคิดดูดีๆ ครับ

ทิป

เกมนี้ไม่มีชีตโค้ดให้คุณโกงเกมกันนะครับ แต่มีทริกเล็กน้อยเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศในการเล่น แล้วก็เป็นทริกที่ทำได้ง่ายดายมากเสียด้วย คือในตอนเริ่มเกมใหม่ ให้คุณตั้งชื่อตัวเราดังต่อไปนี้ครับ
  • พิมพ์คำขึ้นต้นด้วย Megalord แล้วเมื่อคุณเข้าเกม ข้อความต้อนรับตัวคุณจะเปลี่ยนจากคำว่า "Greeting Sire" มาเป็น "Greeting Megalord"
  • พิมพ์คำขึ้นต้นด้วย Lord Vader แล้วเมื่อคุณเข้าเกม ข้อความต้อนรับตัวคุณจะเปลี่ยนจากคำว่า "Greeting Sire" มาเป็น "Greeting Lord Vader; Obi Won has taught you well, but you are not a jedi yet..."
  • พิมพ์คำขึ้นต้นด้วย Flying Poo แล้วเมื่อคุณเข้าเกม ข้อความต้อนรับตัวคุณจะเปลี่ยนจากคำว่า "Greeting Sire" มาเป็น "Greetings...FLYING POOOOO!!!"

Game Degree 6.7/10 Point
Graphic 7.0/10 Point
Control 6.1/10 Point


Computer Today

ฉบับที่ 263 ปักษ์แรก มิถุนายน 2548
อ่านบทความอื่นๆ >>

อัพเดทล่าสุด