พูดถึงแหล่งเก็บข้อมูลสำรองในปัจจุบันนี้ นอกจากจะใกล้ตัวมากขึ้นกว่าเมื่อก่อนแล้ว ราคารวมทั้งทางเลือกในการหามาใช้งานค่อนข้างหลากหลายมากทีเดียว และแหล่งเก็บข้อมูลสำรองนั้นก็ไม่ได้เป็นทางเลือกระดับเอ็นเตอร์ไพรส์เท่านั้น เพราะตัวแปรเรื่องราคาและขนาด รวมทั้งอินเทอร์เฟซที่มีให้ก็สามารถนำมาใช้กับตลาดระดับคอนซูมเมอร์ได้เช่นกัน
 |
เมื่อเร็วๆ นี้ผมมีโอกาสไปเดินจับจ่ายซื้อของที่พันธุ์ทิพย์พลาซ่า แหล่งชอปปิ้งแหล่งเดิมของบรรดาคอคอมพิวเตอร์ทุกระดับ สิ่งที่ผมแปลกใจอย่างแรกก็คือราคาที่จอดรถ (ไม่ค่อยจะเกี่ยวกับเนื้อหาสักเท่าไหร่) แต่หลังจากเดินเลือกชมสินค้าอยู่สักพักใหญ่ ก็เริ่มรู้สึกว่าแหล่งเก็บข้อมูลต่างๆ กันพากันปรับราคาลงอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นฮาร์ดดิสก์หรือว่าซิปไดรฟ์ และแน่นอนที่เห็นแล้วผมถึงกับตาลุกเลยก็คือไดรฟ์ซีดีอาร์ดับบลิวนั่นเอง
จริงๆ แล้วผมก็ไม่ได้เป็นคนที่เพิ่งเข้ามาอยู่ในวงการของซีดีอาร์ดับบลิวนัก เพราะว่าโดยส่วนตัวแล้วมีโอกาสจับไดรฟ์ซีดีอาร์ดับบลิวและใช้งานกันจริงๆ จังๆ อยู่หลายปีแล้วทีเดียว ตั้งแต่ราคาไดรฟ์ความเร็ว 2X ยังอยู่ที่ระดับหมื่นกว่าๆ ไปจนถึง 2 หมื่นกว่าๆ แต่ที่อดประหลาดใจไม่ได้ก็คือ ทำไมราคาไดรฟ์ตอนนี้ถึงถูกมาก มากเสียจนคิดว่า ถ้าไดรฟ์ซีดีรอมที่ผมใช้อยู่มีอันเป็นไป ด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตามผมคงตัดสินใจซื้อเป็นไดรฟ์ซีดีอาร์ดับบลิวอย่างแน่นอน
หลังจากเดินชมสินค้าพร้อมทั้งแปลกใจกับราคาไดรฟ์ซีดีอาร์ดับบลิว (กับค่าจอดรถ) แล้วก็เลยลองมาดูราคากันที่แหล่งเก็บข้อมูลแบบอื่นๆ ฮาร์ดดิสก์ 40 กิกะไบต์ ราคาก็ถูกลงมาก Zip Drive และไดรฟ์ LS-120 ก็มีให้เห็นกันอยู่ทั่วไป ราคาก็ไม่ได้แพงเกินไปนักเช่นกัน แต่หลังจากที่ดูราคาแผ่นแล้วก็มีอันต้องเมินหน้าหนีไปอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก ในขณะเดียวกันที่เห็นราคาแผ่นซีดีอาร์และซีดีอาร์ดับบลิว ในราคาตั้งแต่ไม่ถึงสิบบาทต่อแผ่นไปจนหลายสิบบาทต่อแผ่น ก็เลยเริ่มเห็นความแตกต่างว่า ทำไมเดี๋ยวนี้ใครๆ จึงนิยมใช้ได้ซีดีอาร์ดับบลิวกันนัก
 |
ทำไมถึงต้องเป็นซีดีอาร์ดับบลิว
ในหลายๆ เหตุผลที่คนส่วนใหญ่มักจะถามกันว่า ทำไมถึงเลือกใช้ไดรฟ์ซีดีอาร์ดับบลิวแทนที่จะเป็นแหล่งเก็บข้อมูลแบบอื่น ประเด็นสำคัญที่สุดคงหนีไม่พ้นเรื่องราคา เพราะหากลองพิจารณาว่าราคาเครื่องโดยเฉพาะทั่วๆ ไปนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 5,000 บาทเท่านั้น ซึ่งเทียบกับสื่ออื่นๆ แล้วก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก นั่นคือสิ่งแรกที่มองเห็น
แต่สิ่งที่ทำให้ซีดีอาร์ดับบลิวมีความแตกต่างจากแหล่งเก็บข้อมูลแบบอื่น ก็เพราะตัวแผ่นซีดีอาร์และซีดีอาร์ดับบลิวนั้นมีราคาถูกมาก แผ่นซีดีอาร์หนึ่งกล่องสิบแผ่นนั้นมีราคาเพียงประมาณ 2 เท่าของแผ่นดิสก์กล่องสิบแผ่นเท่านั้น ซึ่งซีดีอาร์เก็บได้แผ่นละ 650 เมกะไบต์ หรือกล่องละ 6.5 กิกะไบต์ แต่แผ่นดิสก์กลับเก็บได้เพียง 14.4 เมกะไบต์เท่านั้น ถ้าจะมองกันอย่างนี้แล้วเหมือนกับการเปรียบเทียบข้ามรุ่น ซึ่งดูแล้วไม่ค่อยยุติธรรมนัก ถ้าหากเปรียบเทียบกับแหล่งเก็บข้อมูลในรุ่นใกล้เคียงกัน อย่างเช่น ซิปไดรฟ์นั้นหากลองเทียบราคาแผ่นต่อแผ่นแล้วจะเห็นได้ว่า ราคาแตกต่างกันอย่างมาก และยิ่งถ้าเทียบจำนวนเมกะไบต์กันก็ยิ่งเกิดความแตกต่างกันอย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น
นั่นคือข้อแตกต่างทางด้านราคาที่เห็นได้ชัด แต่ไม่ใช่เพียงเท่านั้น เรื่องความเข้ากันได้ก็เป็นเรื่องสำคัญอีกอย่างหนึ่ง คนที่ตัดสินใจซื้อไดรฟ์ซีดีอาร์ดับบลิวมักจะมีความคิดตรงกันเรื่องหนึ่งก็คือ เมื่อเขียนข้อมูลลงบนแผ่นแล้ว เขามั่นใจได้เลยว่า สามารถนำแผ่นซีดีอาร์แผ่นนั้นไปเปิดบนเครื่องคอมพิวเตอร์ได้แทบทุกเครื่อง โดยไม่ต้องกังวลและไม่จำเป็นต้องพกไดรฟ์ติดตัวไปด้วย แต่ถ้าหากเป็นแหล่งเก็บข้อมูลแบบอื่น เช่น ซิปไดรฟ์ หรือ LS-120 แล้ว หากเครื่องที่ต้องการนำข้อมูลไปใช้ไม่มีไดรฟ์นี้อยู่ก็จบกัน แผ่นดิสก์แผ่นนั้นก็ไร้ความหมายไปในทันที แตกต่างกับแผ่นซีดีที่คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องนั้นมีไดรฟ์ซีดีรอมมีให้อยู่แล้ว ดังนั้นไม่ต้องกังวลหรือคิดหนักอีกเลยว่าจะเกิดปัญหาขึ้น
นอกจากข้อได้เปรียบทั้งสองอย่างนี้แล้ว ซีดีอาร์ดับบลิวยังมีข้อได้เปรียบส่วนอื่นอีกไม่น้อยทีเดียว อย่างน้อยก็คือเรื่องอินเทอร์เฟซของอุปกรณ์ ที่ไม่ได้จำกัดว่าจะต้องมีช่องต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์แบบใด เพราะไดรฟ์ซีดีอาร์ดับบลิวที่มีขายกันอยู่เกลื่อนนั้น คงมีหลายรุ่นที่ต่อเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานอยู่ทุกวันได้ ง่ายที่สุดก็เป็นอินเทอร์เฟซแบบ E-IDE ที่ใช้กันทั่วไป หากใครมีเงินหน่อยและต้องการประสิทธิภาพที่ดีกว่า ก็อาจจะหันไปหาไดรฟ์ที่มีอินเทอร์เฟซเป็น SCSI แต่อย่าลืมว่า ถึงอย่างไรการติดตั้งบนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เราใช้กันอยู่นั้นแบบ E-IDE ก็ยังติดตั้งได้ง่ายกว่า
 |
นอกจากอินเทอร์เฟซทั้งสองอย่างแล้ว ในส่วนของไดรฟ์ติดตั้งภายนอก ก็มีอินเทอร์เฟซทั้ง USB และไฟร์ไวร์อีกด้วย ซึ่งไม่เพียงแต่จะสะดวกในการขนย้ายแล้ว ความเร็วในการทำงานก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเลย แต่เท่าที่เห็นก็คือ ไดรฟ์แบบติดตั้งภายนอกทั้งที่เป็นไดรฟ์สำเร็จรูปมาเลยหรือว่าใช้อุปกรณ์ต่อพ่วง เพื่อให้ใช้เป็นไดรฟ์ภายนอกได้นั้นมักจะทำงานที่ความเร็วต่ำที่ 4X เท่านั้น ที่เห็นก็มีเพียงแต่ของไอโอเมก้าเท่านั้นที่มีไดรฟ์ที่ต่อพ่วงผ่านไฟร์ไวร์ เท่านั้นที่ทำความเร็วได้ถึง 8X แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะว่าคนที่ตัดสินใจใช้ไดรฟ์แบบติดตั้งภายนอกไปแล้วนั้นมักจะมีเงื่อนไขอยู่ที่ความสะดวกสบายในการนำไปใช้เป็นหลัก
ส่วนอีกประเด็นหนึ่งที่ผมคงต้องขอกล่าวถึง แม้ว่าหลายคนอาจจะไม่ค่อยเห็นด้วยก็ตาม เพราะช่วงนี้กระแสต่อต้านค่อนข้างรุนแรงทีเดียว คือไดรฟ์ซีดีอาร์ดับบลิวสามารถเขียนแผ่นซีดีเพลงให้เราได้ในขณะที่แหล่งเก็บข้อมูลอื่นนั้นทำให้เราไม่ได้แน่นอน
ผมเชื่อว่าหลายคนที่ตัดสินใจซื้อไดรฟ์ซีดีอาร์ดับบลิวนั้นใช้พื้นฐานมาจากความต้องการเขียนแผ่นเพลงเอาไว้ฟังส่วนตัว หรือบางคนก้าวขาเข้าไปในคุก โดยการเขียนซีดีเถื่อนขายเลยก็มี ทั้งซอฟต์แวร์และแผ่นเพลง ซึ่งตรงนี้ ผมขอคุณผู้อ่านไว้เรื่องหนึ่งนะครับ มันไม่คุ้มกันเลยที่จะทำอย่างนั้นเพื่อแลกกับเงินที่ไม่มากมายอะไรนัก เป็นการเอาเปรียบคนทำงานที่เขาสร้างสรรค์ผลงานกันเป็นเวลาหลายเดือนแต่กลับถูกคนอื่นมาชุบมือเปิบ เอาผลงานเขาไปขายเสียดื้อๆ เพราะเท่าที่มีกันอยู่ตอนนี้ก็หนักหนาพอดูอยู่แล้ว
กลับมาที่เรื่องเดิมกันต่อครับด้วยความสามารถของไดรฟ์ซีดีอาร์ดับบลิวนั้น ทำให้เราสามารถเขียนแผ่นเพลงที่สร้างเป็นอัลบั้มส่วนตัวเก็บไว้ฟังได้ทั้งในบ้านและในรถก็นับว่ามากแล้ว แต่ยังไม่เท่ากับการที่เรายังสามารถบันทึกความทรงจำในโอกาสพิเศษเก็บเอาไว้ได้เช่นกัน (ผมขอกล่าวถึงในส่วนถัดไป) ส่วนข้อดีอื่นๆ ที่ทำให้เราน่าจะหันมาใช้ซีดีอาร์ดับบลิวเป็นแหล่งเก็บข้อมูลสำรองก็คือ นอกจากจะมีพื้นที่ต่อแผ่นมากแล้ว ยังเป็นแหล่งเก็บข้อมูลแบบถาวรอีกด้วย ไม่ต้องกลัวว่ามีใครจะหยิบผิดเอาไปลบทิ้ง (เว้นแต่จะหยิบผิดเอาไปทิ้ง) อีกด้วย
แต่ถึงอย่างไร ถ้าซีดีอาร์ดับบลิวมีแต่ข้อดีเพียงอย่างเดียว ทุกวันนี้เราคงไม่มีโอกาสได้เห็นแหล่งเก็บข้อมูลชนิดอื่นหลงเหลือในตลาดแน่นอน เพราะซีดีอาร์ดับบลิวก็มีจุดด้อยอยู่มากทีเดียว อย่างแรกก็คือตัวไดรฟ์ซีดีอาร์ดับบลิวในปัจจุบันยังมีความเร็วต่ำ จะเขียนกันทีก็รอเหนื่อยเลย ผมเองเป็นคนหนึ่งที่ใช้ไดรฟ์มาตั้งแต่ความเร็ว 2X เลยทราบดีว่าการนั่งรออะไรสักอย่างถึง 1 ชั่วโมงโดยที่ทำงานอื่นๆ ที่ค้างอยู่ไม่ได้เลยนั้นค่อนข้างอึดอัดมากทีเดียว ซึ่งหลายคนคงคิดว่าผมยังคงยึดติดกับความเร็วต่ำๆ อย่างนั้นอยู่อีก แต่เชื่อไหมครับว่า การเขียนแผ่นที่ความเร็ว 8X นั้นก็ยังใช้เวลาประมาณ 9 นาที (เต็มแผ่น) ส่วน 12X นั้นใช้เวลาประมาณ 6 นาที ซึ่งนับว่าช้ามากหากเทียบกับสื่อแบบอื่นๆ ซิปไดรฟ์ และ MicroDrive ต่างก็ทำความเร็วหนีห่างไดรฟ์ซีดีอาร์ดับบลิวอย่างเทียบกันไม่ได้เลย ยิ่งไปกว่านั้นหากใครที่ต้องการซื้อมาเพื่อเขียนแผ่นเพลงเป็นหลัก ผมบอกได้เลยครับว่า ยิ่งความเร็วสูงก็ยิ่งไม่มีประโยชน์ เพราะจากประสบการณ์แล้วการเขียนที่ความเร็วสูงกว่า 4x ไม่ว่าจะเป็น 8x หรือ 12x นั้น เมื่อนำไปเปิดฟังในเครื่องเสียงจะพบว่าเสียงเพี้ยนอย่างเห็นได้ชัด จากที่ผมทดสอบด้วยเพลงสากลเพลงหนึ่ง เห็นได้ชัดถึงความแตกต่าง และยังเห็นความแตกต่างได้ชัดเมื่อสั่งบันทึกจากแผ่นต้นฉบับกับแปลงเป็นไฟล์ MP3 ก่อนแล้วบันทึกจากไฟล์ MP3 ไปเป็นซีดีเพลง (สรุปแล้วตั้งใจจะบอกว่าซื้อของแท้กันเถอะครับ)
 |
นอกจากปัญหาในด้านความเร็วแล้ว ปัญหาอีกอย่างก็คือเรื่องการบันทึกซ้ำ ถ้าหากเป็นสื่ออื่นเรื่องการเขียนหรือลบนั้นเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับซีดีแล้ว ทำใจได้เลยว่าเสียก็คือเสียลบไม่ได้ และทางที่ดีก็ควรจะเตรียมข้อมูลให้เต็มแผ่นก่อนที่จะสั่งเขียนอีกด้วย ถ้าหากไฟล์ข้อมูลที่เขียนไปมีการอัพเดตหลังจากที่เขียนไปแล้ว ทางเดียวที่ทำได้ก็คือเขียนแผ่นใหม่ขึ้นมาแทนเท่านั้น บางคนคิดว่าจะใช้ซีดีอาร์ดับบลิวช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้ ผมตอบได้เลยว่าได้จริง แต่ไม่อิสระเท่าสื่ออื่นๆ เพราะเราไม่สามารถลบไฟล์ออกจากแผ่นซีดีอาร์ดับบลิวได้เช่นกัน ถ้าจะลบก็คือต้องลบทั้งแผ่น หรือในกรณีที่เขียนเป็น Packet อย่างเช่น UDF นั้นถึงจะเห็นว่าเขียนได้ลบได้ก็จริง แต่ก็ไม่สะดวกเท่ากับสื่อแบบอื่น
จากปัญหาที่กล่าวไปนั้นก็เลยทำให้นึกถึงปัญหาอีกอย่างตามมาก็คือ ปกติแล้วในสื่ออื่นๆ นั้นเราสามารถมองเห็นโครงสร้างข้อมูลได้อย่างอิสระ สามารถสั่งเขียนหรือลบได้ทันทีจากวินโดว์โดยไม่ต้องทำอะไรให้ยุ่งยาก แต่สำหรับไดรฟ์ซีดีอาร์ดับบลิวแล้วการสั่งเขียนแต่ละครั้ง จำเป็นต้องมีซอฟต์แวร์พิเศษสำหรับเขียนอีกต่างหาก ไม่สามารถสั่งเขียนโดยตรงได้ ทำให้ขั้นตอนการใช้งานค่อนข้างยุ่งยากกว่าสื่อแบบอื่นๆ แต่ถึงอย่างไรจากปัญหาที่ผมนึกออก เมื่อนำมาหักลบกับคุณสมบัติที่ดีแล้ว ก็ยังคงได้เปรียบอยู่มากทีเดียว ทางเลือกที่จะใช้ซีดีอาร์ดับบลิวจึงเป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อย