เพื่ออนาคต : เบ้าหลอมคนอนาคต รศ.ดร.ชัยวัฒน์ คุประตกุล [email protected]
อ่านบทความย้อนหลังได้ทางhttps://rescom.trf.or.th เยาวชนวันนี้ คือ คนอนาคตที่จะต้องรับผิดชอบสังคมในวันหน้า ! |
|
สังคมอนาคตจะเป็นอย่างไร จะเป็นสังคมที่น่าอยู่ ที่สร้างสรรค์ หรือเป็นสังคมที่ไม่น่าอยู่ ไม่สร้างสรรค์ จะขึ้นอยู่กับคุณภาพของคนอนาคตว่า เป็นอย่างไร? อย่างแน่นอน คงมิใช่หมายความว่า สังคมอนาคต จะเป็นสังคมที่น่าอยู่ได้ คนอนาคตจะต้องเป็นคนดีไปเสียทุกคน เพราะย่อมเป็นไปไม่ได้ เงื่อนไขสำคัญที่สุดของสังคมอนาคตที่ดี คือ คนส่วนใหญ่ อย่างน้อยเกินครึ่ง...เป็นคนดี แล้วคนอนาคตจะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับอะไร? หรือว่า ไม่ขึ้นอยู่กับอะไรเลย เพราะมนุษย์เป็นสัตว์โลกที่คาดการณ์ล่วงหน้าอะไรไม่ได้เลย ขึ้นอยู่กับอารมณ์มนุษย์ที่ปรวนแปรอย่างใช้กฎกติกาใด ๆ ถ้ามนุษย์เป็นสัตว์โลกที่คาดการณ์ล่วงหน้าไม่ได้เลยจริง ๆ เรื่องของเราวันนี้ ก็จะต้องจบลงเพียงแค่นี้ ด้วยบทสรุปอย่างสั้นที่สุดว่า สังคมอนาคต เป็นเรื่องที่พยากรณ์ล่วงหน้าไม่ได้ สร้างเป็นสังคมที่ดีหรือแม้แต่จะทำลายให้เป็นสังคมที่เลวร้ายไม่ได้ เพราะไม่มีกฎกติกาใด ๆ ที่จะเชื่อมโยงระหว่างสังคมปัจจุบันถึงสังคมในอนาคต ทว่า โชค (ยังดี) สำหรับมนุษยชาติ ที่เรื่องของคนอนาคตว่า จะเป็นอย่างไร เป็นเรื่องที่สามารถจะพยากรณ์ล่วงหน้าได้ อย่างน้อยก็ได้ในระดับที่สังคมอนาคต จะเป็นสังคมที่ไม่ผิดเพี้ยนไปจากการมองล่วงหน้าไปสู่อนาคตนัก แล้วการพยากรณ์อนาคตที่เรากำลังกล่าวถึงอยู่นี้ เป็นการพยากรณ์แบบไหน? แบบโหราศาสตร์ใช่หรือไม่? คำตอบคือ ไม่ใช่โหราศาสตร์ หากเป็น อนาคตศาสตร์ หรือ Futurism ซึ่งเป็นการพยากรณ์อนาคตอย่างวิทยาศาสตร์ ยึดมั่นในหลักการของวิทยาศาสตร์ ความเป็นเหตุและผลที่เกี่ยวเนื่องกัน แล้วจะทราบได้อย่างไรว่า การมองอนาคตที่จะได้ผลจริง ต้องเป็นการมองอนาคตอย่างอนาคตศาสตร์ มิใช่อย่างโหราศาสตร์? |
|
ถ้าโหราศาสตร์ไม่สามารถพยากรณ์อนาคตได้จริง แล้วทำไม โหราศาสตร์จึงยังดำรงอยู่ได้ และจริง ๆ แล้ว สำหรับสังคมไทยวันนี้ ล้วนรู้จักโหราศาสตร์กันอย่างดี ในขณะที่อนาคตศาสตร์ มีคนไทยรู้จักและใช้ประโยชน์ได้จริง แค่ไหน? เป็นความจริงว่า คนไทย...ในสังคมไทย...ส่วนใหญ่ รู้จักโหราศาสตร์กันอย่างดี ในขณะที่ส่วนใหญ่ แทบจะไม่รู้จักอนาคตศาสตร์เลย เพราะ ในระบบการศึกษาของไทยเรา การนำเสนอข่าวเรื่องราวต่าง ๆ ในสื่อ มีเรื่องของอนาคตศาสตร์ หรือการนำหลักของอนาคตศาสตร์ไปใช้อย่างปรากฏเป็นรูปธรรมทั่งไป น้อยมาก... แต่...ความจริงของสังคมโลกวันนี้ ก็คือ ในการมองอนาคต การวางแผนอนาคตอย่างเป็นทางการของทุกประเทศทั่วโลก ล้วนแต่เป็นการมองอนาคต การวางแผนอนาคตตามหลักของอนาคตศาสตร์ มิใช่ตามหลักของโหราศาสตร์ ในประเทศไทยของเรา ถึงแม้จะไม่มีการกล่าวถึงอนาคตศาสตร์อย่างเป็นรูปธรรมให้เป็นที่ปรากฏทั่วไปนัก แต่การวางแผนอนาคตอย่างเป็นทางการของไทย ดังเช่น การกำหนดแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ซึ่งฉบับปัจจุบันเป็นฉบับที่ 10 (พ.ศ.2550-2554) ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ก็เป็นการกำหนดแผนขึ้นมาตามหลักของอนาคตศาสตร์ ดังนั้น ถึงแม้ประเทศไทยของเรา จะมีการกล่าวถึงอนาคตศาสตร์กันน้อยมาก แต่การกำหนดแผนอนาคต รวมถึงการบริหารจัดการแผนต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างเป็นทางการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในวงการวิชาการและการเมืองกับการปกครองอย่างเป็นทางการแล้ว ก็ล้วนเป็นการดำเนินการตามหลักของอนาคตศาสตร์ทั้งสิ้น แล้วเรื่องความสำเร็จ หรือความล้มเหลวของการดำเนินงานตามแผนที่กำหนดขึ้นมาตามหลักของอนาคตศาสตร์ล่ะ? ก็ขึ้นอยู่กับผู้รับผิดชอบและผู้เกี่ยวข้องว่า ได้ยึดหลักของอนาคตศาสตร์ ซึ่งหัวใจสำคัญคือ การคิด การทำอย่างวิทยาศาสตร์ แค่ไหน! * * * * |
|
สำหรับประเด็น “ถ้าโหราศาสตร์ไม่สามารถพยากรณ์อนาคตได้จริง” และ “เงื่อนไขความสำเร็จหรือความล้มเหลวของการดำเนินงานตามแผนกำหนดตามหลักอนาคตศาสตร์” ล้วนเป็นประเด็นน่าสนใจและสำคัญที่ผู้เขียนขอยังไม่นำมาเจาะประเด็นลงลึกในวันนี้ เพราะประเด็นใหญ่ของเราวันนี้ เป็นเรื่องของ “เบ้าหลอมคนอนาคต” อย่างแน่นอน เรื่อง “เบ้าหลอมคนอนาคต” ที่จะกล่าวต่อไป จึงเป็นเรื่องตามหลักของอนาคตศาสตร์ ขั้นต้นสุด ตามหลักของอนาคตศาสตร์ คนอนาคตจะเป็นอย่างไร ย่อมขึ้นอยู่กับต้นแบบ คือ สังคมปัจจุบัน ที่ทำหน้าที่เป็น “เบ้าหลอมคนอนาคต” ถ้า เบ้าหลอมคนอนาคตเป็นเบ้าหลอมที่ดี ที่ไม่บิดเบี้ยว พิการ อย่างน้องที่สุด คนอนาคตก็มีโอกาสมากที่จะเป็นตามต้นแบบ คือ ไม่บิดเบี้ยว ไม่พิการ... ดังนั้น ความรับผิดชอบขั้นต้นสุดของคนยุคปัจจุบัน คือ ควรจะต้องพยายามทำตนเป็นต้นแบบ หรือเบ้าหลอมคนอนาคตที่ดี จากนี้ ถ้าไม่มีเหตุการณ์คาดไม่ถึง หรือความเปลี่ยนแปลงใหญ่ที่เกิดขึ้น จากมิติเวลาของปัจจุบัน ถึงอนาคตที่เป็นเป้าหมายการมองของเรา ก็พอจะชัดเจนว่า คนอนาคตของประเทศไทย หรือสังคมไทยในอนาคตที่เป็นเป้าหมายการมอง จะไม่แตกต่างไปจากสังคมคนไทยวันนี้นัก * * * * |
|
ถ้าสังคมไทยในอนาคตที่เป็นเป้าหมายการมองของเราวันนี้ เป็นสังคมที่ไม่ผิดเพี้ยนไปจากเบ้าหลอม คือ สภาพของสังคมไทยปัจจุบันนัก แล้วสังคมอนาคตประเทศไทยที่พอมองเห็น จะเป็นอย่างไร ? ผู้เขียนเชื่อว่า ท่านผู้อ่านเป็นจำนวนไม่น้อย คงไม่นึกสบายใจนัก ที่สังคมไทยในอนาคตจะถอดแบบจากเบ้าหลอม คือสังคมไทยวันนี้ อย่างเคร่งครัด ด้วยเหตุผลที่คงจะมองเห็นกันอยู่ในปัจจุบันว่า สังคมไทยวันนี้ เป็นต้นแบบหรือเบ้าหลอมสังคมไทยในอนาคตที่ไม่ดีนัก เพราะคงไม่ปฏิเสธกันว่า สังคมไทยวันนี้ เป็นสังคมไทยที่กล่าวได้ง่าย ๆ ว่าไม่ดีนัก เมื่อเปรียบเทียบกับสังคมไทยในอดีต เช่น เมื่อประมาณห้าสิบปีก่อน อย่างน้อยก็เท่าที่ปรากฏอย่างที่เห็นกันเป็นประจำ และเป็นผลจากการศึกษาวิจัยเปรียบเทียบสังคมไทยปัจจุบันกับสังคมไทยในอดีตย้อนหลังไป เช่น ประมาณห้าสิบปี ปัญหาใหญ่ของสังคมไทยวันนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับสังคมไทยในอดีตเมื่อประมาณห้าสิบปีก่อน มีเช่น เรื่องของการยึดมั่นในความซื่อสัตย์สุจริต การยึดมั่นในหลักการแห่งความถูกต้องเชิงจริยธรรมและจรรยาบรรณ ในทุก ๆ เรื่องที่เกี่ยวข้อง ความละอายต่อการทำบาป ทั้งในการดำเนินชีวิตส่วนบุคคล และการทำงานประกอบอาชีพ ปัญหาของสังคมไทยวันนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับเมื่อห้าสิบปีก่อน ที่สำคัญและมีผลต่อการทำหน้าที่ เป็นเบ้าหลอมคนอนาคตของสังคมไทย และควรเอาใจใส่เป็นพิเศษ คือ ความเสื่อมของสถาบันสังคมไทย 4 สถาบัน ซึ่งเคยเข้มแข็งมาก่อน ได้แก่ (1) สถาบันผู้ใหญ่ (2) สถาบันสงฆ์ (3) สถาบันครู และ (4) สถาบันเพื่อน จากความอ่อนแอของสถาบันสังคมไทย 4 สถาบัน ผนวกกับสภาพของประเทศไทยที่เป็นประเทศเปิด ทำให้คนไทยที่เคยยึดมั่นในหลักการสำคัญของวัฒนธรรมไทยว่า จะต้องยึดมั่นในเรื่องของ “ความเก่ง” กับ “ความดี” ให้ไปด้วยกันอย่างมั่นคง อย่าให้ผิดเพี้ยน หรือบกพร่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องความดี ส่งผลให้สภาพของสังคมไทยวันนี้ เป็นดังที่ปรากฏ.... ดังนั้น สังคมไทยวันนี้ จึงเป็นต้นแบบ เบ้าหลอมสังคมไทยในอนาคต เช่น อีกห้าสิบปีข้างหน้าที่ไม่ดีนัก เพราะมีตำหนิ มีความผิดเพี้ยน และไม่สมบูรณ์ แสดงว่า สังคมไทยในอนาคตอีกห้าสิบปีข้างหน้า ก็คงเป็นสังคมที่ “ไม่ดีนัก” ดังเช่น สังคมไทยวันนี้ อย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง ใช่หรือไม่? คำตอบคือ ไม่ใช่! |
|
เพราะมนุษย์เป็นสัตว์โลกที่สามารถจะเรียนรู้จากความผิดพลาด และแก้ไขความผิดเพี้ยน ผิดปรกติได้ ถ้ารู้ตัว และต้องการ! ดังนั้น คนไทยวันนี้ ที่กำลังทำหน้าที่เป็นเบ้าหลอมคนไทยในอนาคต จึงควรจะตระหนักถึงบทบาทและความรับผิดชอบของตน ต่อสังคมไทยในอนาคต ผู้เขียนเชื่อว่า คนไทยทุกคน ที่เป็นผู้ใหญ่วันนี้ ล้วนมีความปรารถนาตรงกันทุกคน ที่อยากให้ลูกหลานของตนในอนาคต ได้อยู่ในสังคมที่ดี... ถ้าผนวกความปรารถนานี้ เข้ากับหลักของอนาคตศาสตร์ว่า สังคมไทยในอนาคตจะเป็นอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับสังคมไทยวันนี้เป็นสำคัญ ผู้เขียนก็เชื่อว่า เบ้าหลอมคนอนาคตของไทยวันนี้จะดีขึ้น มีตำหนิ และความผิดเพี้ยนน้อยลง อย่างไรก็ตาม ความตระหนักในสิ่งที่จะต้องแก้ไข โดยธรรมชาติของมนุษย์มักจะไม่เกิดขึ้นเองง่าย ๆ ดังนั้น จึงขึ้นอยู่กับสังคมโดยส่วนรวม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สื่อสารมวลชน และการศึกษา ควรจะได้ทำหน้าที่ช่วยเตือนให้คนไทย ได้สำรวจตนเองว่า กำลังทำหน้าที่เป็นต้นแบบเบ้าหลอมสังคมไทยในอนาคตแบบไหน แล้วโอกาสที่เบ้าหลอมอนาคตจะดีขึ้น บิดเบี้ยว และพิการน้อยลง ก็จะมีมากขึ้น! |