เหมา เจ๋อ ตุง จักรพรรดิแดง
เป็นเวลา 25 ปีที่เหมาเจ๋อตุงปกครองประชากร 1 ใน 4 ของโลก เค้าเปลี่ยน จีนจากระบบศักดินาที่ล้าหลังให้เป็นประเทศที่ทรงอำนาจมากที่สุด แต่เบื้องหลังความเงียบของเค้า เรารู้ว่า เค้าอยู่เบื้องหลังการประหาร ประชากร ร่วมชาติกว่า 10 ล้านคน เขาปรกครองเหมือนจักรพรรดิ แต่ยังเป็นคนที่เรียบง่าย นี้คือเรื่องราวของชายที่ได้รับการเทิดทูนเหมือนพระเจ้ามาตลอดชีวิต แต่อาจถูกตัดสินในวันข้างหน้าว่าเป็นเผด็จการกระหายเลือดในศตวรรษที่ 20
Source:https://www.repubblica.it/2006/09/sezioni/esteri
/testi-scolastici-cina/testi-scolastici-cina/stor_8743271_19590.jpg
เค้าเป็นอัจฉริยะ ไม่ว่าคนที่ไม่ชอบเค้า สาบแช่งเค้ากะพูดเหมือนกัน
เหมาเหมือกะสตาริน มากกว่าฮิตเลอร์ แต่เค้าต้องรับผิดชอบการตายของประชากรมากกว่าทั้งคู่
เรารู้ว่าเค้าไม่ชอบอาบน้ำ เค้าชอบเช็ดตัวด้วยผ้า เรารู้ว่าเค้าไม่เคยแปรงฟัน
จีนปราการด่านสุดท้ายลัทธิคอมมิวนิตย์ในโลก กว่า 50 ปีที่ประวัติศาสตร์ถูกคลอบงำของชายคนหนึ่ง
เค้าได้รับการยกย่องว่าเป็นบิดาของการก่อตั้งจีนใหม่ ผู้เปลี่ยนจากลัทธิมาร์ก มาเป็นลัทธิเหมา และทำให้ประชากรชาวจีน เกิดความภาคภูมิและเกิดการเคารพตนเองที่ใดก็ตามมีพรรคคอมมิวนิตย์จีนอยู่ที่นั้นมีความเสมอภาคให้ประชาชน เหมามาจากครอบครัวชาวนาพ่อและปู่ของเค้ามีที่ดินขนาดเกือบ 9 ไร่ ในหมู่บ้านเซ้าชานฉาง เป็นหมู่บ้าน เล็กๆในมณทล หูนาน ทางตอนใต้ของจีนปัจจุบันกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ เหมาเกิดวันที่ 28 ธันวาคมปี1893
เจียงไคเช็ค เหมาเจอตุง
จีนเป็นสังคมศักดินาซึ่งคนจำนวนน้อยอยู่อย่างสุขสะบาย แต่คนอีกหลายล้านแทบเอาชีวิตไม่รอด ในชนบท คนรวยจะทำตัวเป็นจักรพรรดิ รีดไถ คนจน อย่างทารุน มีกบฎชาวนาเกิดขึ้นบ่อยครั้งและถูกปราบปรามอย่างนองเลือด
เหมาเจินเฉิน พ่อของเค้า เป็นผู้ที่สร้างครอบครัวอย่างแข็งขัน เค้าเชื่อในคุณค่าของการทำงานหนัก และทุบตีลูกชายบ่อยๆๆ เหมาและน้องชายอีก 2 คนมีความสุข เมื่ออยู่กะแม่มากกว่า หวนฉีเม่ย เป็นคนไม่รู้หนังสือ พยายามปกป้องลูกลูก เหมาได้รับการศึกษาเพียงเล็กน้อย เค้าเติบโตขึ้นมาพร้อมความไม่เข้าใจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆๆ เค้ามีความมักใหญ่ใฝ่สูงมาก เป็นความขัดแย้งกะตัวเอง เค้าชอบการผจญภัยรุนแรงของพวกฝ่ายซ้าย เค้าแต่งงานอายุ 14 ปี เค้าต้องการหนีชีวิตไปจากหมู่บ้าน เค้าไม่เคยยอมรับ อยู่กินกะเธอ
เค้าอายุ 17 ปี เดินทางไปฉางซา เค้าวางแผนเข้าเรียนในโรงเรียน และเค้าเข้าร่วมกับขบวนการปฎิวัตินานหลายปี ที่จีนถูกปกครองโดยราชวงค์ที่ทุจริตและอ่อนแอ ประเทศถูกแบ่งออกเป็นส่วนส่วน แต่ตอนนี้ราชวงค์ถูกล้มล้างโดยขบวนการสาธารณะรัฐใหม่ ซึ่งนำโดยพรรคก๊กมินตั้ง หรือจีนคณะชาติเค้าเข้าฝึกอบรมอาชีพครูในวิทยาลัยเค้าได้ตัดหางเปีย แสดงการตอบโต้ เค้าเดินทางไปปักกิ่งหางานทำ แต่ะค้าได้เป็ฯผู้ช่วยห้องสมุดในปักกิ่ง และได้อ่านหนังสือ มากมายในห้องสมุด เค้าเข้าร่วมกับกลุ่มนักศึกษา และใฝ่ฝันถึงจีนยุคใหม่ เค้าได้ยินการปฎิวัติในรัสเซีย เค้าชื่นชม เค้าเข้าร่วมกลุ่มก่อตั้งคอมมิวนิตย์จีน เค้าเป็นกลุ่มตัวแทนชาวนาบ้านนอก ไม่มีใครสนใจเค้านัก เค้าเผยแพร่ลัทธิในบ้านเกิดของเค้า และแต่งงานใหม่กะลูกของครูที่เคยสอนเค้า ชีวิตครอบครัวสั้นมาก
มีการปราบปรามคอมมิวนิตย์อย่างรุนแรง นำโดยนายพล เจียงไคเชค 1927 มีการกวาดล้างคอมมิวนิสต์ เหมาหลบหนีพร้อมครอบครัวกระจายกลุ่มออกไปตามที่ต่างๆ เทือกเขาจางสือ แหล่งของคอมมิวนิตย์ เมื่ออายุ 30 ปลายๆเค้าถูกหมายหัว ค่าตัว 250,000 เหรียญเงิน เค้าเป็นผู้สำคัญที่สุดในการปฎิวัติของจีน
เหมาและสหายกลายเป็นคนนอกกฎหมาย เค้าสร้างกองทหาร ปี 1920 เหมารวมกำลัง อีกไม่นานรัฐบาลเจียงไคเช็ค จะเข้าโจมตี การสร้างกองทัพแบบกองโจรยากม๊ากก จนกระทั้งเป็นกองทัพใหญ่ เป็นภัยของรัฐบาล ปี 1930 เจียงไคเช็คเข้าโจมตี พรรคคอมมิวนิตย์สู้ไม่ได้
วิธีการรบใหม่ของเหมาแบบกองโจร อย่าให้ศตูร ได้ทันตั้งตัว จงถอยเมื่อเค้ารุก จงโจมตีเมื่อเค้าหยุดพัก
ภรรยาของเหมาถูกฆ่าพร้อมเพื่อนของเหมา เหมาแต่งงานอีกครั้ง ภรรยาใหม่คือนักรบกองโจร โฮวซีเฉิน ปี 1934 กองทัพทหารเกือบล้านคนปิดล้อมพวกคอมมิวนิสต์ การรบแบบกองโจรจะยังไม่ได้ผล เหมาเกือบจะโดดเดี่ยว เหมากลายเป็นผู้นำโดยไม่มีใครกังขา เค้าใช้โอกาสรวบรวมคนทั้งหมด การเดินทางช่วยให้พรรคคอมมิวนิตย์รอดจากการสูญสลาย
1 ปีต่อมา ปี 1936 พรรคคอมมิวนิสต์ เข้าสู่เยียนนาน เมื่องอิสระตอนเหนือ ห่างไกลกว่าที่กองทัพเข้าถึงได้ มีผู้คนเข้ามาสมทบ ผู้คนชื่นชอบในกิติศัพย์ของเค้ากลายเป็นเขตเสรีของคอมมิวนิตย์ เค้าเขียนบทกวี ทบทวนปฎิวัติทางการเมือง
ศตรูเก่าของจีนคือญึ่ปุ่นได้บุกเข้ามา และทำการโหดร้ายต่างๆๆกะประชากรชาวจีนเหมาฉวยโอกาสทำข้อตกลงที่เหลือเชื่อเป็นพันธมิตรกะเจียงไคเช็ค โดยอ้างว่า เพื่อขับไล่ผู้บุกรุกกะชาวต่างชาติ เค้าลงมือได้ถูกจังหวะ
3 ปีต่อมา จีนและญุ่ปุ่นเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 อเมริกา สนับสนุนเหมา เมื่อสงครามยุติลง พรรคคอมมิวนิตย์เข้มแข็งขึ้น และมียุทโธปกรณ์เพียบพร้อมปี 1949 กองโจรคอมมิวนิตย์เข้าสู่ปักกิ่ง ด้วยชัยชนะ อเมริกาให้ความช่วยเหลือเหมาโดยไม่ตั้งใจ ต่อชายคอมมิวนิตย์ผู้มีอำนาจมากที่สุดในโลก เหมามีอายุ 55 ปี เป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ในศตวรรษที่ 20
วันที่ 1 ตุลาคม ปี 1949 จัตุรัสเทียนอันเหมิน เหมา ถือกำเนิดสาธรณะประชาชนจีน ชนชั้นหัวกะทิรู้สึกไม่พอใจที่คนมีความรู้ชั้นประถมปกครองประเทศ ปี 1956 เหมาทดลองใช้ระบบประชาธิปไตยครั้งแรก ให้ปัญญาชนแสดงทัศนะ เหมาให้ความเห็นว่า นี้คือ หนึ่งร้อยบุปผาได้เบ่งบาน หนึ่งร้อยบุปผาได้ชัยชนะ เค้าคาดการผิด ป้ายโปสเตอร์ขนาดใหญ่ถ้อยคำที่รุนแรง เหมาถูกสั่งคลอน เหมารู้สึกถูกคุกคาม โปสเตอร์ ออกมามากขึ้น เป็นครั้งสุดท้ายที่เหมารับฟังความคิดเห็น และเหมากะจับพวกที่แสดงความคิดเห็น คนหลายแสนคน โดนว่าเป็นคนฝ่ายขวา เข้าเรือนจำ ถูกส่งไปใช้แรงงานชนบท จากผู้นำยอดนิยมเค้ากลายเป็ฯฆาตกรและเผด็จการ ที่วิตกจริต
เหมาไปรัสเซียครั้งแรก ไม่ได้รับความสนใจจากรัสเซีย ลัทธมาร์ก เหมาเลยตั้งลัทธเหมาขึ้นมาซะเอง
A meeting between Mao and Joseph Stalin after the CPC's 1949 victory over the KMT in the Chinese Civil War.
เหมาไม่สนใจอีกต่อไป เค้ามีอิสระที่ดำเนินการทางความคิด ปี1958 เหมาไปเยือนชนบท เค้าหมดความอดทนที่ล้าช้า เปลี่ยนแปลงประเทศ
ฤดูร้อน การก้าวกระโดดครั้งยิ่งใหญ่ เค้าได้ยินครุทช๊อบ กล่าวว่า เค้าจะไล่ทันเมกาภายใน สิบห้าปี เหมากะไล่ทันอังกฤษภายในสิบห้าปีพูดไปนี้นในชนบท ชาวนา 9 ร้อยล้านคน ช่วยทำนาที่นารวมขนาดใหญ่ เพื่อผลิตข้าวให้ได้ สี่เท่า
ประเทศต้องผลิตเหล็กหล้ามากขี้น บ้านแต่ละบ้านมีเตาหลอมเหล็ก หาวัตถุมาเพื่อให้ได้มาหลอมเหล็ก แต่ เหล็กใช้ไม่ได้ ข้าวกะไม่ได้เกี่ยว มา 2 ปีแล้ว เหมาได้รับแต่ข่าวสร้างภาพ เค้ารู้วิธีปฎิวัติ แต่ไม่รู้วิธีปกครองประเทศ
ประชากร อดหยากกินเนื้อคนที่ตายไป เกิด ทุกภิกขภัย ลัทธิการกินเนื้อมนุษย์ เกิดขึ้นได้อย่างไร ประชากร ปี 1949-1951 สี่สิบล้านคน เสียชีวิต จากทุกภิขภัยน้ำมือมนุษย์ ทางการปิดบังเอาไว้ หลิวซาวซี รับช่วงบริหารประเทศ ครั้งแรก 25 ปี เหมาถูกบังคับให้อยู่หลังเก้าอี้
อีก 5 ปีต่อมา 1966 เหมาอายุ 73 ปี ประชาสัมพันธ์ตัวเอง เค้ากลับสู่เกมส์การเมือง สำหรับเด็กๆๆเหมาเป็นวีระบุรุษ ลืมเรื่องทุกภิขภัยไปแล้ว
เหมาเชื่อว่าคณะผู้นำที่เป็นกลางจะเข้ากลับสู่ระบบทุนนิยม เค้าสร้างดุลอำนาจ ของเค้าขึ้นใหม่ได้ พวกปัญญาชนคือศตรูของเค้า
เป็นการฟื้นคืนพรรคคอมมิวนิตย์ ปี 1969 เปิดประเทศจีนสู่ประชาคมโลก เค้าหันหน้าสู่ศตรูคือ อเมริกา ปี 1962 เหมาเชิญประธานาธิบดี ริชาร์ต นิกสัน มาปักกิ่งการประชุม ในช่วงเวลาเกือบ สามทศวรรษ
18 กันยายน ปี 1976 เค้าเสียชีวิต ด้วยอายุ 83 ปี
ขอบคุณ บทความโดย
https://www.oknation.net
หน้าที่ 2 - 1900 ยุคสาธารณรัฐประชาชนจีน
ยุ ค ส า ธ า ร ณ รั ฐ ป ร ะ ช า ช น จี น
(ค.ศ. 1949-ปัจจุบัน)
ประวัติศาสตร์สาธารณรัฐประชาชนจีน(ประวัติศาสตร์ของจีนแผ่นดินใหญ่) ตั้งแต่วันที่1 ตุลาคม 1949 เมื่อพรรคคอมมิวนิสต์มีชัยชนะเหนือพรรคก๊กมินตั๋งในสงครามกลางเมืองจีน เหมา เจ๋อตุง ประกาศจัดตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน (PRC) ที่กรุงปักกิ่งบน จัตุรัสเทียนอันเหมินเพื่อปกครองจีนแผ่นดินใหญ่
เหมา เจ๋อตุง(1949–1976)
หลังสงครามภายในจีนและชัยชนะเป็นของพรรคคอมมิวนิสต์จีนของ เหมา เจ๋อตุง พรรคก๊กมินตั๋งกำลังของ เจียง ไคเช็กอพยพไปที่เกาะไต้หวัน ประตูชัยแรกรวมตรวจระบบความเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินและที่ดินกว้างใหญ่ทำให้ดีขึ้นจากระบบที่ดินศักดินาที่เจ้าของที่ดินของจีนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ของที่ดินเพาะปลูกและ ชาวไร่ชาวนา คนทำงานถูกเคลื่อนย้ายกับระบบการจัดจำหน่ายที่เท่ากันมากกว่าในความกรุณากว่ามั่งมีต่อชาวไร่ชาวนา เหมาเน้นหนักวางบน การต่อสู้ห้องเรียนและงานตามทฤษฎีและในปี 1953 เริ่มต้นการโฆษณาต่างๆเพื่อปิดบังเจ้าของที่ดินก่อนและนายทุนทั้งหลาย
เติ้ง เสี่ยวผิง (1976–1989)
หมา เจ๋อตุง ถึงแก่ความตายและในที่สุด เติ้ง เสี่ยวผิง ก็ได้เป็นผู้นำของสาธารณรัฐประชาชนจีนในปี 1980 จีนที่ลงเรือบนถนนเพื่อทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นและเปิด นโยบายซึ่งเริ่มต้นติดตามกับแห่งอุตสาหกรรมทำให้จุดมุ่งหมายดีขึ้นที่คอนโทรลการปกครองในเซ็กเตอร์แห่งอุตสาหกรรมบนมรดกของหัวข้อของ เหมา เจ๋อตุง เติ้ง เสี่ยวผิง มีแนวความคิดของพื้นที่ในทางเศรษฐกิจพิเศษโดยใช้ เซินเจิ้นเป็นเขตเศรษฐกิจแรกของประเทศที่ซึ่งลงทุนต่างประเทศจะถูกยอมเพื่อไหลในโดยปราศจากการยับยั้งการปกครองเคร่งครัดและข้อบังคับการวิ่งในระบบทุนนิยมอย่างง่าย เติ้ง เสี่ยวผิง เน้นวางบนอุตสาหกรรมที่สว่างเป็นหินที่ก้าวเพื่อการพัฒนาของอุตสาหกรรมหนักการสนับสนุนของ เติ้ง เสี่ยวผิง ทำให้เศรษฐกิจจีนดีขึ้นชี้การพัฒนารวดเร็วของเศรษฐกิจจีน
การเติบโตของทางเศรฐกิจภาคใต้ของจีน(1989–2002)
นำโดย เจียง เจ๋อหมิน เป็นเศรษฐกิจที่เติบโตทั้งๆที่การห้ามส่งสินค้าการค้าต่างประเทศคืนสู่การวิ่งเร็วโดยในปี 1990 เจียง เจ๋อหมิน ทำให้ดีขึ้นวิสัยทัศน์ของ เติ้ง เสี่ยวผิง ที่ไกลกว่าสำหรับระบบสังคมนิยมกับคนจีนในลักษณเวลาเดียวกัน เจียง เจ๋อหมินปรับระยะเวลาที่ดำเนินต่อไปขี้นในการรับสินบนทางสังคมผลกำไรเป็นได้ถูกปิดเพื่อทำวิธีสำหรับแข่งขันกันมากขึ้นการลงทุนอย่างภายในและต่างประเทศที่จัดเตรียมไว้พร้อมระบบความผาสุขทางสังคมถูกใส่ในการทดสอบจริงจัง เจียง เจ๋อหมิน ยังเน้นหนักวางบนความก้าวหน้าแบบวิทยาศาสตร์และทางเทคโนโลยีในพื้นที่ เช่น การค้นหาช่องว่างเพื่อทนรับการบริโภคมนุษย์กว้างใหญ่การดึงดูดการสนับสนุนและคำวิจารณ์แพร่หลายมลพิษทางสิ่งแวดล้อมกลายเป็นปัญหาจริงจังมากเป็นที่ปักกิ่งบ่อย
ขอบคุณข้อมูลจาก
thaigoodview.com