กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย เตือนมือใหม่หัดขับรถเสี่ยงอุบัติเหตุสูง
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตือน “มือใหม่หัดขับ” มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุมากกว่าผู้ขับขี่ทั่วไป แนะผู้หัดขับรถศึกษาลักษณะการใช้งานของรถที่ขับขี่และเรียนรู้การขับรถอย่างถูกวิธี โดยหมั่นฝึกฝนการเปลี่ยนเกียร์ให้ชำนาญ และเลือกใช้เกียร์ให้เหมาะสมกับลักษณะการใช้งาน ศึกษาสภาพเส้นทางก่อนออกเดินทาง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุทางถนนจากความไม่ชำนาญของผู้ขับขี่
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า “มือใหม่หัดขับ” เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย เนื่องจากขาดทักษะการขับขี่อย่างปลอดภัย เพื่อเป็นการป้องกันอันตรายที่อาจเกิดกับผู้ที่หัดขับรถ กรมป้องกันและ บรรเทาสาธารณภัย ขอแนะผู้ขับขี่มือใหม่ให้ศึกษาลักษณะการใช้งานของรถที่ขับขี่และเรียนรู้การ ขับรถอย่างถูกวิธี ดังนี้ รถเกียร์ธรรมดา หมั่นฝึกฝนการเปลี่ยนเกียร์ให้เกิดความชำนาญ ก่อนสตาร์ทรถ ควรตรวจสอบให้เกียร์อยู่ในตำแหน่งเกียร์ว่าง และเอาเบรกมือลงทุกครั้ง เพื่อป้องกันเบรกสึกหรอ อีกทั้งเหยียบคลัทซ์ค้างไว้ เพื่อป้องกันรถพุ่งไปค้างหน้า ไม่ปล่อยคลัทซ์เร็วเกินไปเพราะจะทำให้เครื่อง ยนต์ดับได้ เลือกใช้เกียร์ให้เหมาะสมกับระดับความเร็วของรถ หากต้องการหยุดรถให้ค่อยๆ แตะเบรก เมื่อรถหยุดสนิทให้ปลดเกียร์ว่างพร้อมดึงเบรกมือขึ้นจะช่วยป้องกัน รถไหล หลีกเลี่ยงการขับผ่านเส้นทางที่เป็นเนินหรือสะพานในช่วงที่การจราจร ติดขัด เพราะรถอาจไหลลงมาชนรถคันหลังได้ หากจำเป็นต้องหยุดรถบนเส้นทางลาดชัน ให้ดึงเบรกมือและเข้าเกียร์ว่าง เมื่อรถเคลื่อนตัวให้เหยียบคันเร่งพร้อมปลดเบรกมือออก รถเกียร์อัตโนมัติ เรียนรู้และจดจำตำแหน่งเกียร์ให้แม่นยำ เลือกใช้เกียร์ให้เหมาะสมกับสภาพการใช้งาน ก่อนสตาร์ทรถควรตรวจสอบให้เกียร์อยู่ในตำแหน่ง P คันเกียร์ไม่คร่อมระหว่างตำแหน่ง P-R เพราะแรงสตาร์ทของรถ อาจทำให้คันเกียร์ดีดไปเข้าเกียร์ถอยหลัง ก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ กรณีรถจอดติดสัญญาณไฟแดง เพื่อความปลอดภัย ให้เลื่อนตำแหน่งเกียร์ไปที่ P จะช่วยป้องกันรถไหลไปชนรถคันอื่น และก่อนรถออกตัวให้แตะเบรกแล้วจึงเหยียบคันเร่ง เพื่อป้องกันรถพุ่งไปชน รถคันหน้า ที่สำคัญ เนื่องจากผู้ที่หัดขับรถมักไม่คุ้นเคยกับสภาพรถและสภาพ เส้นทาง จึงไม่ควรขับรถเร็ว และควรเว้นระยะห่างจากรถคันอื่นอย่างพอเหมาะ ไม่แซงหรือเปลี่ยนช่องทางกะทันหัน ไม่หยุดรถในระยะกระชั้นชิด ศึกษาข้อมูลเส้นทางเดินทางล่วงหน้า รวมถึงเรียน รู้วิธีแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้ากรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้