กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย กำหนดแนวทางรับมือภัยพิบัติในฤดูร้อน
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กำหนดแนวทางรับมือภัยพิบัติอื่นๆ ในช่วงฤดูร้อน โดยประสานจังหวัดจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์พายุฤดูร้อนอย่างใกล้ชิด ตรวจสอบ ป้ายโฆษณา สิ่งปลูกสร้างให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง พร้อมจัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ตลอดจนกำหนดระบบจัดเก็บขยะมูลฝอยในเขตชุมชน และควบคุมการเผาในพื้นที่เกษตรกรรม เพื่อป้องกันไฟลุกลามเป็นไฟป่า ก่อให้เกิดปัญหาหมอกควันปกคลุมพื้นที่
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ติดตามผลกระทบจากปรากฎการณ์เอลนีโญ่ พบว่า นอกจากจะทำให้ปีนี้ประเทศไทยต้องประสบปัญหา ภัยแล้งรุนแรง และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดพายุฤดูร้อนบ่อยครั้งแล้ว ยังส่งผลให้อุณหภูมิผิวดินเพิ่มสูงขึ้น จึงเอื้อต่อการเกิดไฟป่าและหมอกควันได้ง่าย เพื่อให้การเตรียมการรับมือภัยพิบัติในช่วงฤดูร้อนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้กำหนดแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติอื่นๆ ในช่วงฤดูร้อน โดยประสานให้จังหวัดดำเนินการ ดังนี้
พายุฤดูร้อน จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศและเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จัดเตรียมเครื่องมือวัสดุอุปกรณ์ให้พร้อมช่วยเหลือผู้ประสบภัย กำชับให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตรวจสอบสภาพป้ายโฆษณา สิ่งปลูกสร้างและต้นไม้ริมข้างทาง หากอยู่ในสภาพไม่ปลอดภัยให้ดำเนินการปรับปรุงโดยด่วน ตลอดจนแจ้งเตือนประชาชนดูแลบ้านเรือน ให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง ส่วนเกษตรกรให้จัดทำที่ค้ำยันต้นไม้ เพื่อป้องกันสิ่งปลูกสร้างและผลผลิตทางการเกษตรได้รับความเสียหาย หากเกิดพายุฤดูร้อนในพื้นที่ใดให้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่สำรวจความเสียหายและนำเครื่องจักรกลซ่อมแซมบ้านเรือน สิ่งสาธารณะประโยชน์ที่ได้รับความเสียหายให้กลับคืนสู่สภาพปกติ รวมถึงจ่ายเงินช่วยเหลือเป็นค่าวัสดุซ่อมแซมบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายจากพายุลมแรง
หมอกควัน ไฟป่า จัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันช่วงฤดูแล้ง ณ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด กำหนดมาตรการควบคุมการเผา ในพื้นที่เกษตรกรรม จัดระบบจัดเก็บขยะมูลฝอยในเขตชุมชน พร้อมแจ้งเตือนให้ประชาชนระมัดระวังการประกอบกิจกรรมที่ทำให้เกิดควันไฟ งดเว้นการเผาตอซางข้าว การเผาขยะบริเวณริมแนวชายป่า รวมถึงรณรงค์ให้ทุกภาคส่วนจัดทำแนวกันไฟ กำจัดวัชพืชและวัตถุที่อาจเป็นเชื้อเพลิงบริเวณบ้านเรือนและพื้นที่สาธารณะ เพื่อควบคุมการเกิดควันไฟและป้องกันไฟลุกลามเป็นไฟป่า ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหามลภาวะทางอากาศ ท้ายนี้ หากประชาชนในพื้นที่ใดประสบความเดือดร้อนจากพายุฤดูร้อน หมอกควันไฟป่า สามารถติดต่อสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป