หิมะโปรยปราย ดั่งสันทรายในมองโกล
หิมะโปรยปราย ดั่งสันทรายในมองโกล
นอนอยู่บ้านลมเย็นๆพัดโชยมา เลยเริ่มรู้สึกว่าหน้าหนาวเมืองไทยกำลังย่างกรายเข้ามา....คิดถึงเพื่อนที่ฮาร์บินว่าตอนนี้จะเป็นอย่างไรบ้างกับอากาศหนาวๆที่ใกล้จะติดลบลงไปทุกวันๆ คิดแล้วก็อยากกลับไปเที่ยวเทศกาลหิมะน้ำแข็งที่ฮาร์บินอีกสักครั้ง คิดถึงก้อนน้ำแข็งที่ตั้งอยู่ทั่วเมือง แกะสลักเป็นรูปต่างๆ อยากไปไท่หยางเต่าที่มองไปทางไหนก็ขาวโพลน หอบหิมะกองโตมาปาเล่น อยากไปนั่งริมหน้าต่างอุ่นของร้านกาแฟเจ้าประจำในคืนที่หิมะโปรยปราย พอขากลับหอฉันก็จะเป็นคนแรกที่เหยียบลงบนถนนที่ปูด้วยพรมหิมะที่เพิ่งตกลงมา คิดถึงไอติมที่กินยังงัยก็ไม่ละลาย อ้อยอิ่งค่อยๆเล็มไปเรื่อยๆ เว้นเสียแต่มือที่ถือไอติมจะถือไม่ไหว สีสันสดในของถังหูลู่เสียบไม้ที่ปักอยู่ตามรถเข็นก็น่ามองเช่นกัน แต่กินแล้วระวังฟันหักด้วยนะ มันเหมือนแช่ช่องฟรีซออกมาเลยแหละ
เทศกาลแกะสลักน้ำแข็งหรือที่คนจีนเรียกกันว่า ปิงเติงเจี๋ย 冰灯节 นั้นจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีที่เมืองฮาร์บิน ตอนเหนือของประเทศจีน ในช่วงฤดูหนาวอันหนาวเหน็บของฮาร์บิน งานเริ่มประมาณปลายเดือนธันวาจนถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นฤดูท่องเที่ยวของเมืองน้ำแข็งแห่งนี้ ผู้จากทั่วสารทิศหลั่งไหลกันเข้ามาชมงานซึ่งถือเป็นที่สุดของโลกอย่างเทศกาลแกะสลักน้ำแข็ง ซึ่งจัดขึ้นที่บริเวณที่ดินโล่งกว้างตรงข้ามสวนสาธารณะไท่หยางเต่า(ฝั่งเจียงเป่ย) แต่ละปีหัวข้อของงานจะถูกเปลี่ยนไปเรื่อยๆอาทิ หัวข้อประเทศเกาหลีก็จะมีสถาปัตยกรรมอย่างพระราชวังเคียงบกกุงตั้งตระหง่านให้ชม หัวข้อโอลิมปิคพวกเราก็จะเห็นมาสคอตห้าตัวของปักกิ่งโอลิมปิคตั้งอยู่ตามส่วนต่างๆทั่วงาน หัวข้อดิสนีย์ก็จะมีเหล่าตัวการ์ตูนแกะสลักน้ำแข็งจากดิสนีย์มาสร้างสีสันให้แก่งาน เป็นต้น แต่ภายในงานก็ยังมีสถาปัตยกรรมเดิมยืนพื้นอยู่ สถาปัตยกรรมแต่ละอย่างที่ช่างแกะสลักน้ำแข็งจากทั่วโลกบรรจงสร้างสรรค์มาให้ชมนั้นถือมาเป็นผลงานชิ้นเอกเลยทีเดียว ตัวสถาปัตยกรรมมีขนาดใหญ่ บางชิ้นสามารถจุคนได้เป็นร้อยๆ สามารถที่จะปีนขั้นบันไดน้ำแข็งขึ้นไปชมวิวจากมุมสูงได้อีกด้วย ก้อนน้ำแข็งที่ถูกนำมาแกะสลักนี้ภายในบรรจุหลอดไฟเอาไว้ เมื่อถึงยามอาทิตย์ลับตา ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีดำเมื่อไหร่ ก็ถึงคราวผลงานเหล่านี้โชว์ตัวด้วยสีสันต่างๆนานาที่ถูกบรรจงสอดใส่เอาไว้ในก้อนน้ำแข็ง ภายในงานนอกจากจะสามารถชื่นชมผลงานศิลปะขนาดยักษ์นี้ ยังมีเครื่องเล่นที่ทำจากน้ำแข็ง เข่น สไลเดอร์น้ำแข็งยักษ์ รถลาก เลื่อน แต่ต้องระวังด้วยอาจจะฟกช้ำดำเขียวกันกลับมาได้ ส่วนใครที่เดินแล้วยังไม่อยากกลับแต่ทนหนาวไม่ไหวสามารถเข้าไปหลบหนาวได้ที่ร้านกาแฟในงาน พูดซะหรูเชียว มันเป็นร้านที่ให้นั่งพักแต่ต้องสั่งเครื่องดื่ม ราคาก็แพงตามไปด้วย แต่ภายในร้านมีละครสัตว์ขนาดย่อมให้ชมกันด้วย พอพักกันหายหนาวแล้วก็ลุยต่อกันได้เลย งานเดินประมาณชั่วโมงกว่าๆก็ครบรอบแล้ว และบวกกับลิมิตของร่างกายด้วยว่าทนหนาวได้แค่ไหน
นอกจากงานแกะสลักน้ำแข็งแล้ว ภายในสวนสาธารณะก็จะมีงานแกะสลักหิมะให้ชมอีกงานนึงด้วย ซึ่งก็คือ 冰雪博览会 งานนี้ต้องมาชมกันตอนกลางวัน ทุกสิ่งทุกอย่างภายในนี้จะขาวโพลนด้วยสีของหิมะ ภายในสวนถูกประดับปะดาด้วยรูปปั้นเทพยดาต่าง รูปปั้นการ์ตูน ที่ทำจากหิมะสีขาวล้วนๆ ภายในบริเวณจัดงานก็ยังมีรถเลื่อนให้นั่งบริการสุดประทับใจกับน้องหมาตัวใหญ่ๆ ที่จะคอยลากเลื่อนให้พวกเราสนุกกัน แต่หมามันคงเหนื่อยอ่ะ
เที่ยวเมืองน้ำแข็งที่ฮาร์บินนี้ต้องจำเสื้อที่ใส่กันดีๆ เพราะถ่ายรูปกันออกมาแล้วทุกคนอาจจะเหลือแต่ตาได้ สำหรับคนที่มาจากเมืองอื่นมาเที่ยวเองด้วยเวลาจำกัด ขอเสนอทริปชมน้ำแข็งสองงานนี้ด้วยเวลาวันเดียวคือเช้ามาดูแกะสลักหิมะ ตกเย็นเดินข้ามถนนไปดูแกะสลักน้ำแข็ง ถ้าทนหนาวไม่จริงๆตรงกลางระหว่างสองงานจะมีอควาเรี่ยมแสดงสัตว์น้ำและพวกเพนกวินให้เข้าไปหลบได้พักนึง อ๊ะอ๊ะ เข้าไม่ได้ให้เข้าฟรีนะจ๊ะ เสียตังค์ด้วย 100 หยวน
ส่วนเครื่องแต่งกายและอุปกรณ์ต่างๆแนะนำว่าเอาให้พร้อมค่ะ เพราะต้องอยู่ด้านนอกทั้งวัน หมวก ถุงมือ ผ้าพันคอ เสื้อกันหนาวขนเป็ด กางเกงลองจอน รองเท้า พร้อมรบค่ะ เพื่อการเที่ยวอย่างมีความสุข ไม่งั้นคงไปทรมานตายอยู่กลางหิมะเป็นแน่แท้ เคล็ดลับตอนไปงานแกะสลักน้ำแข็งเพื่อป้องกันอุบัติเหตุค่ะ ช่วงที่ต้องเดินขึ้นบันไดที่ทำจากน้ำแข็ง เกาะเพื่อนคุณไว้ให้ดีดี แล้วมองพื้นที่เดิน เดินตรงที่เค้าปูพรมไว้ หรือไม่ก็มีหิมะโรยทับไว้ อย่าเดินบนน้ำแข็งโดยตรง อาจเสียหลักลื่นหน้าคว่ำไปกองกับพื้นได้
สำหรับน้องนักเรียนที่เรียนอยู่ที่ประเทศจีนต้องอย่าลืมเอาบัตรนักเรียนมาใช้ลดราคาด้วย เพราะตั๋วราคาค่อนข้างสูงที่เดียว ด้วยความปรารถนาดีจากผู้เขียน
นส.ภารวิณี ยังเจริญยืนยง
อดีตนักเรียนภาษาและทุน HIT ระดับปริญญาโท
สาขาการค้าระหว่างประเทศ
แหล่งศูนย์แนะแนวการศึกษาต่อต่างประเทศทั่วโลก
ที่ https://study.vcharkarn.com/gointer