คันอวัยะเพศ อาการคันบริเวณอวัยวะเพศ เรื่องควรรู้


8,410 ผู้ชม

สาเหตุของอาการคันบริเวณอวัยวะเพศที่พบได้บ่อย คือ เชื้อรา และผิวหนังอักเสบ  ซึ่งอาจจะเกิดจากการแพ้ การระคายเคือง หรือมีความอับชื้นบริเวณนี้


อาการคันบริเวณอวัยวะเพศ

       สาเหตุของอาการคันบริเวณอวัยวะเพศที่พบได้บ่อย คือ เชื้อรา และผิวหนังอักเสบ  ซึ่งอาจจะเกิดจากการแพ้
การระคายเคือง หรือมีความอับชื้นบริเวณนี้
การรักษาที่สำคัญคือ การดูแลรักษาความสะอาดบริเวณนี้ให้ดี อย่าให้มีความอับชื้น ไม่จำเป็นต้องใช้ยาล้าง
ถ้าเป็นผิวหนังอักเสบให้พยายามหลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้เกิดการแพ้หรือระคายเคือง (ต้องสังเกตุดู)
 
ยาที่ใช้คือยาทาที่ช่วยลดการอักเสบและระคายเคือง เช่น Kenacomb cream ทาวันละ 2 ครั้ง เช้า - ก่อนนอน
ถ้าเป็นเชื้อรา ให้ใช้ยาแก้เชื้อรา เช่น Nizoral cream ทาวันละครั้งนาน 2 สัปดาห์ และอาจจะต้องใช้กิน
หรือยาเหน็บร่วมด้วย ในกรณีที่เป็นในช่องคลอดด้วย (ซึ่งจะทราบก็ต่อเมื่อได้รับการตรวจภายใน)
 
ในกรณีที่รักษาไประยะหนึ่งแล้ว (3-4วัน) อาการไม่ดีขึ้น ก็ควรรีบมาพบแพทย์เพื่อที่จะได้รับการตรวจวินิจฉัย
และรักษาที่ถูกต้องต่อไป

https://www.thaiclinic.com/vaginitis.html

อวัยวะเพศหญิงกับความสะอาด


อวัยวะเพศหญิง  ประกอบด้วย 2 ส่วน  ได้แก่  ส่วนที่อยู่ภายนอกร่างกาย  มีปากช่องคลอดกับเนื้อสองชั้น (แคมใหญ่และแคมเล็ก)  รูเปิดของท่อปัสสาวะ คริสตอริส  และ ส่วนที่อยู่ภายในร่างกาย  เช่น ช่องคลอด  มดลูก  รังไข่

การดูแลรักษาความสะอาด

อวัยวะเพศหญิงมีสิ่งที่สกปรกต่างๆ จากเหงื่อไคล ปัสสาวะ และตกขาว ตลอดจนฝุ่นละอองต่างๆ มาเกาะติดได้ง่าย  การรักษาความสะอาดจึงควรดูแลเป็นพิเศษ และทำความสะอาดเฉพาะภายนอกเท่านั้น  ดังนี้

1. ควรทำความสะอาดอวัยวะเพศทุกวันเช้าและเย็น ด้วยน้ำและสบู่ ซับให้แห้งด้วยผ้าหรือกระดาษ
    อ่อนเพียงเบาๆ การถูแรงๆ อาจทำให้เกิดปริแตกเป็นแผลได้ และควรจะตากผ้าเช็ดตัวให้แห้งใน
    แสงแดดทุกวัน  ไม่ควรตากไว้หน้าห้องน้ำ เพราะจะอับชื้นและเป็นเชื้อราได้ง่าย

2. ควรทำความสะอาดเป็นพิเศษตามรอยย่นรอยจีบต่างๆ  ของอวัยวะเพศโดยเฉพาะบริเวณ
    คริสตอริส แคมเล็กและปากช่องคลอด

3. หลังการขับปัสสาวะและอุจจาระ ควรทำความสะอาดชำระเช็ดจากข้างหน้าไปข้างหลังและล้าง
    ด้วยน้ำ โดยวิธีเดียวกัน

4. ไม่ควรใช้กางเกงในที่รัดแน่น หรืออับเหงื่อ และไม่ควรใช้กางเกงในกับคนอื่น กางเกงในควรจะเป็น
    ผ้าฝ้ายที่มีเนื้อผ้าบางเบา อากาศถ่ายเทสะดวก เป็นการลดความอับชื้นของอวัยวะเพศ และควรจะ
    ซักแล้วตากให้โดนแสงแดดก่อนนำมาใช้ เพราะจะช่วยฆ่าเชื้อ

5. ในผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว ก่อนและหลังการร่วมเพศ ควรทำความสะอาดอวัยวะเพศเพื่อขจัดสิ่ง
    สกปรก น้ำอสุจิ ยาฆ่าอสุจิ หรือสารหล่อลื่นต่างๆ ออกให้หมด

6. การล้างช่องคลอด เพื่อรักษาความสะอาดภายในเป็นความคิดที่ผิด เพราะเป็นการทำลายเชื้อ
    แบคทีเรียที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ทำให้เชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อราชนิดที่เป็นอันตรายต่อ
    ร่างกายเกิดขึ้นแทนและบางครั้งอาจมีอาการแพ้ยาที่ใช้ด้วย

การรักษาความสะอาดช่วงมีประจำเดือน

ในช่วงที่มีประจำเดือน  ผู้หญิงต้องเอาใจใส่เป็นพิเศษกว่าปกติในช่วงที่มีประจำเดือน  โดยปฏิบัติ  ดังนี้

1. การอาบน้ำควรเป็นน้ำที่มีอุณหภูมิปกติ ไม่เย็นจัดจนทำให้หนาวสั่น ไม่ร้อนจนเกินไป

2. อวัยวะเพศควรฟอกล้างด้วยสบู่ และไม่ล้างเข้าไปในช่องคลอด

3. ทุกครั้งที่เปลี่ยนผ้าอนามัย ควรฟอกล้างอวัยวะเพศก่อนแล้วซับให้แห้ง

4. เมื่อผ้าอนามัยเปียกชุ่ม ควรเปลี่ยนผ้าใหม่ การปล่อยเอาไว้โดยไม่เปลี่ยนผืนใหม่ จะทำให้อวัยวะ
    เปียกชื้นมาก ผิวหนังจะเกิดผื่นคันหรือเปื่อยลอกได้ง่าย และผ้าอนามัยที่เปียกชุ่ม พอเลือดแห้งผ้า
    อนามัยจะแข็งทำให้กดหรือเสียดสี ทำให้ผิวหนังของอวัยวะเพศและขาหนีบอักเสบซึ่งจะเจ็บแสบ
    มาก

เกร็ดน่ารู้

ผู้หญิงควรรู้จักสังเกตความผิดปกติในระบบสืบพันธุ์ เช่น การตกขาวมาก ตกขาวมีกลิ่นหรือสีผิดปกติ อาการคันเจ็บแสบ ซึ่งบ่งว่ามีการอักเสบเกิดขึ้นเป็นแผล ปัสสาวะบ่อย ปวดแสบ ตกเลือดขณะหรือหลังการมีเพศสัมพันธ์ หรือเจ็บปวดขณะมีเพศสัมพันธ์ ถ้าเกิดอาการเหล่านี้ต้องรีบไปปรึกษาแพทย์ นอกจากนี้ควรสังเกตลักษณะของอวัยวะเพศตนเองอยู่เสมอ หากมีอาการผิดปกติจะได้รีบรักษาทันที

https://www.pooyingnaka.com

อัพเดทล่าสุด