อาหารว่างทานเล่น อาหารว่างอย่างง่าย พร้อมภาพและวิธีทำ


1,306 ผู้ชม


กุ้งนอนแห
"กุ้งนอนแห" เป็นอาหารที่ประยุกต์มาจากล่าเตียง โดยการนำตาตารางไข่มาห่อกุ้งแทนไส้หมูปรุงรส ที่ห่อเป็นคำๆ สวยงาม กินได้สะดวก มีรสอร่อย สิ่งเหล่านี้จะบ่งบอกถึงฝีมือและความตั้งใจของผู้ทำได้เป็นอย่างดี อาหารว่างสวยๆ จานนี้จึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะใช้ในโอกาสพิเศษ
การทำกุ้งนอนแห กุ้งต้องสด เลือกกุ้งตัวเท่าๆ กัน ควรใช้กุ้งชีแฮ้จะดีกว่ากุ้งกุลาดำ เพราะกุ้งกุลาดำเนื้อจะเหนียวแม้มีสีสวยกว่าก็จริง เวลานึ่งต้องใช้น้ำเดือดไฟแรง อย่านึ่งกุ้งนานเพราะทำให้เนื้อกุ้งเหนียว และการทำไข่ตาตารางต้องโรยด้วยกรวยโลหะหรือใบตองจะสะดวกและรวดเร็วกว่าการใช้นิ้วมือแล้วสะบัดไข่ให้เป็นเส้น ไฟที่ใช้ในการทำต้องใช้ไฟกลาง ถ้าไฟแรงไข่จะไหม้และกรอบ ห่อไม่ได้ ไข่ตารางที่ดีเส้นต้องตรงและนุ่ม คือเมื่อทำได้หลายแผ่นต้องวางซ้อนๆ กันได้ จะทำให้ไข่นุ่มไม่แข็งจะห่อได้ง่าย
อาหารว่างไทยจานนี้ถ้าเสิร์ฟกับน้ำชา ก็ไม่ต้องใช้น้ำจิ้ม แต่ต้องหมักกุ้งกับรากผักชี กระเทียม พริกไทยโขลกก่อน ตัวกุ้งจึงจะมีรสชาติที่เข้มข้น จึงควรใช้กุ้งตัวเล็กๆ
เครื่องปรุง
กุ้งชีแฮ้ตัวใหญ่ 10 ตัว หมูสับ 1/4 ถ้วย กุ้งบด 1/4 ถ้วย ไข่ไก่ 4 ฟอง รากผักชีโขลกละเอียด 1 ช้อนชา กระเทียมโขลกละเอียด 5 กลีบ พริกไทยป่น 1/8 ช้อนชา เกลือป่น 1 ช้อนชา 
วิธีทำ
1. ล้างกุ้ง แกะเปลือก เด็ดหัวไว้หาง ผ่าหลังตลอด ดึงเส้นดำออก เคล้าด้วยน้ำมะนาว 1 ช้อนชา2. ผสมหมูสับ กุ้งบด รากผักชี กระเทียม พริกไทย เกลือป่น 1/2 ช้อนชา เข้าด้วยกัน3. วางกุ้ง ตักส่วนผสมใส่ตรงกลางประมาณ 2-3 ช้อนชา เกลี่ยให้ทั่ว วางเรียงลงในถาด นึ่งไฟแรง 10 นาที พอสุกเอาออกจากเตา4. ต่อยไข่ใส่ถ้วย ใส่เกลือที่เหลือ ตีเข้าด้วยกัน โรยไข่เป็นเส้นในกระทะที่ทำน้ำมันบางๆ เป็นตาตาราง ตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดพอห่อกุ้ง นำไข่มาห่อกุ้งที่นึ่ง จัดลงในจาน รับประทานกับน้ำจิ้ม
เครื่องปรุงน้ำจิ้ม
ซอสพริก 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา 
ใส่เครื่องปรุงน้ำจิ้มทั้งหมดลงในหม้อ คนให้ทั่ว ตั้งไฟพอร้อน ยกลง
เปาะเปี๊ยะทุเรียนทอด
ทุเรียน ราชาผลไม้ที่เป็นที่รู้จักกันอย่างดีทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ เมื่อถึงฤดูของทุเรียน ก็จะมีทุเรียนให้เลือกกินมากมาย ราคาก็ไม่แพง ยิ่งเดี๋ยวนี้มีทุเรียนทั้งจากจันทบุรี ระยอง นนทบุรี และทุเรียนใต้ ที่ออกมาในระยะไล่เลี่ยกัน ทำให้มีการตัดทุเรียนอ่อนมาขายเพื่อแย่งชิงตลาดกัน จึงเป็นสาเหตุทำให้เมื่อไปซื้อทุเรียนแล้วได้ทุเรียนอ่อนที่แม่ค้าบางเจ้าบอกว่ารอสามวันก็กินได้ เนื้อไม่เละ กำลังกินทีเดียว รอไปตั้งห้าวันกลิ่นก็ไม่หอม หรือในบางครั้งในทุเรียนหนึ่งลูกก็มีทั้งเนื้อที่สุกเละ เนื้อห่าม และดิบ ปนกัน ก็อย่ารีบด่วนใจร้อนทิ้งทุเรียนไป เพราะสามารถนำเนื้อทุเรียนห่ามและดิบมาทำอาหารได้เนื้อทุเรียนดิบจะมีแป้งในปริมาณสูง แต่เมื่อสุก แป้งจะถูกเปลี่ยนเป็นน้ำตาล จึงได้เนื้อทุเรียนที่มีรสหวาน เหตุนี้เองเนื้อทุเรียนดิบและทุเรียนห่ามจึงปรุงเป็นอาหารคาว หวานได้หลายจาน เช่น ใส่ในแกงกะหรี่แทนมันฝรั่ง ส้มตำทุเรียน แกงเขียวหวาน ขนมหวานก็เช่น ทุเรียนแกงบวด ทุเรียนเชื่อม ส่วนอาหารว่างก็ต้อง "เปาะเปี๊ยะทุเรียนทอด" ที่ใช้เนื้อทุเรียนห่ามที่มีรสหวานเล็กน้อยมาทำ เปาะเปี๊ยะทุเรียนทอดที่อรอ่ยนั้น ต้องกรอบ ไม่อมน้ำมัน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับฝีมือการทอด ต้องใจเย็น รอจนน้ำมันร้อน ใช้ไฟกลาง
เครื่องปรุง
แผ่นแป้งเปาะเปี๊ยะ 200 กรัม ทุเรียนห่าม 1 ลูกเล็ก กุ้งแชบ๊วย 200 กรัม ไข่แดง 1 ฟอง ไข่ขาว 1 ฟอง แป้งมัน 1/2 ช้อนชา เกลือป่น 1/4 ช้อนชา พริกไทยป่น 1/8 ช้อนชา ไวน์ขาว 1/4 ช้อนโต๊ะ น้ำมันพืชสำหรับทอด
วิธีทำ
1. ล้างกุ้ง แกะเปลือก เด็ดหัวเด็ดหาง กุ้งหนึ่งตัวหั่นตามขวางให้ได้ 4 ชิ้น ซับน้ำให้แห้ง ใส่เกลือ พริกไทย แป้งมัน ไวน์ขาว ไข่ขาว เคล้าให้เข้ากัน นำเข้าแช่ตู้เย็นในช่องแช่แข็ง 30 นาที2. ตัดแผ่นแป้งเปาะเปี๊ยะเป็นสี่เหลี่ยม ขนาด 5x5 นิ้ว หั่นเนื้อทุเรียนเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม ขนาด 2x2 ซม.3. วางแผ่นแป้งเปาะเปี๊ยะ 1 แผ่น ห่อกุ้งที่หมัก 1 ชิ้น ทุเรียน 1 ชิ้น ห่อเป็นสี่เหลี่ยมเล็ก ม้วนให้แน่น ทาไข่แดงเพื่อให้เแป้งติดกัน ห่อจนหมด4. ใส่น้ำมันลงในกระทะ ใช้ไฟกลาง พอน้ำมันร้อน นำเปาะเปี๊ยะทุเรียนลงทอดจนมีสีเหลืองทอง ตักขึ้น พักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน เสิร์ฟร้อนๆ พร้อมกับน้ำจิ้มบ๊วยเจี่ย
เมี่ยงไก่
ยุคนี้เป็นยุคของอาหารสุขภาพ หลายทฤษฏีจึงพยายามย้อนกลับไปสู่อาหารธรรมชาติที่มีการดัดแปลงน้อย มีกากใยมาก ซึ่งอาหารไทยเราอยู่ในข่ายนี้หลายสูตร "เมี่ยงไก่" นับเป็นอาหารประยุกต์อีกชนิดหนึ่งที่เข้าข่ายอาหารเพื่อสุขภาพ เพราะมีส่วนผสมของเนื้อสัตว์ เครื่องเทศ และเส้นใย เรียกได้ว่าเป็นสูตรอาหารที่ถูกต้องตามหลับโภชนาการสากลทีเดียวเมี่ยงไก่ เป็นเมี่ยงที่มีรสชาติเข้มข้น เมื่อนำมารับประทานกับใบคะน้าที่มีรสมันแล้ว ต่างก็ช่วยชูรสชาติของกันและกันให้อร่อยยิ่งขึ้น พริกไทยอ่อนซึ่งมีรสเผ็ดและกลิ่นหอมทำให้ไม่เลี่ยน จึงกินได้เพลิน นับเป็นอาหารกินเล่นที่ให้รสชาติกลมกลืนอีกสูตรหนึ่ง
เครื่องปรุง
เนื้อไก่สับละเอียด 1 ถ้วย กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 1 1/2 ช้อนโต๊ะ ซีอิ๊วขาว 1 1/2 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 1 1/2 ช้อนโต๊ะ น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ ใบคะน้าอ่อนเด็ดเป็นใบ พริกไทยอ่อนเด็ดเป็นเม็ดๆ 
วิธีทำ
1. ใส่น้ำมันในกระทะ ตั้งไฟให้ร้อน ใส่กระเทียมเจียวให้หอม ใส่ไก่ ผัดพอสุก2. ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว น้ำตาล น้ำมะนาว ผัดให้เข้ากัน พอไก่สุกปิดไฟ ยกลง
วิธีจัดเสิร์ฟ จัดใบคะน้าลงบนจาน ตักเครื่องปรุงเมี่ยงวางข้างบน โรยพริกไทยอ่อน ห่อเป็นคำๆ ไว้รับประทาน 
ขนมปังหน้าปลา
ปลาทะเลเป็นอาหารสุขภาพอีกอย่างหนึ่งที่หลายคนให้ความสนใจหันมารับประทานกันมากยิ่งขึ้น เพราะเป็นอาหารที่ย่อยง่าย มีกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกายสูง นำมาทำเป็นอาหารว่างที่มีชื่อว่า "ขนมปังหน้าปลา" ซึ่งต้นตำรับคือขนมปังหน้าหมูที่รับประทานกับอาจาดนั่นเองขนมปังหน้าปลาเป็นอาหารว่างจานอิ่มที่สุกด้วยการทอด จึงทำให้อิ่มนาน เหมาะสำหรับเป็นอาหารว่างช่วงบ่าย เมื่อถึงอาหารเย็นก็จะทำให้รับประทานอาหารได้น้อยลง จึงนับเป็นอีกวิธีที่ช่วยลดน้ำหนักได้ เพราะกิจกรรมในช่วงเย็นมีน้อย การใช้พลังงานก็น้อยไปด้วย
การทำขนมปังหน้าปลาให้อร่อย อันดับแรกปลาต้องสด เนื้อปลาจะหวานและไม่มีกลิ่นคาว ไข่ก็ต้องใหม่ เพราะใข่จะมีความข้นทำให้ชิ้นแฮมและเนื้อปลาติดกับขนมปังได้อย่างดีเมื่อทอดก็ไม่แยกอกจากกัน การทอดต้องใช้น้ำมันร้อน ไฟกลาง จึงจะไม่อมน้ำมันและมีสีเหลืองสวย
อาหารว่างจานนี้เหมาะสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ ซึ่งน้ำจิ้มสำหรับเด็กนั้นจะเปลี่ยนเป็นซอสมะเขือเทศแทน หรือไม่ต้องใช้น้ำจิ้มเลยก็ได้ เพราะในเนื้อปลามีการหมักด้วยเครื่องปรุงอยู่แล้ว
เครื่องปรุง
ขนมปังแซนด์วิช 10 แผ่น เนื้อปลากะพงขาวหั่นชิ้นพอคำ 300 กรัม แฮม 200 กรัม ไข่ไก่ตีพอเข้ากัน 2 ฟอง แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ ผักชีเด็ดเป็นใบ 1 ต้น หอมใหญ่สับ 1/2 ช้อนชา งาขาวคั่ว 1 ช้อนชา พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา เกลือป่น 1/2 ช้อนชา ไวน์ขาว 1 ช้อนชา น้ำมันพืชสำหรับทอด 
วิธีทำ
1. ตัดขนมปังเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมหรือสามเหลี่ยมให้สวยงาม (ขนมปัง 1 แผ่น ตัด 4 ชิ้น) วางผึ่งให้แห้ง (หรือจะใช้ขนมปังเก่าก็ได้) 2. ผสมเนื้อปลากับเกลือ ไวน์ พริกไทย หอมใหญ่ งาขาว และแป้งข้าวโพด คลุกเคล้าให้เข้ากัน หมักประมาณ 1 ชั่วโมง3. หั่นแฮมเป็นชิ้นขนาดเท่าเนื้อปลา4. ใส่น้ำมันลงในกระทะ ตั้งไฟกลาง วางแฮมบนชิ้นขนมปัง วางเนื้อปลาที่หมักวางทับ วางใบผักชี ชุบไข่ พอน้ำมันร้อนใส่ขนมปังลงทอดจนสุกเหลือง5. ตักขึ้นวางบนกระดาษซับน้ำมัน ทอดจนหมด จัดใส่จาน รับประทานกับน้ำจิ้ม
เครื่องปรุงน้ำจิ้ม
พริกชี้ฟ้าแดงเอาเมล็ดออกโขลก 1 เม็ด น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วย น้ำส้มสายชู 1/4 ถ้วย เกลือป่น 1/2 ช้อนชา 
ใส่น้ำตาล เกลือ น้ำส้มสายชู ลงในหม้อ ตั้งไฟพอน้ำตาลละลาย ใส่พริกชี้ฟ้า เคี่ยวต่อจนเหนียวเล็กน้อย 
จุ๋ยก๊วย
"จุ๋ยก๊วย" อาหารว่างของจีนชนิดหนึ่ง มีตัวแป้งเป็นถ้วยบุ๋มไว้สำหรับใส่ไส้ และต้องกินร้อนๆ จึงจะอร่อย หาซื้อกินได้ตามตลาดสำเพ็ง พาหุรัด บางลำพู เป็นต้น พ่อค้าส่วนมากเป็นคนจีน เวลาขายเขาจะนึ่งตัวเแป้งให้ร้อนตลอดเวลา เวลาลูกค้าสั่งจึงตักไส้ใส่ บรรจุลงในกระทงใบตองแห้ง พร้อมกับราดน้ำจิ้มที่มีรสเปรี้ยว เผ็ด แต่ถ้าอยากทำกินเองหรือทำไว้รับแขกก็สามารถทำได้การทำจุ๋ยก๊วยให้อร่อยนั้นสำคัญอยู่ที่ตัวแป้งคือ ตัวแป้งต้องนุ่ม เวลานวดแป้งต้องค่อยๆ ใส่น้ำอุ่น นวดให้แป้งเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน ถ้วยตะไลต้องเลือกให้มีขนาดกลางหรือเล็กพอคำ และต้องนึ่งให้ร้อนจัดก่อนจึงใส่แป้ง ตัวแป้งจะบุ๋มเป็นรูลึก ทำให้ใส่ไส้ได้มาก ส่วนไส้ต้องปรุงให้ได้รสที่เข้มข้น น้ำจิ้มต้องเปรี้ยว เผ็ดพอดี อาหารว่างจานนี้เสิร์ฟเป็นอาหารว่างช่วงบ่ายจะช่วยประทังความหิวก่อนถึงอาหารมื้อเย็นหรือมื้อค่ำได้เป็นอย่างดี
ส่วนผสมแป้ง
แป้งข้าวเจ้า 3 ถ้วย แป้งมัน 3 ช้อนโต๊ะ เกลือป่น 1 ช้อนชา น้ำอุ่น 2 ถ้วย 
วิธีทำแป้ง
1. ผสมแป้งทั้ง 2 ชนิด และเกลือเข้าด้วยกัน ค่อยๆ ใส่น้ำอุ่น นวดโดยใส่น้ำไปเรื่อยๆ จนหมด2. เรียงถ้วยตะไลลงในลังถึง นึ่งถ้วยในน้ำเดือดให้ร้อนจัด คนแป้งที่ผสมไว้ในข้อ 1 ตักแป้งหยอดให้เต็มถ้วยตะไล ปิดฝา นึ่งต่อจนสุก ใช้เวลาประมาณ 6-7 นาที เอาออกจากเตา3. แซะขนมออกจากถ้วย ใส่ไส้ จัดใส่จาน รับประทานกับน้ำจิ้ม
ส่วนผสมไส้
หมูสับ 1/2 ถ้วย หัวไชโป๊สับละเอียด 1 ถ้วย กระเทียมสับละเอียด 3 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมันพืช 1/4 ถ้วย 
วิธีทำไส้
1. เจียวกระเทียมในน้ำมันให้เหลืองหอม ใส่หมู ผัดให้เนื้อหมูกระจาย ใส่หัวไชโป๊ ผัดให้ทั่ว2. ใส่น้ำตาล ซีอิ๊วขาว ผัดจนสุกทั่ว ตักไว้เป็นไส้
ส่วนผสมน้ำจิ้ม
พริกชี้ฟ้าแดงโขลกละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา เกลือป่น 1 ช้อนชา น้ำส้มสายชู 1/4 ถ้วย 
ผสมส่วนผสมทุกอย่างเข้าด้วยกัน ตั้งไฟพอเดือด ยกลง 
ข้าวตังน้ำพริกเผาผัด
ข้าวตัง ข้าวที่เหลือติดก้นหมอที่แซะออกมาตากแดดเป็นแผ่น แปรรูปมาเป็นอาหารว่างจานอร่อย หลายรูปหลายแบบ รสชาติหลากหลาย ทั้งข้าวตังหน้าตั้ง ข้าวตังหน้ากุ้ง ข้าวตังหน้ามะพร้าว ข้าวตังเมี่ยงลาว หรือข้าวตังกะทิ ซึ่งเป็นข้าวตังที่ได้จากการหุ้งข้าวมันกะทิ กินกับส้มตำไทยโบราณ รสออกเค็มๆ มันๆ กินเล่นได้อร่อย แต่สูตรนี้จะเป็น "ข้าวตังน้ำพริกเผาผัด" โดยนำข้าวตังมาทอดกรอบ ทาด้วยน้ำพริกผัด ตามอย่างกาพย์เห่เรือ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชการที่ 6 ทรงพระราชนิพนธ์ไว้ว่า "ข้าวตังกรอบถนัด น้ำพริกผัดละเลงทา ข้าวตังปิ้งใหม่มา จิ้มหน้าตั้งทั้งเค็มมัน" น้ำพริกผัดเป็นน้ำพริกเผาผัดที่ออกรสเค็ม หวาน เปรี้ยว และเผ็ดเล็กน้อย ซึ่งน้ำพริกเผานี้สามารถทำเก็บไว้กินได้นานวันเช่นเดียวกับข้าวตังเลยทีเดียวการทำข้าวตังแต่ก่อนต้องแซะข้าวกันหม้อหรือก้นกระทะใบบัว แต่เดี๋ยวนี้ไม่ต้องรอเพราะข้าวตังมีขายทั้งแบบเป็นแผ่นกลม แผ่นสี่เหลี่ยมให้เลือกซื้อ หรือจะทำเองก็ได้ เพียงเลือกข้าวสารใหม่มาหุง ข้าวจะแฉะ มีความเหนียว นำมากดให้เป็นแผ่น ตากพอแห้ง กลับอีกด้านตากจนแห้งสนิท เก็บใส่ขวด ปิดฝา เมื่อมีแขกหรือยามว่าง เพียงทอดข้าวตังแล้วนำมาทาด้วยน้ำพริกเผา เท่านี้ก็ได้อาหารว่างจานอร่อยแล้ว
เครื่องปรุง
ข้าวตัง 300 กรัม กุ้งแห้งตัวใหญ่ 1/2 ถ้วย มะม่วงดิบซอยเป็นเส้นเล็กๆ 1 ถ้วย พริกแห้งเม็ดใหญ่ 5 เม็ด หอมแดงซอย 1/2 ถ้วย กระเทียมซอย 3 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปีบ 1/4 ถ้วย เกลือป่น 2 ช้อนชา น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ กะปิ 1 ช้อนชา น้ำมันพืชสำหรับผัด 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมันพืชสำหรับทอด 
วิธีทำ
1. ใส่น้ำมันลงในกระทะ ตั้งไฟกลาง พอน้ำมันร้อน ใส่ข้าวตัง ทอดให้เหลืองกรอบ ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน พอเย็นเก็บใส่ภาชนะ ปิดฝาให้สนิท2. พริกแห้งแกะเมล็ดออกแช่น้ำพอนุ่ม เจียวหอมและกระเทียมให้เหลืองกรอบ (แยกเจียวทีละอย่าง)3. โขลกกุ้งแห้งให้เนื้อฟูเป็นปุย โขลกพริกแห้งให้ละเอียด ใส่หอมแดงเจียว กระเทียมเจียวโขลกเข้าด้วยกัน ใส่เกลือ กุ้งแห้ง โขลกรวมกัน ใส่กะปิ โขลกให้เข้ากันอีกครั้งหนึ่ง ใส่มะม่วงเคล้าเบาๆ พอทั่ว4. ใส่น้ำมันลงในกระทะ 2 ช้อนโต๊ะ ตั้งไฟกลางพอร้อน ใส่น้ำพริกที่โขลกในข้อ 3 ผัดให้ทั่วปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล ผัดเข้าด้วยกัน ผัดพอแห้ง ตักใส่ถ้วย
วิธีจัดเสิร์ฟ ตักน้ำพริกเผาผัด ทาบนข้าวตังบางๆ ให้ทั่ว จัดวางในจาน อย่าวางซ้อนกัน 
พลอยสามสี
พลอยสามสี เป็นอาหารว่างประยุกต์ที่อร่อยอีกอย่างหนึ่ง การพับฟองเต้าหู้ เราอาจพับได้หลายรูปแบบ จะเป็นสี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม หรือครึ่งวงกลมก็ได้ ทำให้สามารถจัดให้สวยงาม เป็นอาหารค็อกเทลก็ได้ เป็นออร์เดิร์ฟก็ดี ทำกินเล่นๆ เป็นอาหารว่างก็ชวนกิน หรือจะทำขึ้นโต๊ะเป็นกับข้าวก็ยังไหว เครื่องเคราที่ใช้ทำหาได้ง่ายๆ ตามท้องตลาดทั่วๆ ไป การโขลกกระเทียม รากผักชี พริกไทย เกลือ ทำให้พลอยสามสีมีกลิ่นหอมแบบอาหารไทยๆ แต่หน้าตาเป็นจีนๆ เล็กน้อย
น้ำจิ้มที่ใช้เสิร์ฟ ก็เลือกได้ตามรสนิยมของคนกิน ถ้าเป็นผู้ใหญ่ใส่รสเผ็ดผสมแก้เลี่ยน โดยผสมน้ำตาล น้ำส้มสายชู เกลือ ตั้งไฟให้น้ำตาลและเกลือละลาย ยกลง พอเย็นผสมพริกชี้ฟ้าแดงโขลก ให้สีสวยงามและมีรสเผ็ด น้ำจิ้มควรให้รสออกเปรี้ยว เผ็ด เค็ม และให้มีรสหวานนำเสียหน่อย แต่ถ้าเป็นน้ำจิ้มสำหรับเด็กใช้น้ำจิ้มบ๊วยเจี่ยที่มีขายสำเร็จรูปก็ง่ายดี แต่ถ้าจะทำเองก็ควรให้มีรสหวานนำจะถูกปากถูกใจเด็กๆ มากกว่า
เครื่องปรุง
ฟองเต้าหู้แผ่นใหญ่ 1 แผ่น เนื้อปู 1/2 ถ้วย แครอทหั่นชิ้นเล็ก 1/4 ถ้วย เม็ดถั่วลันเตาหั่นชิ้นเล็ก 1/4 ถ้วย ข้าวโพดต้มแกะเม็ด 1/4 ถ้วย หอมใหญ่สับ 2 ช้อนโต๊ะ รากผักชีหั่น 1 ช้อนโต๊ะ กระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา เกลือป่น 1/2 ช้อนชา ซอสปรุงรส 1 ช้อนชา น้ำมันพืชสำหรับผัด 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมันพืชสำหรับทอด กระดาษซับมัน
วิธีทำ
1. โขลกรากผักชี กระเทียม พริกไทย เกลือเข้าด้วยกัน2. ใส่น้ำมันลงในกระทะ ตั้งไฟให้ร้อน ใส่เครื่องที่โขลก ผัดให้หอม ใส่หอมใหญ่ เนื้อปู แครอท เม็ดถั่วลันเตา ผัดจนสุกทั่ว ใส่ข้าวโพด ผัดพอทั่ว3. ปรุงรสด้วยซอสปรุงรส ตักใส่ถ้วยไว้สำหรับเป็นไส้4. พรมน้ำบนฟองเต้าหู้ให้นิ่ม ตัดเป็นแผ่นกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2-3 นิ้ว ตักไส้ใส่ พับเป็นรูปครึ่งวงกลม โดยทาน้ำริมแผ่นฟองเต้าหู้เพื่อให้ฟองเต้าหู้ติดกัน ทำจนหมด5. ใส่น้ำมันลงในกระทะ ตั้ง ไฟกลาง พอน้ำมันร้อนใส่ฟองเต้าหู้ที่ใส่ไส้แล้วทอดให้เหลืองกรอบ ตักขึ้นวางบนกระดาษซับน้ำมัน จัดใส่จาน รับประทานร้อนๆ กับน้ำจิ้ม
ขนมเบื้องญวน
ขนมเบื้อง เป็นอาหารว่างอีกชนิดหนึ่ง ถึงแม้ว่าตำรับดั้งเดิมนั้นไม่ใช่ของไทยก็ตาม แต่คนไทยได้นำมาปรับปรุงในเรื่องรสชาติจนถูกปากคนไทยเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ เคล็ดลับในการทำขนมเบื้องญวนอยู่ที่การผสมแป้ง ต้องนวดด้วยมือจนแป้งเป็นเนื้อเดียวกัน และพักแป้งที่นวดไว้สักครู่เพื่อให้แป้งขึ้น แผ่นแป้งขนมเบื้องจะกรอบนุ่มนวล ไม่กรอบกระด้างส่วนผสมแป้ง
แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย ถั่วเขียวเราะเปลือกคั่วป่น 2 ช้อนโต๊ะ เกลือป่น 1/4 ช้อนชา น้ำ 1 1/2 ถ้วย น้ำปูนใส 1/2 ถ้วย 
ผสมแป้งข้าวเจ้า ถั่วเขียว เกลือ น้ำปูนใส น้ำ เข้ากัน นวดให้แป้งละลายเป็นเนื้อเดียวกัน
ส่วนผสมไส้กุ้ง
กุ้งสับ 1/2 ถ้วย มะพร้าวขูดขาว 1 ถ้วย รากผักชีหั่น 1 ช้อนโต๊ะ กระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ ใบมะกรูดซอยละเอียด 1-2 ช้อนชา พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา เกลือป่น 1/2 ช้อนชา น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ 
โขลกรากผักชี กระเทียม พริกไทย เกลือ เข้าด้วยกันให้ละเอียด นำไปผัดกับน้ำมันให้หอม ใส่กุ้ง ผัดพอสุก ใส่มะพร้าว ผัดพอทั่ว ปรุงรสด้วยน้ำตาล ใส่ใบมะกรูด ตักใส่ถ้วย
ส่วนผสมไส้
เต้าหู้แข็งหั่นชิ้นเล็กๆ 1 แผ่น หัวไชโป๊สับ 1/2 ถ้วย ถั่วงอกเด็ดหาง 300 กรัม ถั่วลิสงคั่วป่น 1/2 ถ้วย 
วิธีทำขนมเบื้องญวนชนิดกรอบ
1. นำกระทะตั้งไฟ พอร้อนใส่แป้ง กลอกแป้งให้ทั่วกระทะ2. พอแป้งสุก ใส่ถั่วงอก เต้าหู้ หัวไชโป๊ ถั่วลิสง3. เมื่อแป้งร่อนจากขอบกระทะ ค่อยๆ ใส่น้ำมันรอบๆ กระทะเล็กน้อย4. เมื่อแป้งกรอบ ใส่ไส้กุ้ง โรยพริกไทย ผักชี พับครึ่ง ตักใส่จาน เสิร์ฟร้อนๆ กับอาจาด
วิธีทำขนมเบื้องญวนชนิดไข่
1. แบ่งแป้ง 1 ถ้วย ใส่ไข่ 1 ฟอง ตีพอเข้ากัน2. กรอกแป้งลงในกระทะที่ร้อน ใส่ถั่วงอก เต้าหู้ หัวไชโป๊ ถั่วลิสง ใส่ไส้กุ้ง โรยพริกไทย ผักชี3. พอแป้งสุกพับสี่ด้านเป็นรูปสี่เหลี่ยม ใส่น้ำมันทอดพอเหลือง ตักใส่จาน เสิร์ฟร้อนๆ กับอาจาด
ส่วนผสมอาจาด
แตงกวาซอยบางๆ 1/2 ถ้วย หอมแดงซอย 5 หัว พริกชี้ฟ้าแดงหั่นแว่น 1 เม็ด ผักชีเด็ดเป็นใบ 1 ต้น น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย เกลือป่น 1 ช้อนชา น้ำส้มสายชู 1/2 ถ้วย 
ผสมน้ำตาล เกลือ น้ำส้มสายชู ลงในหม้อตั้งไฟให้เดือด ยกลง ทิ้งไว้ให้เย็น เมื่อจะเสิร์ฟ ใส่หอมแดง แตงกวา พริกชี้ฟ้าแดง ลงในถ้วย ราดด้วยน้ำปรุงรส แต่งด้วยผักชี 
กุ้งห่มสไบ
เมื่อวันหยุดที่ทุกคนรอคอยมาถึง เป็นวันที่สมาชิกภายในบ้านอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา ได้มีโอกาสทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน รวมถึงการทำอาหารด้วย ทั้งอาหารคาว หวาน และอาหารว่างที่ปรุงง่ายอย่าง "กุ้งห่มสไบ" เป็นการสร้างความสัมพันธ์ในบ้าน ช่วยประหยัดเงิน ประหยัดเวลา พลังงาน ให้กับชาติอีกด้วย
อาหารว่างจานนี้มีส่วนผสมไม่มากเลย เพียงในครัวมีกุ้ง ผักบุ้ง เบคอน ก็สามารถทำอาหารจานนี้ได้แล้ว แต่ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ กุ้งห่มสไบต้องจิ้มด้วยน้ำจิ้ม แล้วมีผักหรือผลไม้รสเปรี้ยวมากินแนม เช่นกินกับสับปะรดหั่นชิ้นพอคำ หรือมะเขือเทศหั่นเป็นเสี้ยว ก็ทำให้กินกุ้งห่มสไบกันได้เพลิน ไม่เลี่ยนจนทำให้หยุดกินก่อนอิ่ม นอกจากอร่อยแล้วยังเป็นการเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการอีกด้วย
กุ้งห่มสไบนี้ต้องเลือกกุ้งสดๆ ขนาดกลางตัวเท่าๆ กัน ใช้ได้ทั้งกุ้งชีแฮ้และกุ้งกุลาดำ แต่กุ้งชีแฮ้เนื้อจะนุ่มกว่า เวลาห่อต้องค่อยๆ คลี่ใบผักบุ้งออกให้เป็นแผ่นวางซ้อนกัน แล้วจึงม้วนให้แน่น กลัดด้วยไม้กลัด เวลาทอดจึงจะเป็นชิ้นสวย สำหรับวิธีทอดที่ไม่ให้หางกุ้งไหม้เกรียม ต้องค่อยๆ หย่อนส่วนหัวกุ้งลงไปก่อน แล้วจึงทิ้งกุ้งลงทั้งตัว ทอดพอกุ้งสุกเป็นสีชมพูเป็นอันใช้ได้ ถ้าทอดนานเกินไปกุ้งจะแข็ง
อาหารว่างจานนี้เหมาะกับทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะในวัยเด็ก วัยที่กำลังเจริญเติบโต เพราะอาหารว่างจานนี้ให้พลังงานสูง และมีผักซ่อนอยู่ทำให้เด็กกินผักได้ แต่ถ้าใครที่กำลังควบคุมน้ำหนัก อย่าเผลอกินเพลิน น้ำหนักจะขึ้นได้โดยไม่รู้ตัวเลยทีเดียว
เครื่องปรุง
กุ้งชีแฮ้ 12 ตัว เบคอน 6 ชิ้น ใบผักบุ้ง 36 ใบ น้ำมันพืชสำหรับทอด 
วิธีทำ
1. ล้างกุ้งแกะเปลือก เด็ดหัวไว้หาง บั้งท้องกุ้งตามขวาง ดึงตัวกุ้งให้เหยียดตรง2. ล้างใบผักบุ้งให้สะอาด พักให้สะเด็ดน้ำ 3. หั่นเบคอน 1 ชิ้น ให้ได้ 2 ชิ้น (รวมเบคอนที่ได้ 12 ชิ้น)4. วางผักบุ้งบนเบคอน 3 ใบ วางกุ้งแล้วม้วนให้แน่น กลัดด้วยไม้กลัด5. ใส่น้ำมันลงในกระทะ ตั้งไฟกลาง พอน้ำมันร้อน ใส่กุ้งในข้อ 3 ลงทอดให้สุก ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน6. จัดใส่จาน รับประทานกับน้ำจิ้มตามชอบ และสับปะรดหั่นชิ้นพอคำ หรือมะเขือเทศหั่นเสี้ยว
ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก naichef

อัพเดทล่าสุด