อาหารว่างไทย อาหารว่างทําขาย กำไรดี


1,234 ผู้ชม


เฉาก๊วย ดำแต่ดี

เฉาก๊วย

เฉาก๊วย เป็นผลผลิตต่อเนื่องจากการแปรรูปต้นเฉาก๊วย ซึ่งเป็นพืชในวงศ์ Lamiaceae (วงศ์มิ้นท์) วงศ์เดียวกับ สะระแหน่ กะเพรา โหระพา แมงลัก และ ยี่หร่า

วิธีทำเฉาก๊วยอย่างง่ายๆ คือ นำต้นเฉาก๊วยแห้งมาต้ม จนยางไม้และแพคตินละลายออกมาได้น้ำสีน้ำตาลดำ เรียกว่า ชาเฉาก๊วย จากนั้นก็กรองเอาแต่น้ำ แล้วนำไปผสมกับแป้งพืช เพื่อให้เฉาก๊วยคงตัวเป็นเจลลี่ ซึ่งส่วนประกอบนั้น แต่ละเจ้าจะมีสูตรของตนเอง วิธีที่เป็นต้นตำรับโบราณนั้น นิยมผสมกับแป้งท้าวยายม่อม และแป้งมันสำปะหลัง อัตราส่วนตามความเหมาะสม โดยแป้งมันจะทำให้เนื้อเฉาก๊วยนิ่ม (ใส่มากจะเหลว) ส่วนแป้งท้าวยายม่อมจะให้เนื้อเฉาก๊วยคงรูปได้นาน อาจปรับปรุงโดยใส่แป้งข้าวเจ้าเพื่อให้แข็งตัวขึ้น หรือเพิ่มแป้งข้าวเหนียวให้มีความหนุบหนับ หรือใส่ส่วนผสมอื่นๆ ก็ได้ ปัจจุบัน มีผู้ค้าบางรายใส่สีผสมอาหารให้สีดำเข้มบ้าง ใส่วุ้น-เจลาติน เพื่อประหยัดต้นทุนก็มี

การรับประทานเฉาก๊วยแต่เดิมชาวจีนจะกินกับน้ำตาลทรายแดง โดยเอามาคลุกกับน้ำตาลให้เข้ากัน คนไทยนำมาดัดแปลงโดยหั่นเป็นชิ้นๆ ใส่ในน้ำเชื่อมและน้ำแข็ง กินกับข้าวโพด ลูกชิด หรือลูกตาลเชื่อมก็ได้

ส้มโอ หรือ เกรปฟรุต ต้านสารพิษ

Grapefruit

ส้มโอ หรือ เกรปฟรุต เป็นผลไม้รสชาติดีที่ได้รับความนิยมในอาหารมื้อเช้าของชาวตะวันตก สารเพกติน ซึ่งเป็นไฟเบอร์ประเภทหนึ่งในเกรปฟรุต สามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด ก่อนที่จะจับตัวเป็นก้อนและขวางทางเดินในหลอดเลือด นอกจากนี้เพกตินยังสามารถช่วยป้องกันไม่ให้โลหะหนักเหล่านี้ทำอันตรายต่อร่างกาย ส่วนเกรปฟรุตยังช่วยต่อต้านการเกิดมะเร็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งมะเร็งกระเพาะอาหาร และ มะเร็งตับอ่อน สารต้านอนุมูลอิสระในเกรปฟรุตช่วยปกป้องสารพิษที่เป็นอันตรายต่อร่างกายได้

สูตรอาหาร : แกงเลียงหอยแมลงภู่

แกงเลียงเป็นอาหารดั้งเดิมของไทย ใส่ผักต่างๆ ตามพื้นบ้าน ถ้าใช้แกงกับหัวปลี ใบกุยช่าย หรือ ใบกระเพรา คุณแม่ลูกอ่อนรับประทานร้อนๆ จะช่วยเพิ่มปริมาณน้ำนมได้ จัดเป็นยาขนานหนึ่ง สำหรับบางคนที่อยู่จังหวัดแถบชายฝั่งทะเลที่มีหอยแมลงภู่อยู่มาก สามารถนำหอยแมลงภู่มาแกงเป็นแกงเลียงก็ไม่ว่ากันครับ

 แกงเลียงหอยแมลงภู่

ส่วนผสม (ขนาดรับประทาน 4 คน)

  1. หอยแมลงภู่แกะตัวใหญ่สีแดงสด 2 ถ้วยตวง
  2. โครงไก่ 1 โครง
  3. น้ำปลาดี 1 ช้อนโต๊ะ
  4. ใบแมงลักเด็ดแล้ว 1 ถ้วยตวง
  5. น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
  6. พริกขี้หนูบุบ 10 เม็ด

เครื่องปรุงน้ำพริก

  1. พริกไทย 15 เม็ด
  2. หอมแดง 3 หัวใหญ่
  3. กะปิดี 1 1/2 ช้อนชา
  4. เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
  5. ปลาดุกย่าง (ใช้แต่เนื้อ) 1/4 ถ้วยตวง
  6. โขลกเครื่องทั้งหมดให้ละเอียด จึงใส่ปลาดุกย่าง

วิธีทำ

  1. ล้างหอยให้สะอาด ใส่ตะแกรงให้สะเด็ดน้ำ
  2. นำโครงไก่มาต้มเป็นน้ำซุปไว้
  3. นำน้ำซุป 2 ถ้วยตวงใส่หม้อตั้งไฟ ตักน้ำพริกลงละลายพอเดือด ใส่น้ำปลา ชิมพอเค็มปล่อยให้เดือดมากจึงใส่หอยลงคนพอสุก ใส่ใบแมงลัก ใช้ทัพพีกดให้จมน้ำ ยกลง
  4. ตักใส่ชามบีบมะนาว โรยพริกขี้หนู รับประทานร้อนๆ

*** อย่าต้มหอยนานเกินไป เพราะจะทำให้หอยหดตัวไม่น่ารับประทาน

สูตรอาหาร : แกงคั่วกุ้งกับสะตอ

วันนี้ผมขอนำเสนอสูตรอาหารใต้กันบ้างนะครับ แกงคั่วกุ้งกับสะตอเป็นแกงทางจังหวัดพัทลุง อาหารทางภาคใต้นั้นถ้าเป็นแกงคั่วจะใส่ขมิ้นในอาหารแทบทุกชนิด เพราะแกงมีรสเผ็ดจัด ผู้ใหญ่ท่านฉลาดที่นำขมิ้นมาใส่ในอาหาร เพราะขมิ้นเป็นยารักษาท้องและลำไส้ให้ทำงานได้ตามปกติครับ

  แกงคั่วกุ้งกับสะตอ

ส่วนผสม (ขนาดรับประทาน 6 คน)

  1. กุ้งชีแฮ้หรือกุ้งกุลา 1/2 กิโลกรัม
  2. มะพร้าว 1/2 กิโลกรัม
    • คั้นหัวกะทิ 1 ถ้วยตวง
    • กลางหางกะทิ 2 ถ้วยตวง
  3. สะตอแกะเม็ดแล้ว 1 ถ้วยตวง
  4. น้ำปลาดี 2 ช้อนโต๊ะ
  5. น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนชา

เครื่องน้ำพริก

  1. พริกแห้ง เอาเม็ดออกแช่น้ำให้นิ่ม 7 เม็ด
  2. กระเทียม 20 กลีบ
  3. หอมแดง 7 หัว
  4. พริกไทย 20 เม็ด
  5. ตะไคร้หั่นฝอย 2 ช้อนโต๊ะ
  6. ขมิ้นสดยาว 1/2 นิ้ว หั่นขวางบางๆ 1 ชิ้น
  7. เกลือป่น 1 ช้อนชา
  8. กะปิ 1 ช้อนชาพูน
  9. โขลกรวมกันให้ละเอียด

วิธีทำ

  1. นำกุ้งมาล้างให้สะอาด ปอกเปลือกไว้หาง ผ่าหลังเอาเส้นดำออก
  2. นำกะทิใส่หม้อตั้งไฟ ใส่น้ำพริกลงละลาย ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล ใส่กุ้ง สะตอ ลงผัดพอสุก

*** สะตอปอกเปลือกขาวที่หุ้มออก แล้วแกะออกเป็น 2 ซีก แช่น้ำสักครู่ เอาขึ้นให้สะเด็ดน้ำ

อัพเดทล่าสุด