"อาหารบำรุงสมองและระบบประสาท"
อาหารบำรุงสมองและระบบประสาท
อาหารที่บำรุงสมอง ได้แก่ ยา วิตามิน และสารอาหารที่ได้จากธรรมชาติ และมีอยู่โดยทั่วไป บางอย่างเราเคยรับประทานประจำ ในที่นี้จะขอนำเสนอเฉพาะสารอาหารที่ได้จากธรรมชาติ
แต่การที่จะซื้อหาอาหารเหล่านี้มาบริโภค ในปัจจุบันท่านจะต้องระวังเรื่องของสารปนเปื้อนที่ไม่ปลอดภัยที่จะติดมากับพวกอาหารเหล่านี้ ก่อนซื้อหามาบริโภคก็ควรดูให้แน่ว่าปลอดภัย
พวกสารอาหารที่ได้จากธรรมชาติมีดังนี้ครับ
1. Folic Acid มีอยู่ในผักใบเขียวจัดทุกชนิด แครอต ตับ และไข่แดง แคนตาลูป ฟักทอง อะโวคาโด ถั่วแดง - ดำ - เหลือง ข้าวซ้อมมือ และข้าวสาลีไม่ขัดขาว
2. Niacin ข้าวซ้อมมือ ข้าวสาลีไม่ขัดขาว จมูกข้าว ปลา ไข่ ถั่วลิสงคั่ว อะโวคาโด อินทผลัม มะเดื่อ ไก่ ( เนื้อขาว )
3. Zinc จมูกข้าว เมล็ดฟักทอง บริวเวอร์ยีสต์ ไข่ นม มัสตาร์ดผง
3. Potassuim ส้ม ส้มโอ แคนตาลูป มะเขือเทศ แห้ว ผักใบเขียว สะระแหน่ เมล็ดทานตะวัน กล้วยน้ำว้า มันเทศ มันฝรั่ง
4. Kelp คือต้นไม้ทะเล เกลือแร่ที่ต้องการจาก Kelp คือไอโอดีน สาหร่ายทุกชนิดก็ใช้ได้
5. Tryptophan คอตเตจชีส นม เนื้อสัตว์ ปลา กล้วย อินทผลัม ถั่วลิสง
6. Phenylalanine ถั่วเหลืองและผลิตผลจากถั่วเหลือง เนื้อสัตว์ หอย กุ้ง คอตเตจชีส นม ถั่ว อัลมอนด์ ถั่วลิสง งา เมล็ดฟักทอง
7. B 1 ข้าวซ้อมมือ รำข้าว ข้าวสาลีไม่ขัดขาว ข้าวโอต ถั่วลิสง เนื้อหมู ผัก นม
8. B 6 ข้าวซ้อมมือ ข้าวสาลีไม่ขัดขาว จมูกข้าว ตับ แคนตาลูป กะหล่ำปลี โมลาส นม ไข่ เนื้อ
9. B 12 ตับ เนื้อสัตว์ ไข่ นม เนย
10.DNA / RNA จมูกข้าว รำข้าว ผักโขม หน่อไม้ฝรั่ง เห็ดทุกชนิด ปลา ตับไก่ ข้าวโอต หัวหอม
วิตามินบี ตัวเอกที่สมองและระบบประสาทต้องการ
วิตามินบี และกรดโฟลิคส่วนใหญ่มีความสำคัญต่อการทำงานของระบบประสาทและสมอง ในแต่ละวันคุณควรเลือกอาหารที่ครบด้วยวิตามินบีหลายๆ ชนิดดังนี้
• วิตามินบี 1 (ไทอามีน Thiamine) จำเป็นในการบำรุงสมองและเซลล์ประสาทให้แข็งแรง มีมากในอาหารพวกเมล็ดธัญพืช และอาหารที่ปรุงขึ้นจากเมล็ดข้าว เช่น ขนมปัง ข้าว พาสต้า ธัญพืช รวมทั้งในเนื้อหมูก็มีมากด้วย
• วิตามินบี 5 (กรดแพนโตธีนิค Pantothenic acid) ช่วยสร้างโคเอ็นไซม์ที่ช่วยในการถ่ายทอดสัญญาณประสาทเมื่อถูกกระตุ้น ซึ่งมีอยู่ในเนื้อวัว สัตว์ปีกพวกเป็ดหรือไก่ ปลา ธัญพืชที่เป็นเม็ดๆ พืชผักประเภทที่เป็นฝัก เช่น ถั่ว กระถิน นอกจากนี้ยังมีอยู่ในนมสด ผัก และผลไม้ต่างๆ
• วิตามินบี 6 (ไพริด็อกซิน Pyridoxine) ช่วยในการเปลี่ยนทริปโตฟาน (Tryptophan) ให้เป็นเซโรโตนิน (Serotonin) ซึ่งเป็นสารเคมีในสมองชนิดหนึ่งที่มีความเกี่ยวพันกับอารมณ์ความนึกคิดของคน พบได้ในอาหารประเภทไก่ ปลา เนื้อหมู ตับ ไต (เครื่องในสัตว์) และธัญพืช เมล็ดถั่ว ตลอดจนพืชผักชนิดที่เป็นฝัก เช่น ถั่ว หรือกระถิน เช่นกัน
• วิตามินบี 12 (ไซยาโนโคบาลามีน Cyanocoบีalamin) ช่วยในการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงให้สมบูรณ์ สร้างโปรตีน และบำรุงรักษาเนื้อเยื่อประสาท พบได้ในไข่ เนื้อสัตว์ ปลา สัตว์ปีก นม และผลิตภัณฑ์จากนมต่างๆ
• กรดโฟลิค (Folic acid) จำเป็นต่อระบบการเผาผลาญกรดไขมันโมเลกุลยาว (long-chain fatty acid) ในสมอง พบมากในกล้วย น้ำส้ม ธัญพืชต่างๆ มะนาว สตรอเบอร์รี่ แคนตาลูป ผักใบเขียว ถั่วเหลือง ถั่วลิสง หรือถั่วลันเตา เป็นกรดที่สำคัญมากสำหรับผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ เพราะว่าระดับกรดที่ต่ำเกินไปจะเพิ่มความเสี่ยงต่อ neutral tuบีe defect ในทารกเกิดใหม่
แต่สารอาหารบางอย่าง มีทั้งตัวยา วิตามินและแร่ธาตุครบ เช่น ข้าวซ้อมมือ นอกจากจะมีสารอาหารครบหมู่แล้ว ยังมีทั้ง Folic Acid , Niacin , Zinc , B 1 , B 6 , และ
DNA / RNA และแร่ธาตุอื่นๆเกือบจะครบถ้วน
ถ้าสมองขาดสารอาหารเหล่านี้อย่างเป็นประจำ หรือได้รับไม่เพียงพอ อาจทำให้สมองพิการหมดประสิทธิภาพในการทำงาน และจะมีผลทางพันธุกรรมด้วย จึงขอให้เรา
ดูแลบำรุงสมองของเราด้วยสารอาหารเหล่านี้ด้วยนะครับ เพราะสมองมนุษย์เป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติสร้างให้กับเราทุกคน สมองเป็นศูนย์กลางของการสั่งการทุกอย่าง โดยมีจิตใจ
เป็นตัวควบคุม ทั้งจิต สมองและระบบประสาท จึงต้องมีความสมบูรณ์แข็งแรง เราจึงจะสามารถคิดและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ คราวหน้ามาต่อเรื่อง "อาหารสมองตอนที่ 2 " ครับ.
แหล่งอ้างอิง :
1. https://www.geocities.com/HotSprings/Villa/4528/Chewajit/c_food2.html
2. https://women.msnth2.com/articles/647/47000782.aspx
อาหารบำรุงสมอง(Brain Foods) มีสารอาหารหลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อการทำงานของสมอง
สารอาหารบำรุงสมองที่ได้จากอาหารบำรุงสมองที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมีหลายชนิด แต่สารอาหารบำรุงสมองที่คนส่วนมากจะรู้จักกันดีคือ โอเมก้า-3 (Omega-3) ที่มีอยู่ในปลาทะเลน้ำลึก นอกจากโอเมก้า-3 แล้วยังมีสารอาหารที่มีคุณสมบัติในการบำรุงสมองชนิดอื่นๆ อีกหลายชนิดที่ล้วนมีประโยชน์ต่อการทำงานของสมองไม่น้อยกว่าโอเมก้า-3 สารอาหารเหล่านี้คืออะไรและจะหาได้จากอาหารประเภทใดบ้าง
โคลีน เป็นสารอาหารบำรุงสมองที่ได้จากอาหารบำรุงสมองจำพวก ข้าวกล้อง ข้าวโพด ผักใบเขียวต่างๆ โดยโคลีนจะมีมากในส่วนที่เป็นจมูกข้าวโพด ดังนั้นการนำข้าวโพดมาทำอาหารเพื่อให้ได้สารอาหารโคลีนจึงต้องใช้มีดคมฝานให้ลึกถึงซังข้าวโพด อาการที่ร่างกายขาดโคลีนคือ ปัญหาทางด้านความจำ หลงลืม เศร้าหมอง ขาดสมาธิและจิตใจหดหู่
แมงกานีส เป็นสารอาหารบำรุงสมองอีกชนิดหนึ่งที่เป็นเกลือแร่ช่วยควบคุมดูแลสุขภาพของสมองและระบบประสาท อาหารบำรุงสมองที่มีแมงกานีสมากได้แก่ อาหารทะเล ตับหมู ผักใบเขียวเข้ม นอกจากนี้ผลไม้ที่มีสารอาหารแมงกานีสได้แก่ แอปเปิ้ล มะม่วง เป็นต้น
วิตามินบี เป็นสารอาหารที่มีความจำเป็นในการทำงานของระบบประสาทและสมอง ซึ่งแยกออกได้หลายชนิดดังนี้ วิตามินบี 1 ช่วยสร้างเซลล์ประสาทให้แข็งแรงมีอยู่ในอาหารบำรุงสมองจำพวกเมล็ดธัญพืชหรืออาหารที่ปรุงจากเมล็ดข้าวเช่น ขนมปัง พาสต้า ฯลฯ วิตามินบี 5 ช่วยในการสร้างโคเอ็นไซม์ที่ใช้ถ่ายทอดสัญญาณประสาทมีมากในอาหารบำรุงสมองประเภทเนื้อวัว ไก่ ปลา สัตว์ปีกและเมล็ดพืชที่เป็นฝักเช่น กระถิน ถั่ว ฯลฯ วิตามินบี 6 เป็นสารอาหารที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์และความนึกคิดของคน พบได้ในอาหารจำพวก เครื่องในสัตว์ ปลาและเมล็ดถั่วที่เป็นฝัก วิตามินบี 12 เป็นสารอาหารที่ช่วยสร้างความสมบูรณ์ให้เซลล์เม็ดเลือดแดง บำรุงรักษาเนื้อเยื่อประสาท พบในอาหารจำพวก ไข่ นม ปลา และผลิตภัณฑ์จากนมต่าง ๆ
กรดโฟลิค เป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ พบมากในอาหารจำพวก กล้วย ส้ม มะนาว ผักใบเขียว ถั่วเหลืองและธัญพืชต่างๆ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของสมองกรดโฟลิคเป็นสารอาหารสำคัญต่อระบบการเผาผลาญกรดไขมันโมเลกุลยาวในสมอง
แมกนีเซียม โปแตสเซียมและแคลเซียม ล้วนเป็นสารอาหารที่มีผลต่อการทำงานของระบบประสาท มักจะพบมากในอาหารบำรุงสมองจำพวกผักใบเขียวเข้ม ผลไม้และธัญพืชต่างๆ นอกจากนี้การกินผักและผลไม้จะทำให้ร่างกายได้รับสารต้านอนุมูลอิสระ(Antioxidant) ที่มีประโยชน์ในเรื่องชะลอการเสื่อมของสมองที่อายุมากขึ้นและช่วยป้องกันไม่ให้สมองถูกทำลายจากอนุมูลอิสระ
นอกจากการรู้จักเลือกกินอาหารบำรุงสมองเพื่อให้ได้สารอาหารที่มีความสำคัญต่อร่างกายแล้ว สิ่งที่ต้องทำควบคู่ไปด้วยคือการมีพฤติกรรมการบริโภคที่ดีได้แก่ การไม่งดอาหารเช้า รับประทานอาหารให้ตรงเวลา หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและฝึกการใช้สมอง(ความคิด)ด้วยกิจกรรมฝึกสมอง สิ่งเหล่านี้จะช่วยบำรุงรักษาและชะลอการเสื่อมของสมองอย่างได้ผลดีกว่าการใช้อาหารบำรุงสมองเพียงอย่างเดียว.
1. ปลาทะเลน้ำลึก อย่างปลาแซลมอน : รู้หรือเปล่า? สมองมีไขมันเป็นส่วนประกอบมากกว่า 60%เชียวนะคะ ซึ่งมันหมายความว่าเราต้องการไขมันชั้นดีอย่างโอเมก้า 3 นั่นเองค่ะ
2. แครนเบอร์รี่ : จากการศึกษาพบว่าสารในแครนเบอร์รี่ช่วยต่อต้านอาการป่วยเรื้อรังของสมอง อย่างอาการความจำเสื่อม
3. ขมิ้น : เครื่องเทศสำคัญที่เอาไว้ใส่ในแกงกะหรี่แสนอร่อยนี่ล่ะค่ะ สีเหลืองของมันช่วยต่อต้านการเกิดอนุมูลอิสระ(ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ ความจำเสื่อมได้)
4. ข้าวไม่ขัดสี : ข้าวกล้องดีต่อสุขภาพเสมอ นอกจากข้าวกล้องจะเป็นแหล่งพลังงานชั้นดีแล้ว ยังให้โปรตีนที่ผลิตกรดอะมิโนที่เป็นตัวส่งสารอาหารไปยังสมองด้วย
5. สตรอเบอร์รี่ : จากการทดลองให้สตรอเบอร์รี่กับหนูที่อายุมาก พบว่ามันช่วยพัฒนาทั้งประสิทธิภาพในการเรียนรู้และประสิทธิภาพของกล้ามเนื้อสมอง
6. ผักโขม : ช่วยชะลอปัญหาในเรื่องประสิทธิภาพของสมองส่วนกลาง และการรับรู้ที่เสื่อมลงไปตามวัย สลัดผักขมสักชามให้โฟเลทสูงด้วยนะคะ
แหล่งที่มา : https://variety.teenee.com/foodforbrain/11438.html
‘เฮ้อ! ช่วงนี้เป็นอะไรไปนะ หัวตื้อๆ คิดอะไรไม่ค่อยออกเลย แถมยังลืมนั่นลืมนี่เป็นประจำเสียด้วยสิ’ ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมี ความรู้สึกแบบนี้เกิดขึ้น ถึงเวลาแล้วค่ะ ที่จะต้องหันมาดูแลสมองให้มากกว่านี้เพราะผู้หญิงทำงานอย่างเราจำเป็นต้องใช้สมองคิดนั่นคิดนี่อยู่ตลอดเวลา หากยังทำเมินปล่อยปละละเลยไม่สนใจ
ระวัง! คราวหน้าคุณอาจจะลืมหน้าแฟนไปเลยก็ได้นะคะ วันนี้ขอแนะนำอาหารที่มีประโยชน์ในการบำรุงสมองมาให้
1.ธัญพืช
สาวขี้ลืมอย่างนี้ ต้องหันมากินอาหารที่มีธัญพืชสูงแล้วค่ะ เช่น ซีเรียลธัญพืช รำข้าว หรือข้าว-ซ้อมมือเพราะจากผลการศึกษาพบ ว่า ผู้หญิงที่ได้รับกรดโฟลิกมากๆ วิตามินบี 12 และวิตามินบี 6 จะมีความจำดีขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับผู้หญิงที่ไม่ได้รับสารอาหารเหล่านี้เลย
2.บลูเบอร์รี่
จากการวิจัยของ Tufts University สหรัฐอเมริกา ได้แนะนำว่าสารสกัดจากบลูเบอร์รี่สามารถช่วยป้องกันอาการความจำสั้นได้ค่ะ
3.ไขมันจากปลา
กรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกายอย่างกรดโอเมก้า 3 ที่พบในปลาที่มีไขมัน หรือไขมันจากวอลนัทและเมล็ดจากต้นแฟล็กซ์ จะมี DHA (Decosapentaenoic Acid) สูง ซึ่งเป็นกรดที่สำคัญต่อเซลล์สมองของเรา เพราะถ้าหากระดับของ DHA ในร่างกายต่ำ จะเสี่ยงต่อการเป็นโรคอัลไซเมอร์และความจำเสื่อมได้ นอกจากนี้ปลาก็ยังมีไอโอดีน ช่วยให้ความจำดีขึ้นด้วยค่ะ
4.มะเขือเทศ
มีหลักฐานยืนยันว่า ไลโคพีนซึ่งเป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ที่พบในมะเขือเทศ สามารถช่วยป้องกันเซลล์จากการถูกทำลายของอนุมูลอิสระ ที่พบในอาการของโรควิกลจริตและโรคอัลไซเมอร์
5.ซีเรียล
คนที่เป็นโรคอัลไซเมอร์จะมี Homocysteine อยู่ในปริมาณที่สูง กรดโฟลิกและวิตามินบี 12 จะสามารถช่วยขัดขวางการสะสมของ Homocysteine ตามส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ และซีเรียลเองก็เป็นแหล่งที่ดีของวิตามินบี 12 แถมยังมีคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนอีกด้วย ช่วยให้พลังงานนานและทำให้ความจำ Alert ตลอดทั้งวัน
6.Black Currant
เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าวิตามินซีจะช่วยเสริมสร้างความจำของเราให้ว่องไวขึ้น และแหล่งที่มีวิตามินซีอยู่เยอะก็คือ ต้น Black Currant นี่แหละค่ะ
7.เมล็ดฟักทอง
สังกะสีมีความสำคัญในการช่วยเพิ่มความจำและทักษะในการคิด ดังนั้น หากคุณกินเมล็ดฟักทองวันละ 1 กำมือ จะทำให้ได้รับสังกะสีเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
8.บร็อกโคลี
เป็นแหล่งที่ดีของวิตามินเค ช่วยเพิ่มสมรรถภาพในการเรียนรู้และช่วยเพิ่มความสามารถในการจำ
9.ถั่ว
จากผลการวิจัยที่ลงใน American Journal of Epidemiology ได้แนะนำเอาไว้ว่า วิตามินอีช่วยในการป้องกันความจำเสื่อม และถั่วเองก็เป็นแหล่งที่ดีของวิตามินอี นอกจากนี้วิตามินอียังพบได้ในผักใบเขียว เมล็ดพืช ไข่ ข้าวซ้อมมือ และธัญพืชค่ะ
แหล่งที่มาจาก womanplus
ช่วงใกล้สอบ เด็กดีหลายๆ คนคงจะตั้งใจอ่านหนังสือกันอย่างเต็มที่ บางคนอ่านเช้า-เย็น บางคนอ่านก่อนอาหาร-หลังอาหาร (เป็นกินยาเชียว) หรือบางคนอ่านตามที่กล่าวมาทั้งหมด ยิ่งถ้าบางคนสอบวันพรุ่งนี้ อาจมีอ่านโต้รุ่งกันเลย ทีนี้สมองของเราบางครั้งอาจจะล้าเกินไป ทำให้จดจำเนื้อหาไม่ได้ แย่แล้วสิ จะทำอย่างไรดี วันนี้พี่แนนเลยมีเมนูง่ายๆ แต่เจ๋วจริงมาฝากให้น้องลองเอาไปใช้ดูนะคะ
จะสอบแล้ว กินน้ำซักแก้วก็แจ่ม
ก่อนสอบมาบำรุงสมองด้วย 2 เมนูนี้กันดีกว่า
ข้อมูลการกินอาหารบำรุงสมองนี้ ได้มาจากศึกษา 2 กลุ่มตัวอย่างของ อาจารย์แคโรลีน เอดมอนส์ และคณะนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยอีสท์ ลอนดอน อังกฤษ ที่ทำการศึกษากลุ่มตัวอย่างเด็กๆ อายุ 7-9 ปี ประมาณ 60 คน โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งได้ดื่มน้ำ 250 มิลลิลิตรก่อนสอบ 20 นาที และอีกกลุ่มไม่ได้ดื่มน้ำเพิ่ม หลังจากนั้นให้เด็กๆ หาจุดแตกต่างระหว่างการ์ตูน 2 ตัว ผลการศึกษาพบว่า เด็กๆ ที่ได้ดื่มน้ำก่อนสอบทำคะแนนได้ดีกว่ากลุ่มที่ไม่ได้ดื่มน้ำ 34% เมื่อให้ทำแบบทดสอบที่ยากขึ้น กลุ่มที่ดื่มน้ำทำคะแนนได้ดีกว่า 23%
ในน้ำมีปลา จับมากินเสริมไอคิวซักตัวเถอะ
ก่อนสอบมาบำรุงสมองด้วย 2 เมนูนี้กันดีกว่า
มีการศึกษาอีกรายงานหนึ่งที่ทำโดยคณะวิจัยจากมหาวิทยาลัยโกเตนบวก ประเทศสวีเดน ที่ทำการศึกษาในเด็กผู้ชายวัยรุ่นอายุ 15 ปี โดยมอบปลาให้อาสาสมัครอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง พบว่า เด็กๆ ที่กินปลามากกว่า สามารถทำแบบทดสอบไอคิว (IQ) ได้คะแนนดีกว่า และจากการศึกษายังพบอีกว่า การกินปลาช่วยให้สมองเด็กทารกทำงานได้ดีขึ้น ลดความเสี่ยงสมรรถภาพสมองเสื่อมลงในคนวัยกลางคน นอกจากนั้นเด็กๆ ที่คุณแม่กินปลาในระหว่างตั้งครรภ์ (ท้อง) ก็มีพัฒนาการดีกว่า อีกด้วย
เคล็ดลับง่ายๆที่พี่แนนนำมาบอกในครั้งนี้ น้องๆ ชาวเด็กดีลองนำไปใช้ดูนะคะ แล้วมาเล่าให้พี่แนนฟังด้วยว่า ได้ผลเป็นอย่างไรกันบ้าง หรือน้องคนไหนมีเคล็ดลับเตรียมตัวก่อนสอบแบบอื่นๆ ก็มาช่วยกันเล่าแบ่งให้เพื่อนๆทราบกันก็ดีนะคะ ^^
ขอขอบพระคุณข้อมูลจาก นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ www.oknation.net/blog/health2you