บิ๊กอายอันตรายไหม โทษของบิ๊กอาย เรามีคำตอบ
"บิ๊กอายส์" เทรนด์ใหม่วัยรุ่น ใส่แล้วเหมือนดาราญี่ปุ่น"บิ๊กอายส์" เทรนด์ใหม่วัยรุ่น ใส่แล้วเหมือนดาราญี่ปุ่น
เรื่องราวคอนแทคเลนส์ตาโต หรือบิ๊กอายส์ ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากผู้ปกครองท่านหนึ่ง ซึ่งได้สังเกตเห็นพฤติกรรมของลูกสาววัย 17 ปี ที่ชอบใส่คอนแทคเลนส์แฟชั่นใหม่ ที่นอกจากจะเป็นคอนแทคเลนส์สีแฟชั่น ยังมีส่วนช่วยให้ดวงตากลมโตโดยไม่ต้องทำศัลยกรรม ซึ่งเป็นเทรนด์แฟชั่นใหม่ตามแบบเทรนด์ดาราเกาหลีและญี่ปุ่น
ผู้ปกครองรายเดิมกล่าวเพิ่มเติมว่า ได้เริ่มสังเกตพฤติกรรมของบุตรสาวมาระยะหนึ่ง หลังจากสังเกตเห็นดวงตาของลูกสาวที่ดูโตขึ้นมา เมื่อไต่ถามจึงทราบจากบุตรสาวว่า คอนแทคเลนส์ตาโตเป็นแฟชั่นตามสมัยนิยมของกลุ่มวัยรุ่นไทยโดยเฉพาะผู้หญิงกำลังเป็นที่นิยมซื้อหามาสวมใส่ โดยมีราคา 1 คู่ ประมาณเงินหลักพันบาทส่วนแหล่งซื้อหานอกจากคอนแทคเลนส์ตาโตจะหาซื้อตามร้านเฉพาะ ความนิยมยังส่งผลให้มีการขายผ่านทางเว็บไซต์เลนส์ทูยู ดอทคอม, ร้านค้าออนไลน์ทั่วไป รวมถึงมีการจำหน่ายตามแผงเช่าแหล่งแฟชั่นย่านสยามสแควร์, มาบุญครอง และลาดพร้าว ซึ่งจะเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่วัยรุ่น
อย่างไรก็ตาม จากกระแสความนิยมคอนแทคเลนส์ตาโตสูงขึ้น เวลานี้ยังมีการจำหน่ายผ่านทางเว็บไซต์ ซึ่งมีการระบุว่าคอนแทคเลนส์ตาโต หรือบิ๊กอายส์ ที่กำลังได้รับความนิยมของกลุ่มวัยรุ่นไทยนั้นมีหลายยี่ห้อ ราคาจะขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของคอนแทคเลนส์ เช่น ยี่ห้อ IGEL จากประเทศสิงคโปร์ จะเป็นคอนแทคเลนส์เปลี่ยนสีตา และทำให้ดวงตาดูโตขึ้น หรือ Magic Black Circle เลนส์จะสีดำล้วนไม่มีลวดลาย ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้มั่นใจในดวงตาที่โตขึ้นและดำอย่างเป็นธรรมชาติที่สุด โดยมีระยะเวลาการใช้ 1 คู่ นาน 2 เดือน ราคาประมาณ 800-1,000 บาท ส่วนยี่ห้อ ideal color ของประเทศเกาหลี จะมี 2 เฉดสี คือ น้ำตาลและดำ แต่จะมีระยะเวลาในการใช้นาน 1 ปี ราคาประมาณ 2,000-3,000 บาท
ขณะที่บางยี่ห้อจะเป็นคอนแทคเลนส์เทรนส์ใหม่ นอกจากจะทำให้ตาโต ยังเปลี่ยนสีตาได้ถึง 6 สี ทำให้ดวงตาดูโตขึ้นโดยไม่ต้องทำศัลยกรรมและกำลังได้รับความนิยมในกลุ่มวัยรุ่นประเทศญี่ปุ่นและเกาหลี ซึ่ง 1 คู่ใช้ได้ 2 เดือน ราคาประมาณ 800-1,500 บาท แต่จะมีการระบุหมายเหตุไว้ว่า การใช้คอนแทคเลนส์ควรได้รับคำแนะนำและปฏิบัติตามคำแนะนำของจักษุแพทย์
ด้าน นพ.นรังสันต์ พีรกิจ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่าทาง อย.ได้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว และห่วงใยผู้บริโภค หากใช้ไม่ถูกต้องหรือไม่เหมาะสมอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้ และอาจรุนแรงถึงขั้นตาบอดได้ ทั้งนี้ ในการใส่คอนแทคเลนส์นั้นจะต้องได้รับการตรวจตาโดยจักษุแพทย์ หรือผู้ประกอบโรคศิลปะ โดยอาศัยทัศนมาตรศาสตร์ และต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หรือคำแนะนำบนฉลากอย่างเคร่งครัด
ดังนั้น อย.ได้มีมาตรการกำกับดูแลคอนแทคเลนส์ทุกประเภทให้เข้มงวดมากขึ้น โดยจะจัดทำร่างประกาศกำหนดให้คอนแทคเลนส์ทุกประเภทเป็นเครื่องมือแพทย์ที่ผู้ผลิต ผู้นำเข้า จะต้องแจ้งรายละเอียดต่อทาง อย.ก่อนผลิตหรือนำเข้า อีกทั้งได้กำหนดให้ฉลากผลิตภัณฑ์จะต้องมีคำเตือน ข้อห้ามใช้ และข้อควรระวังบนฉลากอย่างชัดเจน
นอกจากนี้ อย.ขอเตือนประชาชนให้ระมัดระวังการใช้คอนแทคเลนส์ทุกชนิด ไม่ควรซื้อมาใช้เอง และซื้อจากร้านแผงลอย รวมถึงต้องปฏิบัติตามคำแนะนำบนฉลากอย่างเคร่งครัด และหากมีภาวะผิดปกติ เช่น ต้อเนื้อ, ต้อลม, ตาแดง, กระจกตาไวต่อความรู้สึกลดลง, ตาแห้ง หรือกะพริบตาไม่เต็มที่ ก็ไม่ควรใช้คอนแทคเลนส์ และการใช้คอนแทคเลนส์ทุกครั้งต้องล้างมือให้สะอาดก่อนสัมผัสเลนส์ ห้ามใส่นานเกินระยะเวลาการใช้งานที่กำหนด ห้ามใช้ร่วมกับบุคคลอื่น ห้ามใส่ขณะว่ายน้ำ เพราะอาจทำให้ติดเชื้อที่ตา และห้ามใส่ในเวลานอน ถึงแม้จะเป็นชนิดใส่นอนได้ก็ตาม
และต้องถอดทำความสะอาดทุกวัน ซึ่งหากเกิดอาการผิดปกติ เช่น เจ็บหรือปวดตาเป็นอย่างมากร่วมกับอาการแพ้แสง, ตามัว, น้ำตาไหลมาก และตาแดง ให้หยุดใช้คอนแทคเลนส์ทันที ควรรีบพบแพทย์หรือจักษุแพทย์โดยเร็ว
ข้อมูลจาก
ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต
อ่านต่อ :https://www.dek-d.com/board/view.php?id=1181053#ixzz13Qpv7XBO