ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเริ่มอ่านคำวินิจฉัยคดียุบพรรคประชาธิปัตย์แล้ว สื่อเกาะติดเพียบ ล่าสุด ศาลวินิจฉัยยกคำร้องเหตุคดียุบพรรค 4 ต่อ 2 เหตุ กกต.ยื่นฟ้องเกิน 15 วันตามกฎหมายกำหนด
วันนี้ (29 พฤศจิกายน) เวลา 09.00 น. จะมีการแถลงปิดคดีด้วยวาจาของ นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคและหัวหน้าทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ ในคดีที่นายทะเบียนพรรคการเมืองยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อขอให้มีคำวินิจฉัยยุบพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากใช้เงินกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง 29 ล้านบาทโดยผิดวัตถุประสงค์ และรายงานบัญชีค่าใช้จ่ายเงินสนับสนุนพรรคการเมืองอันเป็นเท็จ
ทั้งนี้ เมื่อเข้าสู่กระบวนการแถลงปิดคดีด้วยวาจา องค์คณะฯ ที่จะมีนายชัช ชลวร ประธานศาลรัฐธรรมนูญเป็นประธาน จะออกนั่งบัลลังก์ เพื่อดำเนินการตามข้อกำหนดศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาและการทำคำวินิจฉัย พ.ศ.2550 ข้อ 43
โดยจะให้ฝ่าย กกต. ที่ส่งนายกิตตินันท์ ธัชประมุข อัยการพิเศษ สำนักคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด เป็นผู้แถลงก่อน จากนั้นจะให้ผู้ถูกร้องคือพรรคประชาธิปัตย์ ที่ส่งนายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นผู้แถลงในลำดับต่อไป ในเวลาคนละไม่เกิน 30 นาที
อย่างไรก็ตาม ระหว่างการแถลงปิดคดี องค์คณะฯ สามารถซักถามข้อเท็จจริงเพิ่มเติมจากผู้แถลงในระหว่างการแถลง หรือภายหลังการแถลงก็ได้ เมื่อจบกระบวนการนี้ก็ต้องลุ้นว่า องค์คณะฯ จะนัดอ่านคำวินิจฉัยในวันเดียวกันเลยหรือไม่
ขณะที่บรรยากาศหน้าศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่เวลาประมาณ 06.30 น. ตำรวจตรึงกำลังแน่นหนา พร้อมกันนี้ยังมีเจ้าหน้าที่เตรียมปราบจลาจล และเจ้าหน้าที่หญิงอีกอย่างละ 1 กองร้อย และมีเฮลิคอปเตอร์เผื่อกรณีฉุกเฉินเอาไว้ด้วย เช่นเดียวกับที่พรรคประชาธิปัตย์ มีเจ้าหน้าที่ตรึงกำลังแน่นหนาเช่นกัน
ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมทีมกฎหมายของพรรค เดินทางมาถึงศาลรัฐธรรมนูญอย่างพร้อมเพรียงกัน อาทิ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค และหัวหน้าทีมกฎหมาย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคและทีมกฎหมาย เพื่อฟังการแถลงปิดคดีด้วยวาจา โดยนายกรัฐมนตรีมีสีหน้ายิ้มแย้ม เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า มีความวิตกกังวลกับคดีดังกล่าวหรือไม่
ขณะที่นายชวน กล่าวว่าคำแถลงปิดคดีด้วยลายลักษณ์อักษร กว่า 172 หน้านั้น ต้องมีความชัดเจนอยู่แล้ว ซึ่งในวันนี้ เป็นการปิดแถลงคดีด้วยวาจา ทุกอย่างขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล และตนก็ขอขอบคุณประชาชนที่ให้กำลังใจด้วย
ส่วนคำแถลงปิดคดีของพรรคประชาธิปัตย์วันนี้ มีความสมบูรณ์ ครบถ้วน มั่นใจพรรคประชาธิปัตย์ ไม่มีความผิด อนาคตหากพรรคไม่ถูกยุบ จะมีคนไม่เห็นด้วยนั้น ก็เป็นเรื่องธรรมดา จะห้ามไม่ได้ โดยจะมีการพิพากษาในวันนี้เลยหรือไม่นั้น ตนไม่ขอแสดงความเห็น และมองว่า ต้นเหตุของเรื่องนี้ มีจุดเริ่มจากการเมือง
ด้าน นายบัญญัติ กล่าวว่า ตนมีความมั่นใจกับข้อเท็จจริงทุกอย่างที่ครบถ้วนแล้ว และหากศาลจะนัดอ่านคำวินิจฉัยคดีในช่วงบ่ายของวันนี้ ตนก็มีความพร้อม เพราะอยากเห็นคดียุติโดยเร็วที่สุด ขณะเดียวกันก็มั่นใจว่า ศาลก็อยากให้คดีจบเร็ว ขณะนี้มีข่าวปล่อยจำนวนมาก ที่ต้องการให้พรรคประชาธิปัตย์ถูกยุบ รวมทั้งสิ่งที่น่ากังวล คือ ความพยายามกดดันศาลมากที่สุด อย่างไรก็ตาม นายบัญญัติ เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระหว่างที่มีการใช้เงินจำนวนดังกล่าว ส่งผลให้มีความเกี่ยวข้องโดยตรง
ด้าน นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า ที่ผ่านมา ทีมกฎหมายพรรคทำงานหนักมาโดยตลอด และเชื่อว่าศาลจะมั่นคงในจุดยืนของตนเอง
ขณะที่ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายเกียรติอุดม เมนะสวัสดิ์ ในฐานะทีมกฎหมายของพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางมายังสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อติดตามการแถลงปิดคดีด้วยวาจา ในคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ โดยนายพร้อมพงศ์ ระบุว่า เป็นการเดินทางมา เพื่อติดตามคดียุบพรรคเท่านั้น ไม่มีนัยทางการเมือง
ทั้งนี้คาดว่า ภายหลังการแถลงปิดคดีเสร็จในช่วงเช้า ก็น่าจะมีการอ่านคำพิพากษาของตุลาการในช่วงบ่าย เช่นเดียวกับการพิจารณาคดีของพรรคการเมืองอื่น ๆ พร้อมกันนี้ ยังรู้สึกเป็นห่วง การที่สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์หลายคน ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับมติขององค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่ระบุว่า จะเป็น 3:3 หรือ 4:2 ซึ่งเกรงว่า จะทำให้ประชาชนรู้สึกสับสน
อย่างไรก็ตาม อยากให้ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาคดีอย่างตรงไปตรงมาตามพยานหลักฐาน โดยผลออกมาเป็นอย่างไร ตนก็พร้อมที่จะยอมรับ แต่เท่าที่ดูความมั่นใจจากแกนนำพรรคประชาธิปัตย์หลายคน เชื่อว่า จะไม่มีการยุบพรรคประชาธิปัตย์เกิดขึ้น
ทั้งนี้ นายกิตตินันท์ ธัชประมุข อัยการคดีพิเศษ ฝ่ายสำนักคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด ผู้แถลงปิดคดีฝ่ายนายทะเบียนพรรคการเมือง ได้แถลงใน 5 ประเด็น คือ การกระทำของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ถูกต้องตามข้อบังคับของ พ.ร.บ.ประกอบพรรคการเมือง พ.ศ.2541 หรือ พ.ร.บ.พรรคการเมือง พ.ศ.2550 ซึ่งการใช้จ่ายเงินจากกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง ไม่เป็นไปตามโครงการที่ได้รับอนุมัติ และการจัดทำรายงานการใช้จ่ายเงินสนับสนุนของพรรคการเมืองไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง เนื่องจาก จำนวนการจัดทำป้ายโฆษณาประชาสัมพันธ์ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่แจ้งต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไม่ตรงตามรายงาน จนต้องจัดทำเอกสารปลอมส่งต่อ กกต. ไม่ว่าจะเป็น วัน เดือน ปี ในการรับป้าย และการออกเอกสารการจ่ายเงินให้กับบริษัทที่รับจัดทำป้าย ไม่ตรงตามใบเสร็จรับเงิน ที่ลงวันที่เบิกจ่ายเป็นต้น
อย่างไรก็ตาม นายทะเบียนพรรคการเมือง ขอให้ศาลวินัจฉัยให้มีคำสั่งยุบพรรคประชาธิปัตย์ ตาม ม.62-65 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญปี 2540 และตาม ม.82-93 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญปี 50 ที่มีคำสั่งห้ามมิให้จัดตั้งพรรคการเมือง เป็นเวลา 5 ปี และมีคำสั่งให้หัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรค จะต้องถูกตัดสิทธิ์ หรือถูกเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง เป็นเวลา 5 ปี
ขณะที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นกล่าวแถลงปิดคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ต่อศาลรัฐธรรมนูญ หลังตัวแทนจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ขึ้นกล่าวคำแถลงปิดคดีไปก่อน โดย นายชวน กล่าวว่า คดียุบพรรคประชาธิปัตย์ ที่ปรากฎ ส่งผลกระทบถึงสถาบันหลักของประเทศมาต่อเนื่อง ตลอดระยะเวลาการดำเนินคดี โดยเชื่อว่า เรื่องดังกล่าวนั้นมีข้อผิดปกติหลายประเด็น ตั้งแต่การเริ่มต้นดำเนินคดีที่ไม่ปกติจากเจ้าหน้าที่ และเชื่อว่าฝ่ายผู้ร้อง คือ กกต. นั้น ถูกกดดันอย่างหนักจากกลุ่มคนเสื้อแดง ที่มีหลายรูปแบบทั้งการขู่ห้ามเดินถนน การเฝ้าติดตาม การแจกเบอร์โทรศัพท์ ขณะที่ส่วนตัว เชื่อว่า ไม่มีใครจะทำหน้าที่ผู้ร้องได้ดีเท่าคณะกรรมการการเลือกตั้งแล้ว แต่การดำเนินการที่ผลออกมาแบบนี้ เชื่อว่าเป็นเพราะการถูกข่มขู่ต่าง ๆ นานา
นอกจากนี้ นายชวน ยังกล่าวอีกด้วยว่า มีการพยายามฝ่าไฟแดง โดยจงใจกล่าวหายั่วยุ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้มีการฟ้องร้องดำเนินคดี จนในที่สุด ตุลาการ 3 ท่าน ต้องถอนตัวจากการร่วมพิจารณาคดีดังกล่าว
โดยภายหลังจากที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ และหัวหน้าทีมกฎหมาย แถลงปิดคดียุบพรรคด้วยวาจาไปเรียบร้อยแล้วนั้น ทางคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่ออกนั่งบัลลังก์ ก็ได้ขอเวลาเพื่อพิจารณาว่า จะดำเนินกระบวนการพิจารณาอย่างไรต่อไป โดยล่าสุด ศาลนัดอ่านคำวินิจฉัยคดี ในเวลา 14.00 น. ซึ่งขณะนี้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้เริ่มอ่านคำวินิจฉัยแล้ว
และล่าสุดตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้ตัดสิน ยกคำร้องคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ ด้วยมติ 4 ต่อ 2 เนื่องจาก ประธาน กกต.ไม่ได้ทำความเห็นในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง และยื่นคำร้องไม่ทันกำหนด 15 วัน นับตั้งแต่ความปรากฎต่อนายทะเบียน ส่วนกรณีข้อเท็จจริงนั้น เมื่อยื่นคำร้องไม่ถูกต้อง ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องวินิจฉัยในกรณีอื่นอีก
ทั้งนี้ สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ได้ชี้แจงว่า ไม่ได้แจกเอกสารคำวินิจฉัยคดีเหมือนที่ผ่านมา จึงไม่ได้มีการเปิดเผยว่า ตุลาการคนใดเป็นเสียงข้างมาก หรือเสียงข้างน้อย ดังที่สื่อหลายสำนักรายงาน จนทำให้เกิดความเข้าใจผิด