ท่องภูเขากระหล่ำปี ตะลุยภูทับเบิก เปิดตัวยอดเพชรบูรณ์ ทริปแนะนำครบวงจรเพชรบูรณ์ นอนภูแก้วรีสอร์ท เดินทางด้วยรถเช่า Expert Car Rental
ท่องภูเขากระหล่ำปี ตะลุยภูทับเบิก เปิดตัวยอดเพชรบูรณ์ ทริปแนะนำครบวงจรเพชรบูรณ์ นอนภูแก้วรีสอร์ท เดินทางด้วยรถเช่า Expert Car Rental
นายสบาย ... เรื่อง / ภาพ
หลายคนติดภาพของเขาค้อเมื่อพูดถึงเพชรบูรณ์ แต่เพชรบูรณ์วันนี้ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่เกิดขึ้น ด้วยจุดเด่นที่เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของเพรชบูรณ์ ทำให้นักท่องเที่ยวทุกคนที่เคยไปที่นี่ ถึงกับหลงใหลในความงดงาม และจะต้องหาเวลา เพื่อกับมาสัมผัสอีกครั้งอย่างแน่นอน ภูทับเบิก ตั้งอยู่ที่ บ้านทับเบิก ต.วังตาล ห่างจากอ.หล่มเก่า 40 กม. และห่างจากตัวจังหวัดเพชรบูรณ์ประมาณ 97 กม. มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,768 เมตร และเป็นจุดที่สูงที่สุดของเพชรบูรณ์ ชาวเพชรบูรณ์เรียกว่า "ภูทับเบิก" ภูทับเบิก มีสภาพภูมิประเทศที่สวยงามด้วยธรรมชาติแบบทะเลภูเขา ป่าไม้ ต้นไม้เมืองหนาวและน้ำตก มีอากาศบริสุทธิ์ สภาพภูมิอากาศเย็นสบายตลอดปี เนื่องจากร่องลมเย็นจากเทือกเขาหิมาลัยและอยู่บนที่สูง จึงสามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้กว้างไกล โดยช่วงเข้าจะมองเห็นกลุ่มเมฆ และทะเลหมอกตัดกับยอดเทือกเขาเพชรบูรณ์ นอกจากนี้ภูทับเบิกยังเป็นสถานที่ที่สำคัญของจังหวัดเพชรบูรณ์ คือ เป็นจุดรองรับน้ำฟ้ากลางหาว (เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2542) เพื่อนำไปรวมเป็นน้ำเพชรน้อมเกล้าถวายเป็นน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ในวันที่ 5 ธันวาคม 2542 และยังเป็นเส้นทางเชื่อมโยงสู่แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ คือ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า (ระยะทางประมาณ 35 กม.) อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ปัจจุบันภูทับเบิกเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของชนกลุ่มน้อยเป็นชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง ซึ่งได้อพยพมาอาศัยอยู่ที่บ้านทับเบิก หมู่ที่ 14 และหมู่ที่ 16 ต.วังตาล อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ โดยอยู่ในความดูแลของศูนย์พัฒนาสงเคราะห์ชาวเขาจังหวัดเพชรบูรณ์ จึงทำให้ภูทับเบิกมีสีสันด้วยวิถีชาวไทยภูเขา ซึ่งประกอบด้วยอาชีพทำการเกษตรแบบขั้นบันไดตามเชิงเขา จากสภาพดังกล่าว จึงทำให้ภูทับเบิกเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ และดึงดูดใจนักท่องเที่ยวที่นิยมสัมผัสแก่นแท้วิถีชีวิต วัฒนธรรมชุมชน และแหล่งธรรมชาติที่บริสุทธิ์ ซึ่งเป็นรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่กำลังมีกระแสความนิยมอยู่ทั่วไป ภายใต้คำกล่าวที่ว่า "นอนทับเบิก สัมผัสความหนาว ดูดาวบนดิน" เตรียมตัวเดินทางกับ Expert Car Rental เมื่อพูดถึง รถเช่าหลายๆคน ติดภาพว่าต้องแพง ด้วยทริปแนะนำนี้ นายสบาย ขอแนะนำรถเช่าสำหรับนักท่องเที่ยว ที่ไม่ต้องการนำรถของตัวเองไปท่องเที่ยว อาจจะเนื่องมาจาก รถสภาพไม่พร้อม หรือรถไม่เหมาะกับเดินทางไกล ขึ้นเขา วันนี้ รถเช่าน้องใหม่มาแรงอย่าง Expert Car Rental มีพร้อมให้บริการนักท่องเที่ยวแล้ว มีรถหลายๆประเภทให้เลือกตามความเหมาะสมกับ สถานที่ที่ต้องการไป สำหรับภูทับเบิกนี้ รถเก๋งขึ้นได้สบายๆครับ เราจึงใช้รถเก๋งในการเดินทาง ก่อนสู่เส้นทางสู่ภูทับเบิก หากเดินทางจากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทาง จากกรุงเทพฯ ( ห้างฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต ) ใช้ถนนพหลโยธิน ( ทางหลวงหมายเลข 1 ) มุ่งหน้าสู่จังหวัดสระบุรี ประมาณ 75 กิโลเมตร จะถึงตัวเมืองสระบุรี จากนั้นขับตรงไปมุ่งหน้าสู่จังหวัดลพบุรี ประมาณ 16 กิโลเมตร จากนั้นเลี้ยวขวาไปทางจังหวัดเพชรบูรณ์ ( ทางหลวงหมายเลข 21 ) เมื่อเลี้ยวขวาแล้วขับตรงไปมุ่งหน้าอำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ ประมาณ 258 กิโลเมตร จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าถนนสาย 2278 ขับตรงไปประมาณ 10.4 กิโลเมตร จะพบสี่แยก ( ถ้าเลี้ยวซ้ายจะไปพิษณุโลก ถ้าเลี้ยวขวาจะไปอำเภอหล่มสัก ) ในคืนแรกที่เราไปถึง เราใช้เส้นไปทาง พิษณุโลก ไปถึงแยกแค้มป์สน จะมีรีสอร์ท ที่พัก หลายราย แล้วแต่ว่าจะชอบ โรงแรมสบายๆ รีสอร์ท หรือกางเต้นท์ สำหรับช่วงท่องเที่ยวแน่นอน 100% ต้องจองไปก่อนเท่านั้นครับ ขอแนะนำที่พักสำหรับทริปตะลุยภูทับเบิก ในรูปแบบของนายสบาย "ภูแก้วรีสอร์ท" อยู่เลยจากแยกแค้มป์สน ไม่กี่กิโลเมตร ทางขวามือ ด้วยบ้านที่ออกแบบมาอย่างดี สำหรับการพักผ่อน รีสอร์ทแต่ละหลัง มีห้องครัว ห้องนั่งเล่น และที่ผมชอบมากที่สุด คือห้องใต้หลังคา ที่เป็นส่วนตัว และทางขึ้นบันได จะแปลกๆ ต้องลองไปดูเองครับ รีสอร์ทกลางหุบเขา แบบธรรมชาติ หากใครได้ไปเที่ยว น้อยคนนัก ที่จะนอนตื่นสายๆ ส่วนใหญ่ก็จะตื่นแต่เช้า มาดูหมอกยามเช้า อากาศเย็นๆ ตอนที่ผมไปนั้น อุณหภูมิอยู่ที่ 15 องศาเท่านั้น แหมช่างน่าไปวิ่งจ๊อกกิ้งยามเช้าจริงๆ เล้ย มาเข้าเรื่องกันต่อ "ภูแก้วรีสอร์ท" นั้น ผมว่าเหมาะมากที่จะเป็นจุดตั้งต้น เพราะอยู่กึ่งกลางสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เขาค้อ ทะเลหมอกเข้าค้อ ภูทับเบิก หรือแม้แต่ จะไปจิบกาแฟสด ของจ่าทวี ที่อยู่ในเส้นทาง ที่จะขับรถไปพิษณุโลก ก็เหมาะสมด้วยประการทั้งปวงครับ เริ่มเดินทางสู่ภูทับเบิก จากภูแก้วรีสอร์ท หลังจากทานอาหารเช้า ที่ภูแก้วรีสอร์ทจัดให้แล้ว เราออกเดินทางประมาณ 08.00 น. ซึ่ง ผมเองใส่หมวกไหมพรมอุ่นๆ กันหนาวด้วย เนื่องจากอากาศหนาว และเราเปิดกระจกรถ | |
ตลอดเส้นทางไปภูทับเบิกครับ ออกเดินทางเราใช้เส้นทางไปทาง พิษณุโลก อากาศดีมากๆ ขับไปเรื่อยๆ เลยทางเข้าน้ำตกแก่งโสภา ไม่กี่ร้อยเมตร จะมีแยก ที่เลี้ยวขวาไป ภูหินล่องกล้า ถ้าตรงไปก็พิษณุโลก ให้เลี้ยวขวา และขับตามป้ายบอกทางไปภูหินร่องกล้าไปเรื่อยๆ เพราะจะต้องผ่าน ภูหินลองกล้าก่อน เมื่อไปถึงภูหิน จะแวะเที่ยวหรือขับไปใช้เส้นหล่มเก่าไปทับเบิกก็ได้ แต่นายสบายขอแนะนำแวะชื้อกาแฟเย็นสักแก้ว ที่ทำการอุทยาน และเดินไปขอแผนที่ตรงบริการนักท่องเที่ยว ซึ่งเจ้าหน้าที่ จะบอกทางไปภูทับเบิกแบบไม่มีทางหลงแน่นอนครับ
และแล้วก็เดินทางมาถึง ภูทับเบิก ด้วยอุณหภูมิ 15 องศาเที่ยงวันนั้นไม่ธรรมดาเลย ที่ภูทับเบิกยอดที่สูงๆ มีจุดชมวิว มองไปด้านล่างๆ สวยงามยิ่งนัก สัมผัสที่ท่องเที่ยวแบบมือหนึ่ง ที่ยังน้อยคนจะได้ไป เมื่อมองซ้ายมองขาว ก็เจอ ชาวเขาเผ่าม้ง สามสี่ราย เดินมาเที่ยว อู้หู นี่เรามาที่ที่บริสุทธิจริงๆนะเนี่ย
ที่ยอดภูทับเบิกจะมีไร่กระหล่ำปลีเต็มไปหมดทุกภูเขา เราสามารถ เดินไปดูเก็บกระหล่ำปลี ซึ่งก็เป็นชาวเขาม้ง จะขอซื้อมาทานก็ได้ ราคาแสนถูก และสดเหนือคำบรรยายครับ และอย่าลืมขับรถไปเที่ยวในเส้นทางไปหมูบ้าน ที่อยู่ห่างจากยอดทับเบิก 5 กิโลเมตร เส้นทางสายนี้นับว่าสุดยอดจริงๆ วิวสวยมากขอบอก ซ้ายกระหล่ำปลี ขวากระหล่ำปลี เป็นภูเขากระหล่ำปลี ที่ชีวิตนี้จะติดตาไปตลอดเลย เหนือยอดกระหล่ำปีเป็นปุยหมอกจางๆ สวยมาก สวยมาก และก็สวยมาก
เก็บเกี่ยวความสุขจนเต็มตา เต็มปอด เราก็ออกจากทับเบิก เรามุ่งสู่เขาค้อ ใช้เส้นทางไปทางหล่มเก่า ขับเข้าสู่เส้นเขาค้อ ผ่านเนินมหัศจรรย์ จอดพิสูจน์กันหน่อย แล้วก็ขับเที่ยวรับลมสบายๆ ไปจิบกาแฟเขาค้อแท้ๆ ก่อนขับเที่ยวแวะนู้นแวะนี่รายทาง สุขนี้เหนือบรรยายจริงๆ ไม่ต้องห่วงรถเสียอีกตะหาก เพราะรถที่เราเช่ามานี่ขับไปไม่กี่หมื่นเอง ใหม่ๆ ไม่มีเสีย
จบท้ายด้วยร้านอร่อยๆ ของเขาค้อ ผมต้องยกนิ้วให้ "ครัวเขาค้อ" ตั้งอยู่ที่ 46หมู่ 6 ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ โทร 0-1043-6388 ยกนิ้วให้จากใจ เจ้าของร้านไม่รู้เรื่องหรอกครับ ไม่ต้องไปถาม ร้านนี้เป็นร้านอาหาร ตามสั่ง มีต้มเลือดหมูอร่อยมาก มีผัดเผ็ดอร่อยทุกจาน อาหารไม่แพง เพราะเขาขายให้ คนท้องถิ่น ไม่ใช่นักท่องเที่ยว ที่ผมแสวงหาไปเจอเอง ร้านนี้นายสบายขอแนะนำ ไปพักแถวแค้มป์สน อย่าพลาดนะครับ
Source: https://travel.sanook.com