วิธีลดความอ้วน 10วิธีลดความอ้วน วิธีลดความอ้วนอย่างรวดเร็ว อย่างได้ผลที่สุด !


816 ผู้ชม


วิธีลดความอ้วน 	10วิธีลดความอ้วน วิธีลดความอ้วนอย่างรวดเร็ว อย่างได้ผลที่สุด !วิธีลดความอ้วน 	10วิธีลดความอ้วน วิธีลดความอ้วนอย่างรวดเร็ว อย่างได้ผลที่สุด !วิธีลดความอ้วน 	10วิธีลดความอ้วน วิธีลดความอ้วนอย่างรวดเร็ว อย่างได้ผลที่สุด !วิธีลดความอ้วน 	10วิธีลดความอ้วน วิธีลดความอ้วนอย่างรวดเร็ว อย่างได้ผลที่สุด !
 
 เนื่องจากการมีรูปร่างที่ดีเป็นสิ่งสำคัญที่ดึงดูดใจผู้คนให้เหลียวมอง และเราก็ตระหนักได้ว่านี่ไม่ใช่แฟชั่นที่มาและไปเช่น แฟชั่นเสื้อผ้า ทรงผมหรือแฟชั่นอื่นๆ ความต้องการมีรูปร่างที่ผอมบางสมส่วนราวกับดารานางแบบ เป็นสิ่งดึงดูดใจสาวไทยและเป็นที่ชื่นชอบของชายหนุ่มไทยมีอยู่มานานแล้ว ที่ สำคัญแนวโน้มความต้องการก็สูงขึ้นอย่างชัดเจน จะเห็นได้จากธุรกิจความสวย ความงามที่เติบโตขึ้นมามากมาย เพื่อตอบรับต่อกระแสดังกล่าว แต่อันที่จริงแล้วการมีรูปร่างที่ดีนั้นไม่ได้อยู่แค่รูปร่างที่อยากมีอยาก ได้ แต่อยู่ที่ความสมส่วน กล้ามเนื้อกระชับ ประกอบกับสุขภาพที่ดี ดูแข็งแรงอยู่เสมอ ซึ่งคุณไม่จำเป็นต้องเสียเงินเสียทองเป็นหมื่นเป็นแสนในการซื้อความสวยงาม เหล่านั้น เพราะเรามีวิธีง่ายๆสำหรับหนุ่มสาวที่อยากมีรูปร่างที่ดูดีและมีสุขภาพด้วย ตนเองมาฝาก ซึ่งหากคุณทำได้ดังนี้แล้วความสวยหล่อดูดีมีเสน่ห์ก็จะมาหาคุณเอง โดยไม่ต้องกังกลเรื่องความอ้วนและโรคภัยต่างๆให้เสียเวลา
 
   1.
      เตรียมวางแผนการกินล่วงหน้า สิ่งนี้จะช่วยให้คุณสนุกกับการเตรียมรับมือกับอาหารมื้อต่างๆที่จะต่อต้าน ความอ้วนของคุณ คุณสามารถเลือกและบังคับให้ตนเองรับประทานหรือไม่รับประทานอะไร ซึ่งหากคุณทำได้อย่างที่วางแผนไว้ ถือว่าคุณประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนักแล้ว
   2.
      เปลี่ยนวิธีรับประทานของคุณ บางคนชอบรับประทานเร็วเกินไป จะทำให้คุณอิ่มน้อยเพราะกระเพาะยังไม่ทันทำงาน คุณก็รู้สึกอยากรับประทานเพิ่มอยู่เรื่อยๆ บางคนชอบรับประทานช้าเกินไปก็จะทำให้จำกัดปริมาณอาหารที่รับประทานเข้าไปไม่ ได้เช่นกันเนื่องจากการทิ้งระยะเวลาไว้นานเกินไป ทำให้คุณรู้สึกว่าไม่อิ่มหรืออิ่มช้า และอีกหลายคนชอบรับประทานจุกจิก ซึ่งลักษณะนิสัยเช่นนี้อาจเสี่ยงต่อโรคต่างๆที่เกี่ยวกับความอ้วน บางคนคิดว่ารับประทานข้าวน้อยในมื้อต่างๆ เลือกที่จะรับประทานจุกจิกแทน ไม่ทำให้อ้วน ซึ่งนั่นไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง เพราะถึงอย่างไร กระเพาะต้องทำงานตลอดเวลา ทำให้ย่อยไม่หมดหรือย่อยไม่ทัน ก็ไปสะสมอยุ่ที่ส่วนอื่นของร่างกาย ไม่ได้ถูกนำไปใช้ ดังนั้นคุณควรหันมากินอาหารให้ตรงเวลา เป็นมื้อๆ ครบทั้งสามมือ และกินในเวลาที่พอเหมาะ ไม่รีบหรือไม่ช้าจนเกินไป อีกทั้งควรกินอย่างพอดีๆไม่ใช่กินเพราะเสียดายหรือเพราะความอร่อย
         
   3.
      วางตารางการออกกำลังกายในวันเดิมและเวลาเดิม การออกกำลังกายจำเป็นจะต้องทำอย่างสม่ำเสมอ เพราะนั่นจะทำให้ร่างกายของคุณเตรียมพร้อมต่อการทำงานแบบต่างๆ มีภูมิต้านทานโรคที่ดี มีสุขภาพที่แข็งแรง ไม่ป่วยง่าย คุณไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายทุกวัน แต่สามารถเลือกวันหรือจัดตารางให้เป็นส่วนหนึ่งในกิจวัตรประจำวันของคุณ โดยต้องทำซ้ำๆหรือทำอย่างสม่ำเสมอ ไม่ควรผลัดวันหรือทำแบบตามใจตนเอง โดยที่คุณควรออกกำลังกาย 3-5 วันต่อสัปดาห์ ครั้งละ 20-60นาที
   4.
      ออกกำลังกายแต่เช้าทำให้มีโอกาสน้อยที่จะพลาดการออกกำลัง กาย เพราะในแต่ละวันคนส่วนใหญ่มักตื่นไปทำงานแต่เช้ากลับบ้านก็ดึกดื่น จนแทบไม่มีเวลาทำอย่างอื่น คุณควรแบ่งเวลาตอนเช้าเอตื่นนอนเพื่อออกกำลังกายในทุกวัน วันเว้นวัน หรือวันที่กำหนดในแต่ละสัปดาห์ และเป็นเวลาเดียวกันทุกครั้ง ก่อนไปทำกิจวัตรส่วนตัว สร้างลักษณะนิสัยที่เคยชินเช่นเดียวกับการอาบน้ำ รับประทานอาหาร นั่นก็จะทำให้คุณมีโอกาสได้ออกกำลังกายแล้ว
   5.
      ใช้บันไดแทนลิฟธิ์เสมอ เป็นวิธีที่ถูกแนะนำอยู่เสมอ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความขยันของแต่ละคน เพราะนอกจากเรื่องการเผาผลาญแคลอรี่หรือการกระชับกล้ามเนื้อแล้ว ยังมีเรื่องของการกระตุ้นสมองให้เรามีความตื่นตัวในการทำสิ่งต่างๆได้อีก ด้วย เพราะคุณสาวๆหรือแม้แต่หนุ่มทั้งหลาย อาจรู้สึกง่วงซึมหรืออ่อนเพลียจากการตื่นนอนแต่เช้าจึงเป็นเหตุให้คุณไม่ อยากจะใช้พลังงานให้ร่างกายเหนื่อยอ่อน ทั้งที่จริงแล้วการออกกำลังกายเล็กๆน้อยๆเป็นผลให้สมองของคุณสั่งการได้ อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าการปล่อยให้รู้สึกง่วงเหงาหาวนอนตลอดเวลา
   6.
      กำหนดข้อมูลหรือบันทึกการออกกำลังกายและการลดน้ำหนัก วิธีนี้เป็นวิธีที่ทำได้ง่ายไม่ยุ่งยาก เพียงแค่คุณรู้จักบันทึกหรือจดจำข้อมูลการรับประทานอาหารของคุณแต่ละมื้อใน แต่ละวันเท่านั้น เพื่อให้คุณทำได้อย่างสม่ำเสมอ เหมือนการจดบันทึกประจำวันทั่วไปเพื่อการวางแผนการกินหรือการออกกำลังกายต่อ ไป
   7.
      ไม่เก็บอาหารไขมันสูงๆเช่น ของทอด ขนมกรุบกรอบ อาหารประเภทที่มีส่วนผสมของนม เนย น้ำตาลมากๆ ไว้ในบ้าน อาหารจำพวกนี้เป็นสาเหตุของโรคอ้วน น้ำหนักเกิน หรือแคลอรี่สูง
   8.
      ทำตามแผนการทานอย่างถูกต้องและออกกำลังกายสม่ำเสมอ หมายถึงการรับประทานอาหารตามแผนการลดน้ำหนักของคุณควบคู่กับแผนการออกกำลังกาย
   9.
      พักผ่อนให้เพียงพอ ผลการวิจัยล่าสุดบอกว่า การนอนหลับที่เหมาะสมและเพียงพอคือ ไม่ต่ำกว่า 7 ชั่วโมงและไม่เกิน 8 ชั่วโมง อีกทั้งคุณไม่ควรนอนดึกบ่อยๆเพราะนอกจากจะทำให้อ้วนขึ้นเนื่องจากการทำงาน ของกระเพาะที่ผิดเวลาแล้ว ปัญหาใต้ตาดำคล้ำก็จะเพิ่มความชัดเจนของใบหน้าคุณให้มากขึ้นด้วย
  10.
      ต้องตระหนักในเป้าหมายเข้าไว้ คุณต้องพยายามทุ่มเทเพื่อไปถึงเป้าหมายให้ได้โดยการตระหนักไว้เสมอว่า เราต้องผอมลงเท่าใด โดยอาจจะเริ่มที่ระยะเวลาสั้นๆ เช่น 3 สัปดาห์ หรือ 1 สัปดาห์ อย่าท้อถอยหรือถอดใจเสียก่อน เพราะผลสำเร็จที่จะได้ขึ้นอยู่กับความพยายามของคุณเอง
          หลังจากเราได้ทราบวิธีการง่ายๆในการดูแลเรื่องรูปร่าง น้ำหนัก และสุขภาพของคุณ ต่อมาเราลองมาดูกันว่า 8 ประเภทอาหารที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักอย่างมีสุขภาพนั้น ควรเป็นอย่างไร
1.อาหารประเภทไฟเบอร์เป็นอาหารสำคัญที่ช่วยในการลดน้ำหนัก ไม่ว่าจะเป็นไฟเบอร์แบบสามารถละลายได้ หรือไฟเบอร์ที่ไม่สามารถละลายได้
- ไฟเบอร์ที่ไม่สามารถละลายได้ เป็นอาหารปราศจากแคลอรี่ ได้แก่พวกผัก ผลไม้ ขนมปังโฮลวีท ซีเรียล รำข้าว
- ไฟเบอร์ที่สามารถละลายได้ ช่วยให้น้ำตาลในเลือดคงที่ ควบคุมความหิว และความอยาก แม้แต่ชะลอการย่อยในลำไส้ ทำให้รูกสึกอิ่มนาน อาหารประเภทนี้ได้แก่ สตรอเบอรี่ แอปเปิ้ล ข้าวโอ๊ต ถั่วชิกพี และถั่วลันเตา
2. อาหารที่ฉ่ำน้ำ ผลไม้และผักที่มีปริมาณน้ำข้างในเยอะจะทำให้คุณรู้สึกอิ่มเร็ว เช่น แตงโม กระหล่ำ มะเขือเทศ แตงกวา เห็ดต่างๆ ส้มโอ และแคนตาลูป
3. อาหารโปรตีนน้อย เช่น อกไก่ ทูน่ากระป๋อง ปลาแซลมอนสดและแซลมอนกระป๋อง ไข่ขาว ปู กุ้ง อกไก่งวง เต้าหู นมไขมันต่ำ และถั่วเลนทิล ปลานิล
4. อาหารที่กระตุ้นการทำงานของคุณ ได้แก่ ถั่วต่างๆ เช่นถั่วลิสงมีเปลือกกับไม่มีเปลือกและ ถั่วเหลืองในฝักกับถั่วธรรมดา
5. การเคี้ยวหมากฝรั่งนั้นสามารถลดความหิวและความอยากอาหารได้ แต่หมากฝรั่งที่ใช้ควรเป็นหมากฝรั่งแบบชูการ์ฟรีหรือแบบไม่มีน้ำตาล
6.เครื่องดื่มร้อนๆ เป็นวิธีกำจัดแคลอรี่ได้อย่างดีอีกอย่าง เพราะเครื่องดื่มหรือแม้แต่อาหารร้อนๆ ช่วยให้คุณยืดระยะเวลาการกินไปได้ คุณจะต้องค่อยๆจิบหรือชิมทีละน้อยเพราะระวังความร้อน และควรเลือกเครื่องดื่มที่มีแคลอรี่ต่ำกว่า 100 เช่น ชาเขียวและชาสมุนไพร,โกโก้ร้อนแบบไดเอท,กาแฟลาเต้ และคาปูชิโน่ไขมันต่ำ,น้ำซุปที่มีโซเดี่ยมน้อยๆ
7. อาหารเผ็ดๆหรือรสจัด ตามการวิจัยได้พบว่าการกินอาหารรสเผ็ดจะทำให้เรากินอาหารได้น้อยลง เนื่องจากเราต้องกินช้าๆและดื่มน้ำไปด้วย ซึ่งการทำให้อาหารมีรสจัดทำได้โดยใส่พริกและซอสต่างๆ
8. การเหลือที่ให้ขนมคบเคี้ยวที่เราอยากรับประทาน ซึ่งควรเป็นอาหารจำพวก ผลไม้แห้ง อาหารไร้ไขมัน หรือแคลอรี่ต่ำต่างๆ
                                                                                     ข้อมูลที่มา beauty.yopi.co.th

อัพเดทล่าสุด