มองอาชีพฝ่าวิกฤติ เรียนอะไร? เลี่ยงตกงาน!!
ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่มีความเคลื่อนไหวให้ติดตามทั้งในประเทศและต่างประเทศ การเลิกจ้าง การปิดกิจการลงยังคงมีปรากฏ จากพิษเศรษฐกิจที่ไม่เพียงสร้างความหวั่นไหวให้กับคนวัยทำงาน บัณฑิตใหม่ที่กำลังมองหางาน นักเรียนนักศึกษาที่กำลังเลือกเส้นทางการศึกษาต่ออีกทั้งผู้ที่ยังว่างงาน รองานคงมีความรู้สึกที่ไม่แตกต่างกัน การวางแผน เตรียมความพร้อมอย่างเหมาะสมต่อเนื่องจากนี้ไปเป็นสิ่งสำคัญและจากภาวะวิกฤติเศรษฐกิจที่ทั่วโลกกำลังเผชิญ
สถานการณ์การจ้างงานของตลาดแรงงานในประเทศส่วนหนึ่งจากการบอกเล่าของ ส่งศรี บุญบา รองอธิบดีกรมการจัดหางานกระทรวงแรงงานให้ความรู้ว่า ภาวะการทำงานของประชากรจากเดือนที่ผ่านมาตามข้อมูลผู้มีงานทำมีจำนวน 37.98 ล้านคนเพิ่มขึ้นประมาณ 5.5 แสนคน โดยผู้มีงานทำในภาคการเกษตรกรรม นอกภาคเกษตรกรรม มีเพิ่มขึ้น ขณะที่สาขาขายส่งขายปลีก สาขาก่อสร้าง โรงแรม ภัตตาคาร การขนส่งก็มีเพิ่มขึ้น ส่วนในสาขาการผลิตลดลง โดยเฉพาะการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ การผลิตสิ่งทอ ฯลฯ และจากข้อมูลผู้ว่างงานเดือนธันวาคม สูงกว่าปีก่อนเพิ่มจากเดือนพฤศจิกายนประมาณสองหมื่นคนซึ่งแนวโน้มการว่างงานยังคงสูง หากการจ้างงานภาคผลิตยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่การก้าวเข้าสู่การจ้างงาน การสมัครงานมีหลากหลายช่องทาง ส่วนความต้องการแรงงานผ่านบริการการจัดหางานของรัฐ ในปีที่ผ่านมา 10 อันดับแรกได้แก่ แรงงานบรรจุผลิตภัณฑ์ พนักงานขายของหน้าร้าน พนักงานสาธิตสินค้า แรงงานด้านการประกอบ เจ้าหน้าที่สำนักงาน ผู้ประกอบวิชาชีพทางธุรกิจ พนักงานบริการ อาหาร และเครื่องดื่ม เจ้าหน้าที่บัญชี ผู้ตรวจสอบด้านความปลอดภัย สุขภาพและผลิตภัณฑ์ ตัวแทนฝ่ายขายด้านความปลอดภัย เจ้าหน้าที่คลังสินค้า นอกจากความต้องการงานที่กล่าวมา ภาวะเศรษฐกิจเวลานี้การฝึกอาชีพฝึกทักษะ การประกอบอาชีพอิสระยังเป็นอีกทางเลือกทางออกที่ช่วยผู้ที่กำลังมองหางานได้มีงานทำ
เยาวเรศ วัฒนศรี ผู้อำนวยการกองส่งเสริมการมีงานทำ กรมการจัดหางาน บอกเล่าว่า ปัญหาการว่างงานมีหลายปัจจัยทั้งการเรียนไม่ตรงกับการจ้างงาน ไม่ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน นอกจากนี้ยังมีในกลุ่มผู้ที่มีอายุความต้องการจ้างงาน จะน้อย การกลับเข้าไปสู่ตลาดแรงงานจะยากกว่า ในภารกิจของกองส่งเสริมการมีงานทำ นอกจากให้คำปรึกษาแนะนำผู้จบการศึกษาใหม่ ผู้ที่สนใจอาชีพ ศูนย์ข้อมูลอาชีพยังเป็นอีกแหล่งความรู้ให้ค้นคว้าศึกษาอาชีพ เพิ่มเติม
"ภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้อาชีพอิสระเป็นอีกทางเลือกการสร้างงานสร้างอาชีพ อย่างอาชีพอิสระ เกี่ยวกับอาหารเครื่องดื่ม ชา กาแฟ อาหารจานเดียว ก๋วยเตี๋ยวเรือ ราดหน้า ข้าวขาหมู ข้าวหมกไก่ ฯลฯ จะเห็นว่าช่วงวันเสาร์ที่เปิดฝึกอบรมจะมีผู้สนใจสมัครเข้ามา อย่างในกรุงเทพฯ จะสนใจอาชีพเกี่ยวกับอาหารเครื่องดื่ม ขณะที่ต่างจังหวัดสนใจงานประดิษฐ์ อาชีพอิสระจึงเป็นอีกทางเลือกทางออกให้กับคนที่กำลังมองหางาน ได้มีงานทำ"
จากอาชีพในปัจจุบันที่มีอยู่มากมายซึ่งทุกคนสามารถทำงานได้ด้วยตัวเอง โดยที่ไม่ต้องรอผู้ประกอบการด้านเดียว ผู้อำนวยการท่านเดิมให้มุมมองเพิ่มว่า หากมีความขยันจะต่อสู้กับชีวิตการมีงานทำนั้น ไม่ใช่สิ่งที่ยากลำบาก ซึ่งภาครัฐก็ให้การสนับสนุนเปิดฝึกอาชีพสามารถมาเลือกฝึกได้ การฝึกอาชีพอาจจะทำให้เห็นถึงความถนัด ความสนใจในอาชีพนั้นๆ ได้ ทุกอาชีพต่างก็มีความหมาย มีคุณค่า ขอเพียงไม่ท้อถอย มุ่งมั่นต่อการทำงาน ทำงานที่สุจริต ไม่ว่าจะเป็นงานอะไรก็ตามสามารถเลี้ยงชีพได้
ส่วนการทำงาน การเลือกเรียนของนักเรียน นักศึกษา ปัจจุบันอาจมีมุมมองเปลี่ยนไป อีกเสียงคำแนะนำถึงการเลือกเรียน เทคนิคการพิชิตงาน นักวิชาการแนะแนว ให้ความรู้ว่า การแนะแนวเป็นพื้นฐานอย่างหนึ่งที่มีส่วนช่วยสร้างความรู้ความเข้าใจในเรื่องงาน ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายทั้งที่เป็นนักเรียน นักศึกษา การให้คำแนะนำจะแตกต่างกันไป ถ้าในกลุ่มนักเรียนจะแนะนำให้เห็นว่า การเรียนต่อไปจะเป็นไปในลักษณะใด ขณะที่กลุ่มอาชีวะ ปริญญาก็จะเป็นเรื่องของการทำงาน การได้งาน ฯลฯ
ในเส้นทางการศึกษาต่อ อย่างที่ทราบกันมีอยู่สองเส้นทางใหญ่คือ ศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งมีหลากหลายสาขา ส่วนอีกประเภทหนึ่งก็จะเป็นเรื่องของสายอาชีพ การแนะแนว เหมือนกับการให้ข้อมูลทางเลือก ซึ่งการให้ข้อมูล คำปรึกษาจะทำให้เห็นถึงเส้นทางอนาคตของเขาชัดเจนขึ้น และจากหลากหลายอาชีพที่มีแนวโน้มไปได้ดี อาชีพที่เป็นที่สนใจ จากที่มีการศึกษารวบรวมเป็นหมวดพบว่า หมวดพลังงาน ไม่ว่าจะเป็นพลังงานน้ำมันเชื้อเพลิง สิ่งต่างๆ ที่นำมาผลิตเป็นพลังงานในกลุ่มนี้ โดยเฉลี่ยนับตั้งแต่ปี 2540 เป็นต้นมามีการเติบโต ขณะที่หมวด ผลิตภัณฑ์กระดาษ ผลิตภัณฑ์ไม้ เป็นอีกกลุ่มที่มีแนวโน้มการจ้างงานทั้งลูกจ้างและนายจ้าง
"พลังงานไม่ว่าจะเป็นพลังงานลม พลังงานแสง ฯลฯ ดูจากสถิติแล้วเพิ่มมากขึ้นในการเรียน อาจจะไม่ได้คิดถึงอาชีพเหล่านี้ อาชีพโดยมากที่คุ้นเคยก็จะเป็นอาชีพของผู้ปกครอง อาชีพที่กล่าวขานกันในสังคม การเรียนที่สอดคล้องแตกแขนงออกไปจะทำให้มีโอกาสเพิ่มขึ้น ในกลุ่มอุตสาหกรรมนำเข้า กลุ่มนี้ต้องใช้ฝีมือ ความคิดสร้างสรรค์ เพื่อเพิ่มมูลค่าในวัตถุดิบ การค้าปลีก การประกอบอาชีพอิสระก็เป็นที่สนใจ เรื่องของการรีไซเคิล ก็น่าจับตา ซึ่งที่ผ่านมาองค์ความรู้ด้านนี้ยังมีไม่มาก เช่นเดียวกับเรื่องของอุตสาหกรรมโทรคมนาคม เทคโนโลยี ก็เป็นที่น่าศึกษา เพราะทั่วโลกให้ความสนใจ ฯลฯ"
แต่อย่างไรก็ตาม การเรียนในสิ่งที่รักและสนใจ บวกกับความสามารถพิเศษของตนเองที่มี ไม่ว่าจะเป็นความสามารถทางภาษาพูด อ่าน เขียน บุคลิกภาพที่ดี การมีทักษะทางคอมพิวเตอร์ ฯลฯ เหล่านี้ก็มีส่วนสำคัญ อย่างที่กล่าวมา นอกจากวัยเรียนยังมีการให้คำแนะนำกลุ่มที่กำลังจะสำเร็จการศึกษา โดยในกลุ่มนี้การเตรียมตัวพร้อมก่อน ก้าวสู่ตลาดแรงงานเป็นสิ่งสำคัญ และการที่จะได้รับการพิจารณา ได้รับคัดเลือกร่วมงานในหน่วยงานต่างๆ นักแนะแนวฝากแง่คิดว่า อย่างแรก คงต้องมีความชัดเจนในตัวเอง ต้องรู้ว่าตนเองมีความถนัด มีทักษะตรงไหน ฯลฯ ซึ่งสิ่งนี้ต้องค้นให้เจอ การมีบุคลิกภาพที่ดีขณะตอบข้อคำถามการสัมภาษณ์ การวางตัว การควบคุมอารมณ์ ฯลฯ ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องเตรียมตัวให้พร้อม
ส่วนกลุ่มวัยเรียน การเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย โดยรู้จักแบ่งเวลาอย่างเหมาะสมเป็นอีกสิ่งที่อาจทำให้พบกับความต้องการแท้จริงของตนเองได้ และอาจเกิดมุมมอง มีประสบการณ์เพิ่มจากการเรียนในห้องเรียน ได้เกร็ดชีวิต เกร็ดการงาน ค้นเจอความต้องการตนเอง
จากอาชีพที่มีอยู่มากมายหากทำงานด้วยความสุจริต มีความสุข มีความภาคภูมิใจในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นงานใดก็สามารถสร้างประโยชน์ให้แก่ตนเอง ครอบครัว สังคม และก่อนจะก้าวสู่การทำงานไม่ว่าจะเลือกเรียนสิ่งใด หากมีความรักมุ่งมั่นตั้งใจในสิ่งที่เรียนก็จะนำมาซึ่งความสำเร็จ ผ่านพ้นวิกฤติไปได้
(ที่มา:เดลินิวส์)