เอล นินโญ่ / ลา นินญ่า ฝนตก ความแห้งแล้ง และ การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิน้ำทะเลในประเทศไทย


1,067 ผู้ชม

ปรากฏการณ์ เอล นินโญ่ และ ลา นินญ่า เกิดขึ้นได้อย่างไร และกำลังมีผลกระทบต่อ ภูมิอากาศ ปลาและมหาสมุทรในบ้านเราและบ้านคนอื่น



             คราวนี้มาอธิบายเรื่องราวความเป็นไปของปรากฏการณ์ เอล นินโญ่ และ ลา นินญ่า ที่กำลังมีผลกระทบต่อ ภูมิอากาศ ปลาและมหาสมุทรในบ้านเราและบ้านคนอื่นเข้าเสียหน่อยนะครับ สัญญาใจว่าจะเขียนให้เข้าใจง่ายที่สุด รู้ไว้ใช่ว่าหนุ่มๆก็เอาไว้อวดสาวได้นะครับ
ก่อนอื่นต้องเรียนถึงคุณสมบัติของน้ำ ซึ่งขอให้จำและเข้าใจก่อนครับ
             ๑.     น้ำอุ่นจะระเหยได้ดีกว่าน้ำเย็น ซึ่งน้ำที่ระเหยสู่ชั้นบรรยากาศก็จะกลายเป็นเมฆและตกลงมาเป็นฝนในที่สุด 
             ๒.    น้ำอุ่นจะมีความหนาแน่นของมวลน้อยกว่าน้ำเย็น ดังนั้นน้ำอุ่นจะอยู่เหนือน้ำเย็นเสมอ รวมทั้งในมหาสมุทรด้วย 
                  เอล นินโญ่ / ลา นินญ่า ฝนตก ความแห้งแล้ง และ การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิน้ำทะเลในประเทศไทย
             บรรยายภาพ:ภาพ ด้านบนคือภาพของกระแสน้ำในปีที่เกิด ปรากฏการณ์ ลา นินญ่า จะเป็นว่ากระแสน้ำอุ่นจะมากองอยู่ทางฝั่งทวีปเอเชียเป็นจำนวนมาก ส่วนภาพด้านล่างในปี เอลนินโย่ จะเห็นว่าลมสินค้าที่พัดเบาลงทำให้น้ำอุ่นที่ผิวน้ำของมหาสมุทรแปซิฟิก กระจายกันทั่วมหาสมุทร (ที่มาของภาพ องค์การ NASA)
             จากนั้นก็รบกวนดูแผนที่ในภาพนะครับ ด้านซ้ายมือของท่านหรือทางด้านทิศตะวันตกคือทวีปเอเซีย และ ออสเตรเลีย ส่วนทางด้านขวาหรือทางด้านทิศตะวันออก คือทวีปอเมริกาเหนือ กลาง และ ใต้ ส่วนตรงกลางคือมหาสมุทรแปซิฟิก โดยปกติแล้วจะมีลมที่เราเรียกกันว่าลมสินค้าหรือ trade windพัดจากทิศตะวันออกมาทางทิศตะวันตก ก็คือจากฝั่งอเมริกามาทางฝั่งเอเชีย ซึ่งลมนี้จะพัดเอาน้ำอุ่นที่ผิวน้ำของมหาสมุทรแปซิฟิกมากองอยู่ทางฝั่งทวีป เอเชีย ซึ่งก็รวมถึงประเทศไทยด้วย ที่นี้ย้อนกลับไปดูคุณสมบัติของน้ำข้อที่ ๑. ทางด้านบน เมื่อน้ำอุ่นมากองอยู่ทางฝั่งเรามาก ก็จะมีการระเหยมาก ทำให้พื้นที่ในแถบนี้มีฝนตกชุกนั้นเองครับ
             ส่วนทางด้านทวีปอเมริกาใต้นั้น เมื่อน้ำอุ่นถูกพัดมาทางฝั่งเราหมด น้ำเย็นจากทางด้านล่างก็จะลอยขึ้นมาแทนที่พัดพาเอาตะกอนอาหารจากเบื้องล่าง ขึ้นมา ทำให้ชายฝั่งทางด้านนั้นมีปลาน้อยใหญ่มากมายเพราะมีอาหารอุดมสมบูรณ์ แต่บนบกก็จะแห้งแล้งเพราะน้ำเย็นไม่ค่อยระเหยกลายเป็นเมฆนั่นเอง
 
             ในปีที่เกิด เอล นินโญ่ลมสินค้าที่ปกติพัดเอาน้ำอุ่นมากองอยู่ฝั่งเรา จะพัดเบาลงเสียอย่างนั้น ทำให้น้ำอุ่นที่ผิวของมหาสมุทรแปซิฟิกที่ปรกติจะถูกพัดมากองอยู่ทางฝั่ง เอเชียและออสเตรเลีย ไม่มาตามนัดอย่างในปีปกติ ซึ่งจะเห็นได้ในภาพด้านล่างที่น้ำอุ่นจะเอ่อกระจายไปทั่วมหาสมุทรแปซิฟิก และจะทำให้
             ๑.      น้ำทะเลในประเทศไทยจะมีอุณหภูมิลดต่ำลง เช่นที่นักดำน้ำหลายๆท่านบ่นกันในบางปี ว่าอุณหภูมิของน้ำลดลงจากปรกติมาก 
             ๒.    ในฝั่งทวีปเอเชียและออสเตรเลีย ฝนจะตกน้อยลงเนื่องจากน้ำอุ่นจะถูกพัดมาน้อยลงทำให้มีการระเหยของน้ำน้อยลง ซึ่งเมื่อฝนตกน้อยลงปัญหาที่จะตามมาก็คือ ความแห้งแล้ง เพาะปลูกไม่ได้ผล และ ไฟป่า เป็นต้น  
             ส่วนทางฝั่งทวีปอเมริกานั้น เมื่อน้ำอุ่นที่เคยถูกพัดมาทางฝั่งเรา ไม่ได้ถูกพัดมาเหมือนทุกปี น้ำเย็นจากด้านล่างก็ไม่สามารถลอยขึ้นมาได้ ซึ่งเมื่อน้ำเย็นไม่ลอยขึ้นมาหรือลอยขึ้นมาน้อยลงก็จะไม่สามารถนำอาหารและ แร่ธาตุขึ้นมาด้วยได้ ผลที่เกิดขึ้นก็คือ ความอุดมสมบูรณ์ของทะเลจะน้อยลง ชาวประมงและนกจะจับปลาได้น้อยลง ส่วนทางด้านชายฝั่งที่ปกติแห้งแล้งก็จะมีฝนตกมากขึ้น ก่อให้เกิดอุทกภัยตามริมฝั่งทะเล รวมไปถึงรัฐทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศสหรัฐอเมริกาด้วย
             ในทางกลับกัน ในปีที่เกิดปรากฏการณ์ ลา นินญ่า ลมสินค้าจะพัดแรงกว่าปกติ ทำให้น้ำอุ่นมากองอยู่ทางฝั่งทวีปเอเชียมากกว่าปกติตามภาพด้านบน ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยมีฝนตกชุก หรือตกมากเกินไปจนกลายเป็นอุทกภัย น้ำท่วม โคลนถล่ม อย่างที่เกิดขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๔๙  และถ้าหากน้ำทะเลมีอุณหภูมิสูงขึ้นมากก็จะก่อให้เกิดปรากฏการณ์ปะการังฟอก ขาว ส่วนทางฝั่งทวีปอเมริกา น้ำจะเย็นขึ้น และมีความแห้งแล้งกว่าในปีปกติ
             ปรากฏการณ์ เอล นินโญ่และ ลา นินญ่า นี่ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นแต่มีบันทึกย้อนหลังไปเป็นร้อยปี ซึ่งในปัจจุบันยังไม่สามารถอธิบายได้แน่ชัดนักว่าอะไรเป็นปัจจัยให้เกิต ปรากฏการนี้ขึ้น
                  เอล นินโญ่ / ลา นินญ่า ฝนตก ความแห้งแล้ง และ การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิน้ำทะเลในประเทศไทย

ขอขอบคุณข้อมูลดีจากsiamensis

อัพเดทล่าสุด