ความร่วมมือกันระหว่าง ปตท. และ กฟภ. ในครั้งนี้ นอกจากจะช่วยเพิ่มความมั่นคงด้านการผลิตไฟฟ้าของประเทศ...ลดการนำเข้า พลังงานทั้งน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งเป็นทรัพยากรมีอยู่ตามธรรมชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุด
พลังงานลม
ความร่วมมือกันระหว่าง ปตท. และ กฟภ. ในครั้งนี้ นอกจากจะช่วยเพิ่มความมั่นคงด้านการผลิตไฟฟ้าของประเทศ...ลดการนำเข้า พลังงานทั้งน้ำมันเชื้อเพลิง และกระแสไฟฟ้าจากต่างประเทศรวมทั้งช่วยส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด ซึ่งเป็นทรัพยากรมีอยู่ตามธรรมชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุด ช่วยลดภาวะโลกร้อน
หลายคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า “พลังงานลม” กันมาบ้าง แต่น้อยคนนักที่จะนำพลังงานลมมาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริงในวันนี้ ปตท. และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) ต่างเล็งเห็นถึงประโยชน์จากพลังงานลม จึงได้ร่วมมือกันเพื่อพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมแบบทุ่งกันหันลม ถือเป็นการลดการนำเข้าพลังงานและยังเสริมสร้างพลังงานสะอาดอีกทางหนึ่งด้วย
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปตท. ได้ร่วมลงนามกับ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) เพื่อร่วมกันพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมแบบทุ่งกังหันลม (wind Farm) กำลังผลิต 5-10 เมกะวัตต์ ในพื้นที่ภาคใต้และภาคตะวันออก โดยใช้เงินลงทุนทั้งสินประมาณ 300-700 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถเริ่มผลิตในเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2557 ทดแทนการใช้น้ำมันได้ 2.26-4.53 ล้านลิตร/ปี
นายอดิศร เกียรติโชควิวัฒน์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กล่าวว่า จากการศึกษาศักยภาพพลังงานลมภายในประเทศโดยกระทรวงพลังงาน พบว่าประเทศไทยสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานลมได้ประมาณ 1,600 เมกะวัตต์ ซึ่งกระทรวงพลังงานได้กำหนดแผนพัฒนาพลังงานทดแทน 15 ปี โดยตั้งเป้าหมายให้มีการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมได้ไม่น้อยกว่า 15 เมกะวัตต์ในปี 2554 และเพิ่มขึ้นเป็น 800 เมกะวัตต์ ภายในปี 2565 ความร่วมมือกันระหว่าง ปตท. และกฟภ. ในครั้งนี้ นอกจากจะช่วยเพิ่มความมั่นคงด้านการผลิตกระแสไฟฟ้าและการจัดการพลังงานเพื่อ การผลิตไฟฟ้าของประเทศ ที่ปัจจุบันมีแนวโน้มความต้องการเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ และจำนวนประชากรในประเทศที่เพิ่มขึ้นแล้ว ยังเป็นการเสริมสร้างศักยภาพการพึ่งพาตนเองด้านพลังงาน ลดการนำเข้าพลังงาน ทั้งน้ำมันเชื้อเพลิง และกระแสไฟฟ้าจากต่างประเทศ รวมทั้งช่วยสงเสริมการใช้พลังงานสะอาดซึ่งเป็นทรัพยากรมีอยู่ตามธรรมชาติให้ เกิดประโยชน์สูงสุด ช่วยลดภาวะโลกร้อนด้วยการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากการเผาไหม้เชื้อ เพลิงจากฟอสซิลในกระบวนการผลิต และช่วยสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการพัฒนาและส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนในรูป แบบต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพและประสบผลสำเร็จตามเป้าหมาย
ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี ที่ ปตท. และ กฟภ. ร่วมมือในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมในครั้งนี้ และคงมีส่วนเป็นแรงกระตุ้นให้ทุกภาคส่วน ร่วมถึงตัวเราเองหันกลับมามองสิ่งแวดล้อมรอบตัว เพราะเราต่างก็ทำลายธรรมชาติเพื่อประโยชน์ของตัวเรามานานแล้ว ถึงเวลาที่เราจะคืนธรรมชาติสู่โลกของเราสักที ให้โลกใบนี้เป็นสีเขียวดังเดิม