รถถูกรีคอล เมื่อบริษัทรถเรียกคืนจะต้องทำอย่างไร

ช่วงนี้ในข่าวสารวงการรถยนต์ นั้น คงไม่มีข่าวใด ที่จะหนักหนามาแรงแอบแซงทางโค้งไปมากกว่า ข่าวการเรียกคืนรถยนต์ honda 3 รุ่น จากบริษัทแม่ ที่พาหลายคนกังวลกินไม่ได้นอนไม่หลับ ไม่รู้ไม่เข้าใจว่าต้องทำอย่างไร จะเสียเงินหรือไม่ จนบ้างไปพึงพาไสยศาสตร์

เรื่องโดย Nattyod C.

ช่วงนี้ในข่าวสารวงการรถยนต์นั้น คงไม่มีข่าวใด ที่จะหนักหนามาแรงแอบแซงทางโค้งไปมากกว่า ข่าวการเรียกคืนรถยนต์ honda 3 รุ่น จากบริษัทแม่ ที่พาหลายคนกังวลกินไม่ได้นอนไม่หลับ ไม่รู้ไม่เข้าใจว่าต้องทำอย่างไร จะเสียเงินหรือไม่ จนบ้างไปพึงพาไสยศาสตร์

สิ่งที่พูดมานี้ไม่เกินความจริง เพราะบ้านเรากับการรีคอลนั้นเป็นเรื่องที่ยังใหม่มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนใช้รถทั่วไปที่ไม่เข้าใจว่าการรีคอลคืออะไร แล้วการที่เขาเรียกคืนรถยนต์นั้นหมายความว่ารถรุ่นดังกล่าวไม่ดีใช่หรือไม่ บ้างก็มาสอบถามว่าเขาจะคืนเงินเปลี่ยนคันใหม่ให้หรือเปล่า

จริงอยู่การเรียกคืนสินค้านั้น ตามความหมายของมันคือการเกิดข้อผิดพลาดที่อาจจะทำให้ของชิ้นนั้นๆไม่ได้ คุณภาพตามมาตรฐานไปจนถึงการทำงานที่ไม่ตรงตามคุณสมบัติที่ควรจะเป็น ซึ่งไม่ว่ากรณีไหนที่เกิดขึ้น ทางผู้ผลิตจะต้องดำเนินการรับผิดชอบต่อผู้บริโภคในการทำให้กลับมาใช้งานได้ ดีตามที่สินค้าควรจะเป็นและไม่มีปัญหาตามมาภายหลัง

ในการเรียกคืนรถยนต์นั้นก็คล้ายๆกับสินค้าต่างๆมากมายที่อยู่ในท้องตลาด ที่หากตรวจพบข้อผิดพลาดบริษัทจะทำการเรียกสินค้าคืนกลับมาเพื่อแก้ไขข้อ บกพร่อง(ยกเว้นกลุ่มอาหารที่ต้องทิ้งสถานเดียว) เว้นแต่กรณี ข้อบกพร่องนั้นๆทำให้รถได้รับความเสียหายเกิน80% เช่นไฟไหม้ หรือเกิดอุบัติเหตุ แล้วพิสูจน์ได้ว่ามาจากข้อผิดพลาดดังกล่าว ผู้ซื้อจะได้รับรถคันใหม่ในกรณีที่ชนะคดีในชั้นศาล ซึ่ง หากวันนี้คุณกำลังเป็นกังวลในเรื่องราวของการรีคอลอย่าไปเครียด เพราะนี่เป็นเรื่องสิวๆ ที่สามารถวางใจได้ เพียงปฏิบัติตามข้อแนะนำของเราก็น่าจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี

1.ศึกษาข้อมูล เมื่อมีข่าวการรีคอล หลายคนมักจะตกใจว่า รถของเราจะมีส่วนด้วยหรือไม่ และ มันชอบพาลทำให้เครียดจนเกินความจำเป็น ดังนั้นเมื่อคุณทราบข่าวการรีคอลของรถแล้ว ควรตรวจสอบรุ่นและปีในเบื้องต้น หากยังมีแววในกลุ่มต้องสงสัย ก็ให้รอฟังข่าวต่อไปก่อน

2.รู้จักปัญหา กว่าครึ่งของคนใช้รถมักไม่ทราบว่าปัญหาที่เขาเกิดการรีคอลนั้นอันตรายมาก น้อยเพียงใด บางคนฟังวิทยุรู้ข่าวปุ๊ปเป็นกระต่ายตื่นตูม กันไปต่างๆนานา เราอยากแนะนำว่า เมื่อฟังแล้วก็ฟังว่าปัญหาคืออะไร แล้วไปไถ่ถามผู้รู้ หรืออาจจะศึกษาข้อมูลในข่าวชิ้นนั้นๆดูว่า สรุปมันเป็นที่ชิ้นส่วนใดและอันตรายร้ายแรงหรือไม่ และในกรณีตรวจสอบแล้วพบว่ารถของเราเริ่มมีอาการ ทางที่ดีควรหยุดใช้งานทันที

3.สอบถามไปยังผู้ผลิต บางครั้งเราต้องยอมรับว่าบางบริษัทไม่อยากเปิดเผยการเรียกคืนรถออกสู่ สาธารณะ เนื่องด้วยอาจเสียภาพลักษณ์ของบริษัท ดังนั้นทางที่ดีที่สุด แม้จะไม่มีข่าวคราวในบ้านเรามันก็เป็นสิทธิ์ของผู้บริโภคที่สามารถไถ่ถามไป ยังผู้ผลิตในประเทศได้ ซึ่งท่านสามารถสอบถามไปยังคอลเซ็นเตอร์ของค่ายรถยนต์รายนั้นๆเกี่ยวกับปัญหา ที่ได้รับทราบข่าวมา

4.รอจดหมายยืนยัน จงจำไว้ว่าทุกครั้งที่มีการรีคอลจะต้องมีหนังสือแสดงเป็นลายลักษณ์อักษรจาก ผู้ผลิตส่งถึงคุณตามที่อยู่ของผู้ครอบครองหรือ เจ้าของรถที่ได้ลงทะเบียนไว้ ซึ่งการนำรถเข้าตรวจสอบ เปลี่ยนชิ้นส่วน แก้ไขข้อบกพร่องนั้น เราจำเป็นต้องมีหนังสือเชิญจากทางบริษัทด้วย..อันนี้สำคัญมาก*** จำไว้ว่าต้องมีจดหมายไปด้วย แต่ถ้าคุณไม่ได้รับจดหมาย แต่มั่นใจว่ารถอยู่ในรุ่นที่โดนเรียกคืนแน่ ให้ติดต่อบริษัทได้เลย

5.สอบถามไปยังโชว์รูมใกล้บ้าน เมื่อได้จดหมายแล้ว สิ่งสำคัญต่อไปคือเราต้องรู้ว่าการตรวจสอบ แก้ไขข้อบกพร่องนั้นๆ จะใช้เวลานานเท่าใด ด้วย ซึ่งสามารถโทรไปสอบถามได้ที่ศูนย์บริการใกล้บ้าน ว่าจะใช้ระยะเวลานานเท่าใด ในบางกรณี อาจต้องบุ๊คคิวไว้ก็เป็นไปได้

6.แจ้งเข้ารับบริการและตรวจสอบหลังเสร็จสิ้น หลังจากที่เราได้ศึกษาและเตรียมทุกอย่างไว้แล้ว ก็ได้เวลาที่เราจะต้องนำรถสุดที่รักเข้าไปรับบริการจากทีมช่าง ที่เขาจะจัดการให้ตามการแจ้งรีคอล ซึ่งในการนี้สิ่งสำคัญเมื่อซ่อมเสร็จคือการเก็บใบรับรถและใบเสร็จที่จะ ต้องออกให้เมื่อรับบริการ เก็บไว้จนกว่าจะพ้นระยะประกันชิ้นส่วนนั้นๆ แล้วจงทำตามคำแนะนำของทีมช่างเพื่อขจัดปัญหาที่อาจตามมาได้ในอนาคต

7.กลับไปตรวจสอบ ข้อนี้หลายคนมักลืม และคิดว่าทำแล้วทำเลย บางครั้งมันไม่เป็นอย่างนั้น โดยเฉพาะ เมื่อคุณเจอปัญหาทางด้านกลไกเครื่องยนต์ จงจำไว้ว่าเมื่อเรานำรถเข้าไปตรวจรับบริการ เมื่อใช้ไปสักระยะแล้วควรนำรถกลับเข้าไปตรวจสอบด้วยว่า การแก้ไขที่เกิดขึ้นนั้นสมบูรณ์หรือไม่ และหากคุณพบข้อบกพร่องหลังจากรับบริการควรรีบกลับไปหาทีมช่างทันทีอย่ารอช้า เพราะอาจเกิความเสียหายได้

เพียง 7 ขั้นตอนง่ายๆนี้ รีคอลก็กลายเป็นเรื่องสิวๆที่เราไม่ต้องกังวล แต่กลับเป็นการดีที่รถเราได้รับการดูแลจากผู้ผลิตโดยตรง ซึ่งเราหวังว่าปัญหาของ honda นี้จะจบลงด้วยดี และจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดีทั้งผู้ใช้และผู้ผลิต

ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

ที่มา sanook.com