วิธีดูแลรถในหน้าร้อน จะได้ประหยัดค่าใช้จ่ายและการบำรุงรักษา


1,004 ผู้ชม

หน้าฝนอย่างนี้ทำไมไม่หาบทความดูแลรถในหน้าฝนล่ะ ก็เพราะว่าฝนมันตกไม่กี่วันเดี๋ยวมันก็ร้อนเหมือนเดิมน่ะสิครับ ยิ่งในสภาพอากาศบ้านเราที่ร้อนอบอ้าวอย่างนี้ เครื่องยนต์รถของท่านจะต้องทำงานหนักมากขึ้นเกิดความร้อนสูงขึ้น บางครั้งอาจทำให้เครื่องเกิดการ overheat ได้


วิธีดูแลรถในหน้าร้อน??!!

หน้าฝนอย่างนี้ทำไมไม่หาบทความดูแลรถในหน้าฝนล่ะ ก็เพราะว่าฝนมันตกไม่กี่วันเดี๋ยวมันก็ร้อนเหมือนเดิมน่ะสิครับ ยิ่งในสภาพอากาศบ้านเราที่ร้อนอบอ้าวอย่างนี้ เครื่องยนต์รถของท่านจะต้องทำงานหนักมากขึ้นเกิดความร้อนสูงขึ้น บางครั้งอาจทำให้เครื่องเกิดการ overheat ได้ ซึ่งอาจนำไปสู่การทำให้เครื่องยนต์เสียหาย วันนี้ขอเสนอวิธีการดูแลรถและเตรียมตัวก่อนเข้าถึงฤดูร้อนที่ใกล้มาถึง เพื่อที่จะไม่ต้องอารมณ์เสียเวลารถตายกลางทาง....
เรามาทำความรู้จักกับระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์กันก่อน ซึ่งมีอยู่ 2 รูป แบบด้วยกันคือ ระบบบายความร้อนด้วยอากาศ และระบบระบายความร้อนด้วยน้ำหล่อเย็น ระบบระบายความร้อนด้วยอากาศเป็นระบบระบายความร้อนที่ใช้อยู่ในจักรยานยนต์ และในเครื่องยนต์เกษตร การระบายความร้อนแบบนี้จะให้แรงลมภายนอกมาปะทะเข้ากับครับระบายความร้อนที่ ติดอยู่กับเสื้อสูบ ด้วยอากาศภายนอกที่ร้อนมากยิ่งขึ้น (30-40) องศา ทำให้ระบบระบายแบบนี้มักมีปัญหามาก ทำให้ปะเก็นต่างๆของเครื่องยนต์เสื่อมสภาพเร็ว และอายุการใช้งานของเครื่องยนต์สั้นลง
การ ดูแลรักษาเครื่องยนต์ที่ใช้ระบบระบายความร้อนด้วยอากาศ ควรมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องยนต์อย่างสม่ำเสมอ น้ำมันเครื่องที่ใช้หล่อลื่นเครื่องยนต์ควรเป็นน้ำมันเครื่องแบบสังเคราะห์ 100 % เพื่อ การหล่อลื่นที่ดีและช่วยระบายความร้อนของเครื่องยนต์ได้ดี ถ้าเครื่องยนต์มีพอร์ตที่สามารถติดตั้งชุดออยล์คูลเลอร์ควรที่จะทำการติด ตั้งชุดออยล์เพิ่มเติมเพื่อการระบายความร้อนของน้ำมันเครื่อง ช่วยให้เครื่องยนต์มีการระบายความร้อนได้ดียิ่งขึ้น
ใน ส่วนของระบบระบายความร้อนด้วยน้ำหล่อเย็น เป็นระบบระบายความร้อนที่ใช้อยู่ในเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ ซึ่งก็คือรถยนต์ทั่วไปก็ใช้ระบบระบายความร้อนในรูปแบบน้ำหล่อเย็นเช่นกัน จุดเด่นของระบบนี้อยู่ที่มีการหมุนเวียนน้ำหล่อเย็นเข้าไปในส่วนต่างๆของ เครื่องยนต์เพื่อลดความร้อน
ด้วย ประสิทธิภาพการระบายความร้อนที่ดีของระบบระบายความร้อนแบบน้ำหล่อเย็นไป พัฒนาใช้กับรถจักรยานยนต์เพิ่มมากขึ้น ซึ่งระบบนี้เป็นระบบราบายความร้อนที่มีชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่ต้องทำงานร่วมกัน อยู่หลายชิ่นส่วน คือ หม้อน้ำ, พัดลมระบายความร้อน, ปั๊มน้ำ, ท่อ น้ำ และวาล์วน้ำ ซึ่งแต่ละชิ้นส่วน มีการทำงานร่วมกันเป็นอย่างดี ฉะนั้นการดูแลรักษาระบบระบายความร้อนเครื่องยนต์แบบน้ำหล่อเย็นจึงต้องมีการ ดูแลรักษาชิ้นส่วนอุปกรณ์ให้มีความสมบูรณ์ในทุกส่วน
สิ่ง แรกที่ต้องดูแลรักษาคือ หม้อน้ำ จะติดตั้งอยู่กับเครื่องยนต์ทำหน้าที่ระบายความร้อนของน้ำหล่อเย็นที่ออกมา จากเครื่องยนต์ ซึ่งการระบายความร้อนของน้ำหล่อเย็นด้วยพัดลมระบายความร้อนที่ติดตั้งอยู่ กับหม้อน้ำ ทำการดูดอากาศเย็นจากด้านหน้ารถยนต์เข้ามาผ่านแผงรังผึ้งหม้อน้ำเพื่อให้น้ำ หล่อเย็นมีอุณหภูมิลดลง แล้งส่งน้ำหล่อเย็นกลับสู่เครื่องยนต์เพื่อระบายความร้อนเครื่องยนต์อีก ครั้ง การดูแลรักษาหม้อน้ำให้มีประสิทธิภาพในการระบายความร้อนได้ดีควรมีการตรวจ เช็คปริมาณน้ำในหม้อน้ำอย่างสม่ำเสมอ ถ้าน้ำหล่อเย็นในหม้อน้ำมีสนิมก็ควรที่จะทำการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันหล่อเย็น ใหม่ เพื่อการระบายความร้อนที่ดียิ่งขึ้น (น้ำหล่อเย็นที่สนิมปนเปื้อน จะให้การระบายความร้อนของเครื่องยนต์ไม่ดีพอ เพราะผลสนิมจะเป็นสื่อนำความร้อนที่เพิ่มมากขึ้น และยังจะทำให้รูน้ำภายในเครื่องยนต์เกิดการอุดตันได้)
การ เปลี่ยนถ่ายน้ำหล่อเย็นเครื่องยนต์ สามารถทำได้โดยการคลายน๊อตใต้หม้อน้ำ ปล่อยน้ำหม้อน้ำทิ้ง เติมน้ำเข้าสู่หม้อน้ำด้านบนให้เท่ากับปริมาณน้ำที่ออกจากหม้อน้ำแล้ทำ การสตาร์ทเครื่องยนต์ให้เกิดน้ำหมุนเวียนไล่สนิมที่ตกค้างอยู่ภายในเครื่อง ยนต์และหม้อน่ำออกจนหมด แล้วค่อยทำการปิดน๊อตด้านล่างหม้อน้ำให้แน่น ทำการเติมน้ำหล่อเย็นใหม่ให้เต็ม ทำการติดเครื่องยนต์อีกครั้งเพื่อไล่อากาศที่อยู่ในระบบออกให้หมด ทำการเติมน้ำให้เต็มอีกครั้งก็เป็นอันเสร็จสิ้นการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันหล่อ เย็น สำหรับรถที่มีหม้อพักน้ำเย็นก็ควรที่จะทำการล้างหม้อพักน้ำเย็นด้วย ภายนอกของหม้อน้ำก็ควรทำความสะอาดเช่นกันโดย ทำการล้างน้ำฉีดแผงรังผึ้งหม้อน้ำให้สะอาด เพื่อล้างฝุ่นหรือสิ่งสกปรกที่มาเกาะอยู่แผงรังผึ้งเพื่อให้อากาศไหลเวียน ได้ดี จะทำให้การระบายความร้อนทำได้ดียิ่งขึ้น แต่การฉีดน้ำล้างแผงรังผึ้งไม่ควรฉีดน้ำแรงมากๆ เพราะจะทำให้ครีบของแผงรังผึ้งบิดพับ อากาศจะไหลผ่านไม่สะดวก
สิ่ง ที่สองคือ พัดลมระบายความร้อนเครื่องยนต์ พัดลมระบายความร้อนที่ใช้จะเป็นระบบดูด โดยดูดอากาศจากภายนอกห้องเครื่องยนต์ผ่านแผงรังผึ้งเข้ามาเป่าระบายความร้อน ของเครื่องยนต์ มีอยู่ 2 แบบคือ พัดลมไฟฟ้า และพัดลมใช้กำลังเครื่องยนต์ ซึ่งแบบไฟฟ้านั้นเป็นการระบายความร้อนที่รับการควบคุมการทำงานด้วยชุด เซ็นเซอร์ตรวจจับความร้อน เมื่อเครื่องยนต์มีค่าความร้อน 80-90 องศา ระบบเซ็นเซอร์จะสั่งการให้พัดลมระบายความร้อนทำงาน ซึ่งแตกต่างกับพัดลมแบบใช้กำลังเครื่องยนต์ ที่มีการทำงานอยู่ตลอดเวลาตั้งแต่เครื่องยนต์สตาร์ท จนเครื่องดับ การดูแลรักษาควรมีการตรวจเช็คอย่างสม่ำเสมอ ถ้าพัดลมไฟฟ้า มีการหมุนในความเร็วรอบที่น้อยลง หรือแรงลมระบายความร้อนเบากว่าเดิมก็ควรเปลี่ยนพัดลมใหม่ ส่วนการดูแลพัดลมที่ใช้กำลังจากเครื่องยนต์ ควรมีการตรวจเช็คความหนืดของใบพัด ถ้ามีการหนืดน้อยควรจะเติมซิลิโคนเข้าไปในชุดปั้มพัดลมเพิ่ม (การ เติมซิลิโคนไม่ควรเติมมากเพราะจะทำให้พัดลมมีการดูดอากาศเข้าสู่เครื่องยนต์ ในปริมาณที่มากทำให้เกิดเสียงดัง และยังทำให้รถมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มขึ้น
สิ่ง ที่สาม คือ ชุดปั้มน้ำ และวาล์วน้ำ ด้วยระบบระบายความร้อนเครื่องยนต์ต้องมีการหมุนเวียนน้ำหล่อเย็นไปยังส่วน ต่างๆของเครื่องยนต์ และส่งน้ำหล่อเย็นเข้าไปยังหม้อน้ำเพื่อระบายความร้อนของน้ำหล่อเย็นแล้วส่ง กลับมาเข้าสู่เครื่องยนต์อีกครั้ง เพื่อทำการระบายความร้อนของเครื่องยนต์ สิ่งที่ทำหน้าที่เหมือนประตูปิดเปิดให้ปริมาณน้ำหล่อเย็นเข้าสู่เครื่องคือ ชุดวาล์วน้ำ เมื่อเครื่องยนต์มีค่าความร้อนน้อย วาล์วก็จะปิดให้น้ำหล่อเย็นไหลผ่านในปริมาณน้อย เพื่อรักษาอุณหภูมิของเครื่องยนต์ให้มีการเผาไหม้ที่ดี ถ้าเครื่องยนต์มีค่าความร้อนสูง ชุดวาล์วน้ำก็จะทำการเปิดให้น้ำหล่อเย็นไหลเข้าสู่เครื่องยนต์ในปริมาณมากๆ เพื่อการระบายความร้อนที่ดียิ่งขึ้น การดูแลรักษาชุดวาล์วน้ำควรทำการเปลี่ยนปีละ 1 ครั้ง เพื่อป้องกันปัญหาของอาการวาล์วน้ำตาย อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องทำควบคู่ไปกับการทำงานของชุดวาล์วน้ำ นั้นคือชุดปั๊มน้ำ จะทำหน้าที่ปั้มน้ำที่ได้รับการระบายความร้อนจากหม้อน้ำเข้าสู่เครื่องยนต์ และผลักดันไล่น้ำหล่อเย็นที่มีค่าความร้อนสูงกลับเข้าไปสู่หม้อเพื่อทำการ ระบายความร้อนด้วยหม้อน้ำอีกครั้ง การชำรุดเสียหายของชุดปั๊มน้ำมักเกิดจาก อายุการใช้งานที่ยาวนาน ทำให้ชุดซีลต่างๆ เกิดการฉีกขาดหรือสึกกร่อน ทำให้เกิด การรั่วซึมของชุดปั๊มน้ำ การดูแลรักษาควรทำการเปลี่ยนชุดปั๊มน้ำใหม่ เพื่อให้ปั๊มน้ำเข้าสู่เครื่องยนต์ได้ดียิ่งขึ้น (สำหรับท่านที่มีทุนทรัพย์น้อยต้องการ ซ่อมปั๊มน้ำ ไม่ขอแนะนำครับ ไม่คุ้มกับค่าเงินที่เสียไป ใช้ได้ประมาณ 3 เดือนก็รั่วซึมอีกครับ)
สำหรับ สิ่งสุดท้าย คือ สายพานและท่อยาง ด้วยการทำงานของชุดปั๊มน้ำหล่อเย็นมีการทำงานด้วยการรับแรงฉุดของเครื่อง ยนต์ที่ส่งผ่านสายพานมายังชุดปั๊มน้ำเพื่อทำการปั๊มน้ำส่งน้ำหล่อเย็นเข้าไป ยังส่วนต่างๆของเครื่องยนต์ เพื่อระบายความร้อนของเครื่องยนต์ ฉะนั้นการดูแลรักษา ควรทำการปรับตั้งสายพานให้ตึง เพื่อการส่งถ่ายกำลังเครื่องยนต์ไปยังชุดปั๊มน้ำได้ดียิ่งขึ้น ถ้าสายพานมีรอยแตกร้าวฉีกขาด ก็ควรที่จะเปลี่ยนสายพานใหม่ทันที และนอกจากสายพานที่ต้องให้การดูแลแล้วยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องให้ความสำคัญ เช่นกันคือ ชุดท่อยาง ด้วยระบบระบายความร้อนเครื่องยนต์มีชุดท่อยางต่างๆมาก การดูแลรักษาชุดท่อยางควรที่จะตรวจท่อยางต่างๆว่ามีรอยแตกร้าวหรือไม่ ถ้ามีควรที่จะทำการเปลี่ยน และตรวจเช็คเข็มขัดรัดท่อยางหให้แน่นทุกจุด
เพียงท่านดูแลรักษาระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์ได้ครบทั้ง 4 ข้อที่กล่าวมา ก็จะทำให้ท่านขับขี่รถยนต์ท่องเที่ยวไปได้อย่างสบายใจ ไม่มีปัญหาเรื่องความร้อนอย่างแน่นอนครับ

ที่มา  www.vcharkarn.com

อัพเดทล่าสุด