โรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะในเด็ก (Obstructive Sleep Apnea) โรคติดเชื้อของระบบทางเดินปัสสาวะในเด็ก แบ่งตามตำแหน่งของการติดเชื้อ แบ่งออกเป็น 2 โรค คือ 1. โรคกรวยไตอักเสบ ในเด็กจะมีไข้สูง ปวดบั้นเอว ปัสสาวะขุ่น ปัสสาวะแสบขัด คลื่นไส้ อาเจียน แต่อาการในเด็กเล็กไม่จำเพาะ อาจมีไข้สูง ร้องกวน ดูดนมน้อยลง เด็กเล็กควรได้รับการตรวจปัสสาวะ ทุกครั้ง เมื่อมีไข้โดยตรวจร่างกายไม่พบความผิดปกติ 2. โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ มีอาการปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะบ่อย ครั้งละน้อยๆ กลั้นปัสสาวะ ไม่ได้ ปัสสาวะขุ่น บางครั้งอาจมีเลือดปน เด็กบางคนมีปัสสาวะรดที่นอนเกิดขึ้นใหม่ หลังจากที่เคย ควบคุมการขับถ่ายได้แล้ว การวินิจฉัย ทำได้โดยการตรวจปัสสาวะและเพาะเชื้อปัสสาวะ จะพบเม็ดเลือดขาว หรือเชื้อแบคทีเรียในปัสสาวะ การนำปัสสาวะไปเพาะเชื้อจะบอกชนิดของแบคทีเรียที่ก่อโรค และตรวจการตอบสนองของเชื้อต่อยาปฏิชีวนะ เนื่องจากการติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ อาจเป็นอาการนำที่บ่งบอกถึงความผิดปกติแต่กำเนิด ของไต และทางเดินปัสสาวะ ดังนั้น ในเด็กที่เป็นกรวยไตอักเสบทุกราย หรือเด็กเล็กที่เป็นกระเพาะ ปัสสาวะอักเสบ หรือมีการติดเชื้อซ้ำ ควรได้รับการตรวจพิเศษเพิ่มเติม ได้แก่ การตรวจอุลตราซาวน์ การใส่สายสวนเพื่อตรวจหาภาวะปัสสาวะไหลย้อนกลับ การสแกนไต (DMSA scan) เพื่อตรวจหา แผลเป็นที่ไต เป็นต้น การรักษา สามารถรักษาด้วยการใช้ยาปฏิชีวนะ ถ้าเด็กทานยาไม่ได้ หรือมีอาการขาดน้ำ ควรรับการรักษาในโรงพยาบาล เพื่อให้ยาปฏิชีวนะในหลอดเลือดดำ ระยะเวลาที่ให้ยา 10-14 วันในโรคกรวยไตอักเสบ แต่ถ้าเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ใช้เวลาในการรักษา สั้นกว่า คือประมาณ 5-7 วัน วิธีปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันการติดเชื้อของระบบทางเดินปัสสาวะ - การทำความสะอาดหลังการขับถ่าย ควรเช็ดทำความสะอาดจากหน้าไปหลัง เชื้อแบคทีเรียที่อยู่ใน อุจจาระ เป็นตัวก่อโรคที่สำคัญของโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ - ดื่มน้ำมากๆและปัสสาวะให้เป็นเวลา ในเด็กควรปัสสาวะทุก 3-4 ชั่วโมง และก่อนนอนไม่กลั้นปัสสาวะ ปัสสาวะที่ค้างนานๆ ในกระเพาะปัสสาวะ เป็นอาหารที่ดีของเชื้อแบคทีเรีย - หลีกเลี่ยงท้องผูก ฝึกการถ่ายอุจจาระให้เป็นเวลาทุกวัน - หลีกเลี่ยงการระคายเคืองที่เกิดขึ้นบริเวณท่อปัสสาวะ เช่น การใส่กางเกงที่รัดมากๆ การใส่สบู่เหลวลงไป ในอ่างอาบน้ำ เป็นต้น |