ฮือฮา! เด็กติดเกมส์ แม่แจ้งจับลูก วัย 13 ขโมยของ หวังช่วยดัดนิสัย
สุดทน! แม่แจ้งจับลูกวัย 13 ขโมยของเล่นเกมกว่า 50 ครั้ง
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เรื่องเล่าเช้านี้
แม่สุดทน แจ้งตำรวจจับลูกชายวัย 13 ติดเกมหนัก ขโมยของทุกอย่างในละแวกบ้านทุกหลังกว่า 50 ครั้ง หวังพึ่งสถานพินิจช่วยดัดนิสัย
เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2555 เวลา 10.00 น.เจ้า หน้าที่ตำรวจสภ.เมืองพิษณุโลก ได้รับแจ้งเหตุจาก นางขวัญเรือน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี ให้มาจับลูกชายตนเอง เพื่อให้ตำรวจดำเนินคดี หลังลูกชายวัย 13 ปี ก่อเหตุลักทรัพย์ชาวบ้านละแวก ต.บ้านคลอง อ.เมืองพิษณุโลก มาแล้วร่วม 50 ครั้ง และ ล่าสุดเด็กชายคนนี้ได้แอบขึ้นบ้านนายประสิทธิ์ อาสาขันธ์ อายุ 55 ปี ใน ต.บ้านคลอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก และขโมยแป้ง น้ำปลา กระติกน้ำแข็ง มูลค่าประมาณ 50 บาท
จากการสอบถาม นางขวัญเรือน แม่ของเด็กชายดังกล่าว เปิดเผยว่า ตนแยกทางกับสามีแล้ว มีลูกชายสองคน ลูกชายคนเล็กวัย 7 ขวบ อยู่กับสามี ส่วนคนโตวัย 13 ปี อยู่กับตนเอง เรียนจบแค่ชั้น ป.5 เพราะโดนไล่ออก ตอนนี้ก็อยู่บ้านเฉย ๆ ตนมีอาชีพรับจ้างทั่วไป ได้ค่าจ้างวันละ 200 บาท และทุก ๆ วัน ก็ต้องออกรับจ้างเพื่อหาเงิน ส่วนลูกชายก็มีนิสัยชอบไปขโมย ทรัพย์สินของชาวบ้าน และของพระในวัดละแวกนั้น ที่ผ่านมาก่อเหตุมาแล้วร่วม 50 ครั้ง แถวบ้านขึ้นมาแล้วทุกหลัง ขโมยทุกอย่าง ไม่เอาของใหญ่ ถ้าได้พระเครื่องจะเอาไปขายทหาร ส่วนถ้าได้ของกินก็จะไปขายร้านค้า ตนเคยแจ้งตำรวจมาจับหลายครั้งแล้ว แต่ตำรวจไม่อยากให้ดำเนินคดีจึงไม่จับ เขาจึงก่อเหตุลักทรัพย์มาเรื่อย ๆ เมื่อขโมยของมาได้ก็นำไปขายเอาเงินไปเล่นเกม ทั้งนี้ เมื่อ 15 ปีก่อน ตนก็เคยอยู่ในสถานพินิจมาแล้ว จึงเชื่อว่าจะช่วยอบรมสั่งสอนคนที่เคยทำผิดได้ จึงตัดสินใจให้ตำรวจดำเนินคดีกับลูก
ด้าน พ.ต.ท.สุทิน ชวนชม พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก ได้บอกนางขวัญเรือน ผู้เป็นแม่ของเด็กชายดังกล่าวที่นำลูกมาให้ตำรวจดำเนินคดีว่า ให้คิดดูดี ๆ เนื่องจากผู้ก่อเหตุเป็นเพียงเด็กและก่อเหตุขโมยทรัพย์สินมูลค่าไม่มากนัก ขณะที่เจ้าทุกข์ก็ไม่อยากเอาความ แต่ทั้งนี้ นางขวัญเรือน แม่ของเด็กชายยังยืนกรานกับพนักงานสอบสวนว่า ให้ตำรวจดำเนินคดีกับลูกชาย เนื่องจากทนกับพฤติกรรมของลูกชายที่ก่อเหตุลักทรัพย์ชาวบ้านบ่อยครั้งไม่ไหว และอยากให้อยู่ในความควบคุมของสถานพินิจ เพื่อจะอบรมสั่งสอนลูกชายให้รู้จักผิดชอบชั่วดีบ้าง อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ทำประวัติเด็ก และส่งตัวดำเนินคดีกับศาลเยาวชนต่อไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก