รู้จัก...โรคถูกสาปหรือ Congenital Central Hypoventilation Syndrome หรือ Ondine’s Curse


2,041 ผู้ชม


โรคถูกสาป หรือ Congenital Central Hypoventilation Syndrome หรือ Ondine’s Curse เป็นโรคที่เวลานอนจะไม่หายใจ แต่เวลาตื่นก็หายใจได้ตามปกติ โดยสมองของผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้จะทำงานผิดปกติ   


รู้จัก...โรคถูกสาปหรือ Congenital Central Hypoventilation Syndrome หรือ Ondine’s Curse

รู้จัก...โรคถูกสาปหรือ Congenital Central Hypoventilation Syndrome หรือ Ondine’s Curse

ภาพจากกระปุกดอทคอม


หลังข่าวของ ด.ญ.ฐิติญาพร วัตรเยื้อง หรือน้องออมทรัพย์ หนูน้อยวัย 2 ขวบ และ ด.ญ.มินตรา คำมูล หรือน้องมิ้นต์ ที่ป่วยเป็นโรคประหลาดต้องพึ่งเครื่องช่วยหายใจในโรงพยาบาล โดยไม่เคยได้กลับบ้านเลย นั่นคือ "โรคถูกสาป" ได้เผยแพร่ออกไป ทำให้หลายคนงงๆ เพราะไม่รู้ว่าโรคนี้คือโรคอะไร วันนี้กระปุกดอทคอมจะพาไปทำความรู้จักกับ "โรคถูกสาป" นี้กันค่ะ...

            โรคถูกสาป หรือ Congenital Central Hypoventilation Syndrome หรือ Ondine’s Curse เป็นโรคที่เวลานอนจะไม่หายใจ แต่เวลาตื่นก็หายใจได้ตามปกติ โดยสมองของผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้จะทำงานผิดปกติ คือเวลาคนทั่วไปนอนหลับ ศูนย์ควบคุมการหายใจที่สมองจะส่งคำสั่งมาที่หลอดลมและกระบังลม แต่กรณีผู้ป่วยโรคนี้สมองจะไม่ยอมสั่งการเวลานอนหลับ จึงจำเป็นต้องใส่เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลาในการนอน และตลอดทั้งชีวิต ทั้งนี้ โรคถูกสาปไม่ค่อยปรากฎผู้ป่วยด้วยโรคนี้นัก ตามข้อมูลระบุ ทั้งโลกมีคนเป็นไม่เกิน 500 คน ส่วนใหญ่เป็นมาแต่กำเนิด และโอกาสหายมีน้อย

สำหรับสาเหตุของโรคยังไม่ทราบแน่ชัด ส่วนใหญ่เกิดการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม ซึ่งในช่วงแรกสามารถสังเกตอาการของเด็กเป็นโรคถูกสาปได้คือ เวลาร้องตัวจะแดงจัด เวลานอนตัวจะเขียว เนื่องจากหายใจไม่ออก ดังนั้น การหลับนอนจึงจำเป็นต้องอยู่ที่โรงพยาบาลตลอด เพื่อใช้เครื่องช่วยหายใจ และป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อโรค  
         
 คุณนนทิญา อินต๊ะ แม่น้องออมทรัพย์ หรือ ด.ญฐิติญาพร  วัตรเยื้อง  เล่าให้ฟังว่า ลูกของเธอเกิดวันที่  26  กันยายน  พ.ศ 2549  ปัจจุบันอายุ  2 ปี  5  เดือน น้องออมทรัพย์คลอดที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ โดยในวันแรกที่คลอด  แพทย์พบอาการผิดปกติในเรื่องระบบการหายใจ  จึงส่งตัวให้ทางคณะแพทย์โรงพยาบาลจุฬาฯ หาสาเหตุอาการป่วย  และท้ายที่สุดแพทย์ได้สรุปว่า น้องออมทรัพย์ป่วยด้วยโรคถูกสาป คือ การสั่งการของสมองมีการแลกเปลี่ยนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และออกซิเจนผิดปกติ ทำให้มีผลต่อการพัฒนาสมองและอาจทำให้หยุดการหายใจได้ ซึ่งจะมีอาการเฉพาะเวลาที่นอนหลับเท่านั้น  เวลาที่ตื่นก็จะปกติทุกอย่าง  

          "ทั้งตัวเองและสามีไม่เคยได้ยินชื่อโรคนี้มาก่อนเลย เราเสียใจร้องไห้อยู่นาน คิดวนเวียนแต่ว่าเราไปทำบาปกรรมอะไรไว้ถึงได้มาตกกับลูก ลูกต้องถูกเจาะคอและเจาะหน้าท้องเพื่อให้นมทางสายยาง แรกๆ เครียดมาก แต่พอได้อยู่กับลูกที่โรงพยาบาล ได้เห็นเตียงข้างๆ เขาเกิดมาแล้วเป็นมะเร็งเลย แล้วก็มีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน เด็กบางคนนอนอยู่บนเตียงมีเครื่องช่วยชีวิตระโยงระยางเต็มไปหมด แต่พ่อแม่เขายังสู้ เลยหันกับมาฮึดสู้เพื่อลูกบ้าง" คุณแม่น้องออมทรัพย์ กล่าว 
          ปัจจุบันน้องออมทรัพย์ไม่เคยได้กลับบ้าน เนื่องจากจำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจในเวลานอน  ทั้งนี้ แพทย์แจ้งว่าทางพ่อและแม่สามารถพาน้องกลับบ้านได้ แต่จะต้องมีเครื่องช่วยหายใจกลับไปด้วย  ซึ่งเครื่องช่วยหายใจที่ว่านี้ ต้องสั่งซื้อจากต่างประเทศ ราคาเครื่องละประมาณ  500,000  บาท นับเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงเกินกว่าครอบครัวจะรับไหว คุณแม่น้องออมทรัพย์จึงตัดสินใจเขียนจดหมายส่งไปยังหน่วยงานต่างๆ เพื่อขอความช่วยเหลือ พร้อมๆ กับการช่วยเหลืออีกแรงจากทีมแพทย์ 
          "เงิน 500,000 แสนบาท มันเป็นเงินที่เยอะมากๆ สำหรับครอบครัวเรา ตัวเราเองก็พยายามวิ่ง ติดต่อทุกทางไปติดต่อที่ อบต.จังหวัด เขาก็บอกว่าตอนนี้ยังไม่มีงบประมาณเร่งด่วน ถ้าครอบครัวเราจะทำสัญญาผ่อนเงินจำนวนนี้จะไหวไหม   เราก็เอากลับมาคิดตอนนี้ทั้งตัวเองและสามีก็พยายามหาทางเต็มที่ เราก็หวังว่าวันหนึ่ง ลูกจะได้กลับไปอยู่บ้าน ได้อยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูก ตอนนี้ก็พยายามไม่ร้องไห้ แต่อาจมีบ้างตอนคิดถึงลูกแล้วมาเยี่ยมไม่ได้"
 
       
   ต่อมา เรื่องราวของน้องออมทรัพย์ได้รับการตีแผ่ผ่านรายการเรื่องจริงผ่านจอ ทำให้เกิดการรับรู้ในวงกว้าง ล่าสุด ปรากฏว่า มีผู้ใจบุญบริจาคเงินเข้ามามากเกิน 5 แสนบาทแล้ว ซึ่งเพียงพอสำหรับเครื่องช่วยหายใจ 1 เครื่อง โดยทีมแพทย์วิเคราะห์แล้วเห็นว่าจะให้กับน้องออมทรัพย์ก่อน เนื่องจากทางครอบครัวมีความพร้อมมากกว่า        
          ด้าน รศ.พญ.นวลจันทร์ ปราบพาล หน่วยโรคระบบหายใจ ภาควิชา กุมารเวชศาสตร์ โรงพยาบาล จุฬาลงกรณ์ ระบุว่า ในเมืองไทยมีผู้ป่วยด้วยโรคถูกสาปทั้งหมด 3 ราย คนไข้เคสแรกในเมืองไทย ชื่อ ข้าวปุ้น ปัจจุบันอายุ 18 ปีแล้ว  พ่อและแม่เขาค่อนข้างมีฐานะเลยสามารถซื้อเครื่องช่วยหายใจได้ ทุกวันนี้ เขาก็ใช้ชีวิตเหมือนคนปกติ ส่วนอีกคนคือ ชื่อน้องมิ้นต์ ด.ญ.มินตรา คำมูล อายุ 3 ขวบครึ่ง นอนอยู่เตียงใ

กล้กับน้องออมทรัพย์  
          "ปกติเด็กเหล่านี้ เราต้องให้เขาอยู่โรงพยาบาลถึง 3 ขวบ แต่น้องออมทรัพย์พัฒนาการค่อนข้างเร็วเลยคิดว่าเขาน่าจะกลับไปอยู่บ้านได้ก่อน 3 ขวบ แต่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจสำหรับเด็กโดยเฉพาะ สามารถใช้งานได้นาน 5 ปี ซึ่งของเด็กจะราคาแพงกว่าเด็กโตหรือของผู้ใหญ่ แต่หากน้องโตแล้วก็สามารถเปลี่ยนเป็นการผ่าตัดที่กระบังลมใส่เครื่องกระตุ้นกระบังลมในการหายใจให้ดีขึ้นได้ แต่ก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงเช่นกัน" คุณหมอ  กล่าว
 
        
  อย่างไรก็ตาม น้องมิ้นต์ ด.ญ.มินตรา คำมูล ยังคงต้องนอนสำหรับสาเหตุของโรคยังไม่ทราบแน่ชัด ส่วนใหญ่เกิดการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม ซึ่งในช่วงแรกสามารถสังเกตอาการของเด็กเป็นโรคถูกสาปได้คือ เวลาร้องตัวจะแดงจัด เวลานอนตัวจะเขียว เนื่องจากหายใจไม่ออก ดังนั้น การหลับนอนจึงจำเป็นต้องอยู่ที่โรงพยาบาลตลอด เพื่อใช้เครื่องช่วยหายใจ และป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อโรค  
         
 คุณนนทิญา อินต๊ะ แม่น้องออมทรัพย์ หรือ ด.ญฐิติญาพร  วัตรเยื้อง  เล่าให้ฟังว่า ลูกของเธอเกิดวันที่  26  กันยายน  พ.ศ 2549  ปัจจุบันอายุ  2 ปี  5  เดือน น้องออมทรัพย์คลอดที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ โดยในวันแรกที่คลอด  แพทย์พบอาการผิดปกติในเรื่องระบบการหายใจ  จึงส่งตัวให้ทางคณะแพทย์โรงพยาบาลจุฬาฯ หาสาเหตุอาการป่วย  และท้ายที่สุดแพทย์ได้สรุปว่า น้องออมทรัพย์ป่วยด้วยโรคถูกสาป คือ การสั่งการของสมองมีการแลกเปลี่ยนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และออกซิเจนผิดปกติ ทำให้มีผลต่อการพัฒนาสมองและอาจทำให้หยุดการหายใจได้ ซึ่งจะมีอาการเฉพาะเวลาที่นอนหลับเท่านั้น  เวลาที่ตื่นก็จะปกติทุกอย่าง  

          "ทั้งตัวเองและสามีไม่เคยได้ยินชื่อโรคนี้มาก่อนเลย เราเสียใจร้องไห้อยู่นาน คิดวนเวียนแต่ว่าเราไปทำบาปกรรมอะไรไว้ถึงได้มาตกกับลูก ลูกต้องถูกเจาะคอและเจาะหน้าท้องเพื่อให้นมทางสายยาง แรกๆ เครียดมาก แต่พอได้อยู่กับลูกที่โรงพยาบาล ได้เห็นเตียงข้างๆ เขาเกิดมาแล้วเป็นมะเร็งเลย แล้วก็มีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน เด็กบางคนนอนอยู่บนเตียงมีเครื่องช่วยชีวิตระโยงระยางเต็มไปหมด แต่พ่อแม่เขายังสู้ เลยหันกับมาฮึดสู้เพื่อลูกบ้าง" คุณแม่น้องออมทรัพย์ กล่าว 
          ปัจจุบันน้องออมทรัพย์ไม่เคยได้กลับบ้าน เนื่องจากจำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจในเวลานอน  ทั้งนี้ แพทย์แจ้งว่าทางพ่อและแม่สามารถพาน้องกลับบ้านได้ แต่จะต้องมีเครื่องช่วยหายใจกลับไปด้วย  ซึ่งเครื่องช่วยหายใจที่ว่านี้ ต้องสั่งซื้อจากต่างประเทศ ราคาเครื่องละประมาณ  500,000  บาท นับเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงเกินกว่าครอบครัวจะรับไหว คุณแม่น้องออมทรัพย์จึงตัดสินใจเขียนจดหมายส่งไปยังหน่วยงานต่างๆ เพื่อขอความช่วยเหลือ พร้อมๆ กับการช่วยเหลืออีกแรงจากทีมแพทย์ 
          "เงิน 500,000 แสนบาท มันเป็นเงินที่เยอะมากๆ สำหรับครอบครัวเรา ตัวเราเองก็พยายามวิ่ง ติดต่อทุกทางไปติดต่อที่ อบต.จังหวัด เขาก็บอกว่าตอนนี้ยังไม่มีงบประมาณเร่งด่วน ถ้าครอบครัวเราจะทำสัญญาผ่อนเงินจำนวนนี้จะไหวไหม   เราก็เอากลับมาคิดตอนนี้ทั้งตัวเองและสามีก็พยายามหาทางเต็มที่ เราก็หวังว่าวันหนึ่ง ลูกจะได้กลับไปอยู่บ้าน ได้อยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูก ตอนนี้ก็พยายามไม่ร้องไห้ แต่อาจมีบ้างตอนคิดถึงลูกแล้วมาเยี่ยมไม่ได้"
 
       
   ต่อมา เรื่องราวของน้องออมทรัพย์ได้รับการตีแผ่ผ่านรายการเรื่องจริงผ่านจอ ทำให้เกิดการรับรู้ในวงกว้าง ล่าสุด ปรากฏว่า มีผู้ใจบุญบริจาคเงินเข้ามามากเกิน 5 แสนบาทแล้ว ซึ่งเพียงพอสำหรับเครื่องช่วยหายใจ 1 เครื่อง โดยทีมแพทย์วิเคราะห์แล้วเห็นว่าจะให้กับน้องออมทรัพย์ก่อน เนื่องจากทางครอบครัวมีความพร้อมมากกว่า        

          ด้าน รศ.พญ.นวลจันทร์ ปราบพาล หน่วยโรคระบบหายใจ ภาควิชา กุมารเวชศาสตร์ โรงพยาบาล จุฬาลงกรณ์ ระบุว่า ในเมืองไทยมีผู้ป่วยด้วยโรคถูกสาปทั้งหมด 3 ราย คนไข้เคสแรกในเมืองไทย ชื่อ ข้าวปุ้น ปัจจุบันอายุ 18 ปีแล้ว  พ่อและแม่เขาค่อนข้างมีฐานะเลยสามารถซื้อเครื่องช่วยหายใจได้ ทุกวันนี้ เขาก็ใช้ชีวิตเหมือนคนปกติ ส่วนอีกคนคือ ชื่อน้องมิ้นต์ ด.ญ.มินตรา คำมูล อายุ 3 ขวบครึ่ง นอนอยู่เตียงใกล้กับน้องออมทรัพย์  
          "ปกติเด็กเหล่านี้ เราต้องให้เขาอยู่โรงพยาบาลถึง 3 ขวบ แต่น้องออมทรัพย์พัฒนาการค่อนข้างเร็วเลยคิดว่าเขาน่าจะกลับไปอยู่บ้านได้ก่อน 3 ขวบ แต่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจสำหรับเด็กโดยเฉพาะ สามารถใช้งานได้นาน 5 ปี ซึ่งของเด็กจะราคาแพงกว่าเด็กโตหรือของผู้ใหญ่ แต่หากน้องโตแล้วก็สามารถเปลี่ยนเป็นการผ่าตัดที่กระบังลมใส่เครื่องกระตุ้นกระบังลมในการหายใจให้ดีขึ้นได้ แต่ก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงเช่นกัน" คุณหมอ  กล่าว
 
        
  อย่างไรก็ตาม น้องมิ้นต์ ด.ญ.มินตรา คำมูล ยังคงต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล และยังรอรับการบริจาคเพื่อซื้อเครื่องช่วยหายใจต่อไป ...ทีมงานกระปุกดอทคอมขอเป็นกำลังใจให้ครอบครัวน้องมิ้นต์ และน้องออมทรัพย์ ด้วยนะคะ

          ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่สนใจจะช่วยเหลือ "น้องออมทรัพย์" สามารถบริจาคไปได้ที่บัญชีคุณแม่น้องออมทรัพย์ น.ส. นนทิญา อินต๊ะ เพื่อ ด.ญ. ฐิติญาพร วัตรเยื้อง ธ.กสิกรไทย สาขาตลาดคลองสวน เลขที่บัญชี  310-2-31383-5 และผู้ที่สนใจบริจาคซื้อเครื่องช่วยหายใจของ "น้องมิ้นท์" สามารถติดต่อบริจาคช่วยเหลือได้ที่ ธ.ไทยพาณิชย์ สาขาสภากาชาดไทย เลขที่บัญชี 045-2-94149-6 ชื่อบัญชี หน่วยกุมารเวชศาสตร์โรคระบบหายใจ
รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล และยังรอรับการบริจาคเพื่อซื้อเครื่องช่วยหายใจต่อไป ...ทีมงานกระปุกดอทคอมขอเป็นกำลังใจให้ครอบครัวน้องมิ้นต์ และน้องออมทรัพย์ ด้วยนะคะ

          ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่สนใจจะช่วยเหลือ "น้องออมทรัพย์" สามารถบริจาคไปได้ที่บัญชีคุณแม่น้องออมทรัพย์ น.ส. นนทิญา อินต๊ะ เพื่อ ด.ญ. ฐิติญาพร วัตรเยื้อง ธ.กสิกรไทย สาขาตลาดคลองสวน เลขที่บัญชี  310-2-31383-5 และผู้ที่สนใจบริจาคซื้อเครื่องช่วยหายใจของ "น้องมิ้นท์" สามารถติดต่อบริจาคช่วยเหลือได้ที่ ธ.ไทยพาณิชย์ สาขาสภากาชาดไทย เลขที่บัญชี 045-2-94149-6 ชื่อบัญชี หน่วยกุมารเวชศาสตร์โรคระบบหายใจ

รู้จัก...โรคถูกสาปหรือ Congenital Central Hypoventilation Syndrome หรือ Ondine’s Curseขอขอบคุณข้อมูลจาก
 , นิตยสาร marie claire , กระปุกดอทคอม

ชมคลิปวิดีโอคลิกที่นี่
ขอบคุณรายการเรื่องจริงผ่านจอ

 รายละเอียด

เด็กที่ป่วยเป็นโรคถูกสาป Ondine’s Curse คือ โรคที่เมื่อนอนหลับ จะหยุดหายใจ และต้องใช้ชีวิตในโรงพยาบาล โดยไม่เคยได้กลับบ้านเลย

ชื่อ ด.ญฐิติญาพร  วัตรเยื้อง   (น้องออมทรัพย์)2.  เกิดวันที่  26  กันยายน  พ.ศ 2549  อายุ  2 ปี  4  เดือน3.  ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน  5/1 หมู่1 ต.คลองนิยมยาตรา อ. บางบ่อ  จ.สมุทรปราการ  105604. บิดาชื่อนายสมเกียรติ  วัตรเยื้อง (อาชีพพนักงานบริษัท)5. มารดาชื่อน.สนนทิญา  อินต๊ะ   (อาชีพแม่บ้าน)6. สถานที่ติดต่อ  5/1 หมู่1 ต.คลองนิยมยาตรา อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ  10560 เบอร์โทรศัพท์ (มารดา) 087-301-6230  (บิดา)  086-885-4853 7.

น้องออมทรัพย์  คลอดเมื่อวันที่  26  ก.ย  49 ที่ร.พเอกชนแห่งหนึ่ง(ตามสิทธิสปส.)และถูกนำตัวส่งมารักษาต่อที่ รพ.จุฬาลงกรณ์  ทันทีในวันแรกคลอด  เนื่องจากแพทย์พบอาการผิดปกติในเรื่องระบบการหายใจ ทางแพทย์รพ. จุฬาฯได้หาสาเหตุอาการป่วยของน้องฯอยู่ระยะหนึ่ง  และท้ายสุดแพทย์ได้สรุปอาการที่น้องฯป่วย  คือคล้ายการสั่งการของสมองเวลาที่น้องหลับจะมีการแลกเปลี่ยนก๊าซคาร์บอนไดร์ออกไซด์ และออกซิเจนผิดปกติ  ทำให้มีผลต่อการพัฒนาสมองและอาจทำให้หยุดการหายใจได้(น้องมีอาการเฉพาะเวลา ที่นอนหลับเท่านั้น  เวลาที่ตื่นก็จะปกติทุกอย่าง)  แพทย์บอกว่าอาการป่วยของน้องฯ พบน้อยมากในโลกนี้

ดังนั้นการรักษาก็คือเวลาที่น้องฯนอนหลับจำเป็นที่จะต้องมีเครื่องช่วยสั่ง การแทนสมองในการหายใจ  ซึ่งระยะเวลาที่น้องฯป่วยจนถึงปัจจุบันก็  2  ปี  4  เดือน และน้องฯก็ไม่เคยได้กลับบ้านเลย (น้องจำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจในเวลานอนแพทย์ก็ไม่สามารถระบุเวลาได้ หรืออาจจะตลอดชีวิต) ขนาดนี้แพทย์แจ้งทางพ่อและแม่ว่าน้องฯสามารถกลับบ้านได้แต่จะต้องมีเครื่อง ช่วยหายใจกลับไปด้วย  ซึ่งเครื่องช่วยหายใจชนิดดังกล่าวต้องสั่งซื้อจากต่างประเทศและมีราคาค่อน ข้างแพงมาก(ราคา  500,000  บาท / เครื่อง)

รู้จัก...โรคถูกสาปหรือ Congenital Central Hypoventilation Syndrome หรือ Ondine’s Curse

รู้จัก...โรคถูกสาปหรือ Congenital Central Hypoventilation Syndrome หรือ Ondine’s Curse

น้อง ออมทรัพย์นอนเป็นคนไข้ของทาง รพ.จุฬาลงกรณ์ ณ. ตึก สก.15 G2   HN.86930 /49สอบถามข้อมูลหรืออาการป่วยเบื้องต้นจากเจ้าหน้าที่พยาบาล รพ.จุฬาฯ คือ 02-256-4915

สามารถบริจาคไปได้ที่ บัญชีคุณแม่ น้องออมทรัพย์ น.ส. นนทิญา อินต๊ะ เพื่อ ด.ญ. ฐิติญาพร วัตรเยื้อง ธ. กสิกรไทย สาขาตลาดคลองสวน เลขที่บัญชี  310-2-31383-5 เบอร์โทร คุณแม่ น้องออมทรัพย์  087-301-6230 และ ชื่อบัญชี “หน่วยกุมารเวชศาสตร์ โรคระบบหายใจ ” ธ.ไทยพาณิชย์  สาขา สภากาชาดไทย เลขที่บัญชี  045-2-941-49-6 เบอร์โทร รพ.จุฬา 02-256-4996 ต่อ 129 ถ้าต้องการรับใบเสร็จ แฟกซ์ใบโอนเงินที่เบอร์ 02-256-4911

ชมคลิปวิดีโอคลิกที่นี่
ขอบคุณสำนักข่าวไทยและ MCOT.NET

ขอส่งแรงใจช่วยคุณแม่นักสู้และน้องน่ารักเหลือเกิน คนไทยไม่ทิ้งกันค่ะ
ที่มา : https://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=470

อัพเดทล่าสุด