“การหายไปของหญ้าทะเลค่อนข้างจะชัดเจน” กล่าวโดย Kendrick “ทุกปีเราเสียประมาณ 110 ตารางกิโลเมตรของหญ้าทะเลทั่วโลก” เขาและทีมวิจัยพบว่าตั้งแต่ปี 1980 หญ้าทะเลได้หายไปถึง 29% และอัตราโดยเฉลี่ยของการลดลงได้เพิ่มขึ้นถึง 0.9% ต่อปีตั้งแต่ช่วงก่อนปี 1940 และเพิ่ม
หญ้าทะเลลดลงอย่างรวดเร็ว
จากการศึกษาใหม่พบว่า กล่า 30% ของหญ้าทะเลทั่วโลกได้หายไปหลังจากเริ่มการเก็บข้อข้อมูลครั้งแรก และอัตราการลดลงกำลังเพิ่มขึ้น ศาสตราจารย์ Gary Kendrick ซึ่งเป็นนักชีววิทยาทะเลแห่งมหาวิทยาลัย University of Western Australia ในเมืองPerth และทีมวิจัยได้รายงานผลการวิจัยในวารสาร Proceedings of the National Academy of Sciences ฉบับอาทิตย์นี้
“การหายไปของหญ้าทะเลค่อนข้างจะชัดเจน” กล่าวโดย Kendrick “ทุกปีเราเสียประมาณ 110 ตารางกิโลเมตรของหญ้าทะเลทั่วโลก” เขาและทีมวิจัยพบว่าตั้งแต่ปี 1980 หญ้าทะเลได้หายไปถึง 29% และอัตราโดยเฉลี่ยของการลดลงได้เพิ่มขึ้นถึง 0.9% ต่อปีตั้งแต่ช่วงก่อนปี 1940 และเพิ่มขึ้น 7% ต่อปีตั้งแต่ปี 1990
ในการศึกษาที่ใหญ่ที่สุดเกี่ยวกับเรื่องนี้ Kendrick และทีมวิจัยได้วิเคราะห์การศึกษา 215 งานที่เกี่ยวกับหญ้าทะเลในชายฝั่งตื้นๆ ทั่วโลก พวกเขาพบว่าหญ้าทะเลได้หายไปจากแถบตะวันออกและตะวันตกของทวีปอเมริกาเหนือ แถบแคริเบียน เมดิเตอร์เรเนียน ยุโรป บางส่วนของเอเซีย เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ แม้กระทั่งออสเตรเลียที่มีอากาศร้อนชื้น
สารจากสิ่งปฏิกูลและน้ำเสียจากการเกษตรและอุตสาหกรรมเป็นสาเหตุหลักของการตายของหญ้าทะเล กล่าวโดย Kendrickสารเหล่านั้นกระตุ้นกระเติบโตของสาหร่าย พืช และสัตว์ที่โตบนหญ้าทะเล และทำให้มันไม่ได้รับแสงอาทิตย์เพียงพอ
“ในแถบออสเตรเลียตะวันตก ในแถบ Cockburn Sound เราได้เสียหญ้าทะเลไป 80% ซึ่งกว่า 1200 เฮกเตอร์ของหญ้าทะเลหายไปในช่วงสี่สิบปีที่ผ่านมา การหายไปของหญ้าทะเลเกี่ยวข้องโดยตรงกับสารในรูปแบบไนโตรเจน” กล่าวโดย Kendrick
Kendrick กล่าวว่าอัตราการลดลงของหญ้าทะเลสามารถเปรียบเทียบได้ใกล้เคียงกับอัตราการลดลงของป่าเขตร้อนชื้น เขากล่าวว่าการศึกษายังได้พบว่าหญ้าทะเลดูดดาร์บอนไดออกไซด์ได้ใกล้เคียงกับป่าเขตร้อนชื้น และยังเป็นส่วนสำคัญของห่วงโซ่อาหารในมหาสมุทรอีกด้วย กว่า 75% ของหญ้าทะเลเป็นอาหารให้กับแบคทีเรีย ซึ่งเป็นชั้นล่างสุดของห่วงโซ่อาหารในมหาสมุทรKendrick กล่าวว่า “ที่จริงแล้วพวกมันเป็นอาหารของทั้งห่วงโซ่อาหารก็ว่าได้” เขายังกล่าวอีกว่า อีก 25% ของหญ้าทะเลถูกกินโดยตรงจากสัตว์เช่น พะยูน เต่าเขียว ปลา หอยทาก และ สัตว์น้ำที่มีเปลือกแข็ง นอกจากนี้ยังมีนกเช่น ห่านและหงส์
ทุ่งหญ้าทะเลยังสำคัญต่อการอยู่รอดของปลาที่อาศัยอยู่ในแนวปะการัง Kendrick กล่าวว่า “ดังนั้นมันมีความสัมพันธ์ที่ใกล้มากระหว่างระบบของแนวปะการังและระบบของหญ้าทะเลในเขตร้อน”
Kendrick กล่าว่าการลดลงของหญ้าทะเลก่อผลกระทบในทางลบแก่การประมงและสุขภาพของมนุษย์ผ่านการเสื่อมของระบบนิเวศวิทยา เขายังกล่าวอีกว่าหญ้าทะเลรับแรงกระทกของคลื่นที่รุนแรงให้กับพื้นที่ชายฝั่ง ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าคลื่นจะแรงขึ้นอีกจากระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น และหญ้าทะเลยังเป็นตัวกรองสำหรับสารพิษที่ถูกปล่อยออกไปในทะเลจากอุตสาหกรรมอีกด้วย ซึ่งหญ้าทะเลส่วนใหญ่ในออสเตรเลียกำลังอยู่ในภาวะลำบาก
“ในทั่วออสเตรเลีย หญ้าทะเลมีปัญหาในทุกที่ทีมีการพัฒนาท่าเรือและเมือง” เขากล่าว แต่ยังมีข่าวดีอยู่ Kendrick กล่าวต่อว่าหญ้าที่อยู่ระหว่างท่าเรือ Fremantle และท่าเรือ Cockburn ในออสเตรเลียตะวันตกได้รับการฟื้นฟูแล้ว
“โดยพื้นฐานแล้วเราทำความสะอาดกิจกรรมต่างๆ ในทางใต้ของท่าเรือ Fremantle ในปลายทศวรรษที่ 1970s” กล่าวโดยKendrick ซึ่งกำลังคิดว่านี่อาจเป็นต้นแบบสำหรับการฟื้นฟูหญ้าทะเลในอนาคตได้
“เราจะสามารถทำสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่ซ้ำได้หรือไม่?”
ที่มา https://www.abc.net.au/science/articles/2009/06/30/2611630.htm
ที่มา : https://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=1271