จระเข้น้ำเค็ม หรือ ไอ้เคี่ยม (Saltwater crocodile) มีชื่อเรียกอีกว่า Man Eater หรือ ตัวกินคน
มารู้จักสัตว์นักล่า "จระเข้น้ำเค็ม หรือ ไอ้เคี่ยม (Saltwater crocodile)" ชนิดนี้กันนะคะ
หน่วยยามฝั่งของทั้งอังกฤษและฝรั่งเศสกำลังเร่งตามล่าจระเข้น้ำเค็มตัวหนึ่งอย่างเร่งด่วน
หลังมีรายงานว่ามีผู้พบเห็นสัตว์นักล่าขนาดความยาวอย่างต่ำ 9 ฟุตตัวนี้ ในน่านน้ำบริเวณช่องแคบโดเวอร์
(Strait of Dover) ที่กั้นระหว่างทั้งสองประเทศ
การพบจระเข้น้ำเค็มสร้างความแตกตื่นให้กับผู้คนในเมืองต่างๆ ที่มีที่ตั้งอยู่ติดกับช่องแคบแห่งนี้
ซึ่งมีความกว้างเพียง 34 กิโลเมตร โดยเฉพาะหลังจากที่มีชาวฝรั่งเศส 2 รายในเมืองท่า "Boulogne"
ทางตอนเหนือของประเทศแจ้งต่อทางการว่าพบจระเข้ตัวนี้ว่ายน้ำวนไปวนมา ในบริเวณท่าเรือซึ่งอยู่
ไม่ไกลจากชายหาดยอดนิยม จระเข้ตัวนี้น่าจะหลุดออกมาจากสวนสัตว์แห่งใดแห่งหนึ่งในพื้นที่
(ที่มาไทยรัฐออนไลน์ https://www.thairath.co.th/content/oversea/105287)
นอกจากนี้องค์กรพิทักษ์สิทธิสัตว์ชื่อดัง "Opale" ยังเปิดเผยว่า การพบจระเข้น้ำเค็มบริเวณช่องแคบโดเวอร์ ถือเป็นเรื่องที่ผิดปกติอย่างยิ่ง เพราะโดยธรรมชาติแล้ว จระเข้นักล่าสายพันธุ์นี้จะอาศัยอยู่แต่เฉพาะในน่านน้ำแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินเดีย และทางตอนเหนือของออสเตรเลียเท่านั้น และแทบไม่มีความเป็นไปได้ใด ๆ ตามธรรมชาติที่จะพบเห็นจระเข้ชนิดนี้ในน่านน้ำของอังกฤษและฝรั่งเศส ซึ่งตั้งอยู่ในทวีปยุโรป นอกจากจะหลุดออกมาจากสวนสัตว์ที่อยู่แถวนั้นค่ะ
จระเข้น้ำเค็ม ที่มา youtube.com
เนื้อหาเกี่ยวข้องกับ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ทุกระดับชั้น และผู้สนใจทั่วไป
สาระที่ 2 ชีวิตกับสิ่งแวดล้อม
มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่น ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งแวดล้อมกับสิ่งมีชีวิต ความสัมพันธ์ระหว่าง สิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในระบบนิเวศ มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้และจิตวิทยาศาสตร์สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ และนำความรู้ไปใช้ประโยชน์
มาตรฐาน ว 2.2 เข้าใจความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติ การใช้ทรัพยากรธรรมชาติในระดับท้องถิ่น ประเทศ และโลกนำความรู้ไปใช้ในในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่นอย่างยั่งยืน
เรื่อง จระเข้น้ำเค็ม (Saltwater crocodile)
ชื่อ : จระเข้น้ำเค็ม
ชื่ออื่น : ไอ้เคี่ยม
ชื่อภาษาอังกฤษ : Saltwater crocodile
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Crocodylus porosus
วงศ์ : Crocodylidae
อันดับ : Crocodylia
ฉายาอื่น : " Man Eater" (ตัวกินคน)
จระเข้น้ำเค็ม หรือ ไอ้เคี่ยม (Saltwater crocodile) สัตว์เลื้อยคลานขนาดใหญ่ในอันดับจระเข้ชนิดหนึ่ง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Crocodylus porosus ในวงศ์ Crocodylidae เป็น 1 ใน 3 สายพันธุ์ของจระเข้ที่พบได้ในประเทศไทย (อีก 2 ชนิดคือ จระเข้น้ำจืด และ ตะโขง)
ลักษณะทั่วไป
คล้ายจระเข้น้ำจืด จุดที่แตกต่างกันคือ ขาคู่หลังมีลักษณะแข็งแรงกว่าขาคู่หน้าและมีเพียง 4 นิ้วมีพังผืดระหว่างนิ้วตีนมากกว่าจระเข้น้ำจืด จะงอยปากยาวและส่วนปลายค่อนข้างแหลม มีฟันประมาณ 60 ซี่ ลักษณะแตกต่างจากจระเข้น้ำจืดคือไม่มีเกล็ด 4 เกล็ดที่ท้ายทอย ปากยาวกว่าจระเข้น้ำจืดอย่างเห็นได้ชัด มีสันเล็ก ๆ ยื่นจากลูกตาไปตามความยาวของส่วนหัวจนถึงตำแหน่งของปุ่มจมูก หรือที่เรียกว่าก้อนขี้หมา สีลำตัวออกเหลืองอ่อนหรือสีขาว และมีการเรียงตัวที่ส่วนหาง ดูคล้ายตาหมากรุก ตัวผู้มีความยาวหางยาวกว่าตัวเมีย แต่ลำตัวของตัวผู้ผอมเพรียวกว่าแต่โดยรวมแล้วขนาดลำตัวของตัวเมียจะเล็กกว่าเมื่อเทียบกันตัวต่อตัว และระยะห่างของโหนกหลังตาจะกว้างกว่าหัวของตัวผู้ดูป้อมสั้น
ตัวเมียจะดูหัวยาวเรียว
ลักษณะพิเศษ
จระเข้น้ำเค็มจัดว่าเป็นสายพันธุ์จระเข้ที่มีความใหญ่ที่สุดในโลก เพราะโตเต็มที่ได้ถึง 4-5 เมตร และที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่มีการบันทึกมาคือ 9 เมตร หนักได้ถึง 450 กิโลกรัม
การกระจายพันธุ์
ตั้งแต่ภูมิภาคเอเชียใต้จนถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศออสเตรเลียทางตอนเหนือ บริเวณนอร์เทิร์น-เทร์ริทอรี
แหล่งที่อยู่
มักอาศัยอยู่ในป่าโกงกางหรือป่าชายเลนในที่ที่เป็นน้ำกร่อยหรือน้ำเค็ม
การสืบพันธุ์
ตัวผู้จะถึงวัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุ 16 ปี ตัวเมียอายุ 10 ปี แต่จะให้ไข่ที่สมบูรณ์เมื่ออายุ 12 ปี มีขนาดยาว 2.2 เมตร มีการผสมพันธุ์ในฤดูร้อนและวางไข่ในฤดูฝน ครั้งละ 25-90 ฟอง การวางไข่จะใช้เวลาประมาณ 20-25 นาที ใช้ระยะเวลาในการฟักไข่ประมาณ 80 วัน ขนาดของไข่จระเข้น้ำเค็มจะใหญ่กว่าจระเข้น้ำจืดเล็กน้อย มีน้ำหนักประมาณ 110-120 กรัม
ลักษณะนิสัย
จระเข้น้ำเค็มมีอุปนิสัยดุร้ายมาก สามารถโจมตีสัตว์ที่โดยปกติไม่ใช่อาหารได้ เช่น มนุษย์ เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบางถิ่นของออสเตรเลียที่ขึ้นชื่ออย่างยิ่งในเรื่องการโจมตีมนุษย์ของจระเข้น้ำเค็ม
การกัด
การกัดของกรามได้อย่างรุนแรงมากที่สุดในโลก โดยมีแรงมากถึง 1,700 ปอนด์ และสามารถกระโดดงับเหยื่อได้ ซึ่งไม่น่าเป็นไปได้ในสัตว์เลื้อยคลายขนาดใหญ่เช่นนี้ จนกระทั่งมีชื่อเรียกในภาษาอังกฤษว่า "Man Eater" (ตัวกินคน) ซึ่งในสวนสัตว์บางแห่งได้ใช้ความสามารถพิเศษอันนี้หลอกล่อให้จระเข้กระโดดงับเหยื่อที่แขวนล่อไว้เพื่อแสดงแก่ผู้ที่มาเยี่ยมชม
ทางอุตสาหกรรม
ในทางอุตสาหกรรม หนังของจระเข้น้ำเค็มมีคุณสมบัติเหมาะสมในการทำเครื่องหนังมากกว่าจระเข้น้ำจืด เพราะมีหนังที่เหนียวทนทานกว่า จึงนิยมเลี้ยงกันเป็นสัตว์เศรษฐกิจ แต่ทว่าด้วยความที่ต้องใช้ระยะเวลานานในการจระเข้จะโตและให้ผลผลิตที่ดีได้ จึงนิยมผสมข้ามสายพันธุ์กับจระเข้สายพันธุ์อื่นเพื่อให้ได้จระเข้ลูกผสมที่จะให้ผลผลิตที่เร็วกว่า
ได้รู้จัก จระเข้น้ำเค็ม หรือ ไอ้เคี่ยม (Saltwater crocodile) สัตว์นักล่าที่มีนิสัยดุร้าย จนมีชื่อเรียกว่าที่น่ากลัวว่า " Man Eater หรือ ตัวกินคน " กันแล้วนะคะ จะเห็นได้ว่าเป็นสัตว์ที่น่าสนใจอีกประเภทหนึ่งค่ะ
คำถาม VIP ชวนคิด
1. จระเข้น้ำเค็ม จัดเป็นสัตว์ประเภทใด
2. จระเข้น้ำเค็ม มีชื่ออื่นว่าอย่างไรบ้าง
3. จระเข้น้ำเค็ม แตกต่างจากจระเข้น้ำจืดอย่างไร
4. จระเข้น้ำเค็ม มีลักษณะพิเศษอย่างไร
5. ทำไมมีชื่อเรียก จระเข้น้ำเค็ม ว่า Man Eater หรือ ตัวกินคน
กิจกรรมเสนอแนะ
1. ให้นักเรียนสืบค้นข้อมูลเรื่องจระเข้น้ำเค็ม เพิ่มเติมจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ เช่น ห้องสมุด อินเตอร์เน็ต
2. ให้นักเรียนค้นคว้าและนำเสนอแนวทางการอนุรักษ์พันธุ์จระเข้น้ำเค็ม
3. กิจกรรมทัศนศึกษาชมชีวิตจระเข้น้ำเค็ม ที่สวนสัตว์ต่าง ๆ
การบูรณาการ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย นักเรียนเขียนเรียงความเกี่ยวกับจระเข้น้ำเค็ม
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ทำสถิติว่าประเทศใดที่พบจระเข้น้ำเค็มมากที่สุด
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ฯ นักเรียนศึกษาสภาพภูมิประเทศที่เหมาะกับการดำรงชีวิตของจระเข้น้ำเค็ม
กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี นักเรียนประดิษฐ์ตุ๊กตาจระเข้น้ำเค็ม
กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพละศึกษา นักเรียนเล่นกีฬาเพื่อให้สุขภาพแข็งแรง
กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ นักเรียนวาดภาพจระเข้น้ำเค็ม
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ นักเรียนเขียนชื่อภาษาอังกฤษของจระเข้น้ำเค็ม
ขอขอบคุณ
แหล่งข้อมูลอ้างอิงเนื้อหาและรูปภาพประกอบ ดังนี้
1. https://www.thairath.co.th/content/oversea/105287
2. https://th.wikipedia.org/wiki/จระเข้น้ำเค็ม
3. https://atcloud.com/stories/20610
4. https://www.thaibizchina.com/upload/downloads/articles/interview/2009-02-03-img03.jpg
5. https://www.thairath.co.th/media/content/2010/06/11/88807/hr1667/420.jpg
6. https://www.skitzone.com/wp-content/uploads/2010/03/australian-saltwater-crocodile01.jpg
7. https://www.deepseaimages.com/dsilibrary/data/1095/22003_1006_224812AA_1.jpg
8.https://farm3.static.flickr.com/2161/2288879819_1cdd167dd3.jpg
9. https://www.theepochtimes.com/n2/images/stories/large/2009/03/08/82623641.jpg
ที่มา : https://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=3102