" ผู้ชายที่เตี้ยสุดในโลก "

                                    มารู้จัก " ผู้ชายที่เตี้ยที่สุดในโลก " กันค่ะ   

       กินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ด (Guinness World Records) ได้ออกมายืนยันว่า " เอดวาร์ด นิโน เอร์นานเดซ "  
หนุ่มโคลอมเบีย วัย 24 ปี  คว้าตำแหน่งชายเตี้ยสุดในโลก ด้วยความสูงเพียง 70 เซนติเมตร  หนักเพียง  10 กิโลกรัม
โดยเอร์นานเดซ  หยุดการเจริญเติบโตตั้งแต่อายุ 2 ขวบ โดยที่แพทย์ไม่สามารถบอกสาเหตุความผิดปกติของเขาได้
แต่ตัวเขาเองมีความสุขมากกับ " ความพิเศษ " ที่ได้รับมาโดยเขายังหารายได้พิเศษจากการเต้นรำตามห้างสรรพสินค้า
ได้อีกด้วย   
       แต่ก็คาดการณ์กันว่านายเอดวาร์ด จะครองสถิตินี้ได้ไม่นาน เนื่องจาก คเชนธรา ฐาปะ มาการ์ จากประเทศเนปาล 
จะก้าวมาครองตำแหน่งแทนที่เขา เมื่ออายุครบ 18 ปีในเดือนตุลาคม  โดยที่ปัจจุบัน ฐาปะ มาการ์ ถูกจดบันทึกว่าเป็น 
“ วัยรุ่นที่เตี้ยที่สุดในโลก ” ด้วยความสูง  56 เซนติเมตร  
         
         
         
                                   ภาพ  " เอดวาร์ด นิโน เอร์นานเดซ " ผู้ชายที่เตี้ยที่สุดในโลก 

(ที่มาไทยรัฐออนไลน์  https://www.thairath.co.th/content/oversea/109167 )

        ในกรณีของ "เอดวาร์ด นิโน เอร์นานเดซ" เขาถือว่าความเตี้ยของเขา คือ  " ความพิเศษ"  และมีความสุข
กับสิ่งที่เขาเป็นนะคะ แต่มาดูกันว่าความสูง ความเตี้ย มีสารใดบ้างที่จะช่วยพัฒนาความสูงของเราให้เพิ่มได้บ้างค่ะ
แคลเซียมทำให้สูงได้จริงหรือ มาศึกษาเรื่องแคลเซียมกันนะคะ

เนื้อหาเกี่ยวข้องกับ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์    ทุกระดับชั้น  และผู้สนใจทั่วไป
สาระที่ 3   สารและสมบัติของสาร
มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจสมบัติของสาร   ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของสารกับโครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค  
                            มีกระบวนการสืบเสาะ หาความรู้และจิตวิทยาศาสตร์สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ นำความรู้ไปใช้ประโยชน์
มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจหลักการและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสาร การเกิดสารละลาย การเกิดปฏิกิริยา 
                            มีกระบวนการสืบเสาะ หาความรู้และจิตวิทยาศาสตร์ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ และนำความรู้ไปใช้ประโยชน์

เรื่อง  แคลเซียม (Calcium)

           ธาตุ : แคลเซียม (Calcium)
         สัญลักษณ์ธาตุ :  Ca
         เลขอะตอม : 20

          
  
          แคลเซียม (Calcium)  เป็นธาตุเคมีในตารางธาตุซึ่งมีสัญลักษณ์เป็น Ca มีเลขอะตอมเป็น 20 แคลเซียมเป็น
ธาตุโลหะหนักประเภทอะคาไลที่มีสีเทาอ่อน มันถูกใช้เป็นสารรีดิวซิ่งเอเยนต์ในการสกัดธาตุ ทอเรียมเซอร์โคเนียม 
และยูเรเนียม แคลเซียมอยู่ในกลุ่ม  50  ธาตุที่มีมากที่สุดบนเปลือกโลก มันมีความสำคัญต่อสิ่งมีชีวิตโดยเฉพาะใน
ระบบสรีระวิทยาของเซลล์และการยืดหดตัวของกล้ามเนื้อ
         แคลเซียมมีพื้นดินเป็นแหล่งรองรับจะถูกพืชดูดไปใช้เป็นประโยชน์และสัตว์กินพืชก็ได้รับสารประกอบแคลเซียม
เข้าไปด้วย เมื่อสีตว์และพืชตาย แคลเซียมก็จะกลับลงสู่ดินอีก    
    
         ประโยชน์ของแคลเซียม
         ยิปซัม และ หินปูน ใช้ในการก่อสร้าง 
         เป็นองค์ประกอบของกระดูกและฟัน 
         เป็นธาตุอาหารรองในพืช 
         
         ปัจจุบันอาหารของชาวเอเชียที่มีปริมาณแคลเซียมสูงมีเพิ่มมากขึ้น อีกทั้ง ผลิตภัณฑ์ประเภทนมและถั่วเหลือง 
ผักชนิดต่าง ๆ เช่น ถั่ว และผักชนิดต่างๆ ผลิตภัณฑ์เสริมแคลเซียม เช่น น้ำส้มคั้น และขนมขบเคี้ยวที่ทำจากธัญพืชต่าง ๆ 
ก็นับเป็นแหล่งที่หาง่ายและมีรสชาติ ที่จะช่วยให้คุณได้รับปริมาณแคลเซียมที่มีอยู่ในอาหารมากยิ่งขึ้น
                 
         แคลเซียมกับความสูง
         แคลเซียมเป็นสารอาหารชนิดหนึ่ง ช่วยในการสร้างกระดูก ทำให้กระดูกยาวขึ้น เป็นผลให้ส่วนสูงเพิ่มขึ้นและ
มีความหนาแน่นเพิ่มขึ้น ทำให้กระดูกแข็งแรง นอกจากแคลเซียมแล้ว พลังงานและโปรตีนจากอาหาร ก็เป็นส่วนสำคัญ
สำหรับการเพิ่มความสูงเช่นกัน ซึ่งร่างกายต้องได้รับอย่างเพียงพอควบคู่กันไป 

       ตัวอย่างแคลเซียมในอาหาร
        
              นมจืด                      200  มิลลิลิตร     ปริมาณแคลเซียม   246   มิลลิกรัม
             โยเกิร์ตรสต่าง ๆ        150  กรัม           ปริมาณแคลเซียม   160   มิลลิกรัม
             นมเปรี้ยวพร้อมดื่ม     180  มิลลิลิตร    ปริมาณแคลเซียม   106   มิลลิกรัม
             ปลาตัวเล็ก                   2  ช้อนโต๊ะ       ปริมาณแคลเซียม   226   มิลลิกรัม
             ปลาซาร์ดีนกระป๋อง      4  ช้อนโต๊ะ        ปริมาณแคลเซียม   198   มิลลิกรัม
             กุ้งฝอย                        1  ช้อนโต๊ะ        ปริมาณแคลเซียม   134    มิลลิกรัม
             กุ้งแห้ง                        1  ช้อนโต๊ะ        ปริมาณแคลเซียม   138   มิลลิกรัม
             เต้าหู้อ่อน                    5  ช้อนโต๊ะ        ปริมาณแคลเซียม    150   มิลลิกรัม
             ผัดผักคะน้า                 1   ทัพพี            ปริมาณแคลเซียม     71    มิลลิกรัม
             ต้มผักกาดเขียว            1  ทัพพี            ปริมาณแคลเซียม    96    มิลลิกรัม
             ต้มผักกาดขาว             1   ทัพพี            ปริมาณแคลเซียม    49     มิลลิกรัม
             ต้มผักกวางตุ้ง              1   ทัพพี           ปริมาณแคลเซียม    60     มิลลิกรัม
             ใบยอนึ่ง                      1   ทัพพี            ปริมาณแคลเซียม    87     มิลลิกรัม
             ใบกระเพรา                 3    ช้อนโต๊ะ      ปริมาณแคลเซียม     61    มิลลิกรัม

         
   แคลเซียม เป็นสารอาหารที่ช่วยในการสร้างกระดูก ทำให้กระดูกยาวขึ้น เป็นผลให้ส่วนสูงเพิ่มขึ้นได้นะคะ 
นอกจากนี้การออกกำลังกายจะช่วยเพิ่มความสูงได้ดียิ่งขึ้น แต่ถึงจะเตี้ยจะสูงถ้ามีความพอใจในสิ่งที่เป็นอยู่
เหมือน " เอดวาร์ด นิโน เอร์นานเดซ  " ผู้ชายที่เตี้ยที่สุดในโลกคนนี้ ชีวิตก็จะมีความสุขค่ะ     
        
        
คำถาม VIP ชวนคิด
 
        1.  แคลเซียมมีประโยชน์อย่างไร
        2.  แคลเซียมมีสัญลักษณ์ธาตุอย่างไร
        3.  อาหารชนิดใดบ้างที่มีแคลเซียมเป็นองค์ประกอบอยู่ด้วย
        4.  ผู้ชายที่เตี้ยที่สุดในโลกอยู่ที่ประเทศใด
        5.  แคลเซียมทำให้สูงได้อย่างไร
        
กิจกรรมเสนอแนะ

       1. ให้นักเรียนสืบค้นข้อมูลเรื่องแคลเซียม เพิ่มเติมจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ เช่น ห้องสมุด อินเตอร์เน็ต 
       2. ให้นักเรียนค้นคว้าและนำเสนอความสำคัญของแคลเซียมต่อร่างกาย

การบูรณาการ

     กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย  นักเรียนเขียนเรียงความเกี่ยวกับแคลเซียมกับความสูง
     กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์   ทำสถิติว่าในอาหารชนิดใดที่มีปริมาณแคลเซียมมากที่สุด                                  
     กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ฯ นักเรียนศึกษาสภาพภูมิประเทศแบบใดที่ควรบริโภคอาหารที่มีแคลเซียมสูง
     กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี  นักเรียนประดิษฐ์ตุ๊กตารูปมนุษย์
     กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา  นักเรียนเล่นกีฬาเพื่อให้สุขภาพแข็งแรง
     กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ           นักเรียนวาดภาพคนตัวเตี้ยที่น่ารัก
     กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ  นักเรียนเขียนชื่อภาษาอังกฤษของธาตุแคลเซียม

ขอขอบคุณ                              
แหล่งข้อมูลอ้างอิงเนื้อหาและรูปภาพประกอบ  ดังนี้
     
      1. https://www.thairath.co.th/content/oversea/109167
      2. https://th.wikipedia.org/wiki/แคลเซียม
      3. https://news.mthai.com/world-news/86285.html
      4. https://www.ku.ac.th/e-magazine/aug52/image/31.jpg
      5. https://www.rakball.net/Rakballhealth/pics/20090412315_02.jpg
      6. https://www.skn.ac.th/skl/project1/atom50/ca.jpg