ที่สุดของโลก
1 บทนำ
ใครที่ชื่นชอบความสูงเร่เข้ามา เพราะฉันจะพาไปเล่นของสูง แต่ไม่ใช่แบบเพลงเล่นของสูงของบิ๊กแอสหรอก
แต่เป็นพาไปรู้จักกับ...ที่สูงมากถึงสูงที่สุดในโลกในยุคนี้ พ.ศ.นี้ต่างหาก
2 ประเด็นจากข่าวเพื่อนำเข้าสู่เนื้อหาหลักเรื่องพื้นฐานโครงสร้างสถาปัตยกรรม
3 เนื้อหาสำหรับ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ระดับชั้นม.๓
4 เนื้อเรื่อง
สำหรับสิ่งก่อสร้างที่ฉันมองแล้วมีรูปทรงเรียวยาวแหลมสูงคล้ายจรวดแห่งนี้ เริ่มก่อสร้างขึ้นเป็นหนึ่งใน
โครงการพัฒนาขนาดยักษ์ของเมืองดูไบ เมื่อวันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2547 ออกแบบโดยเอเดรียน สมิธ
สถาปนิกชาวชิคาโก ซึ่งเป็นเจ้าเดียวกับผู้ออกแบบ วิลลิสทาวเวอร์ อาคารที่สูงที่สุดในสหรัฐอเมริกา
ที่มาภาพ https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/b/b8/Burj_Khalifa_005.JPG
เบิร์จ คาลิฟา สร้างแล้วเสร็จในวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2552 ที่ผ่านมา และทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ
ในวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2553 ที่ผ่านมา ด้วยความสูง 818 เมตร สูงกว่าอาคารไทเป 101เจ้าของสถิติเดิมถึง 309 เมตร
ถือเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลกใหม่ล่าสุดในขณะนี้ ไม่เพียงเท่านั้น เบิร์จ คาลิฟา ยังครองสถิติอาคารที่มีจำนานชั้นมากที่สุดคือ 162 ชั้นอีกด้วย
ที่มาภาพ https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/8/82/31-January-2004-Taipei101-Complete.jpg
นอกจากนี้ยังได้ทำลายสถิติหอคอยที่สูงที่สุดในโลกคือหอคอยซีเอ็นที่โทรอนโท ประเทศแคนาดา ซึ่งมีความสูง ประมาณ 553.3 เมตร และแซงหน้าสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดที่มนุษย์เคยสร้างมา นั่นคือ เสาอากาศโทรทัศน์ KVLY-TV Mast ที่สหรัฐอเมริกาด้วย และเป็นแชมป์สถิติตึกระฟ้าที่สูงที่สุดในโลกนับถึงชั้นหลังคา โดยสูงถึง 546 เมตร จากเจ้าของสถิติเดิมคืออาคารไทเป 101 ซึ่งสูง 449.2 เมตร อีกทั้งยังได้ครองสถิติปั๊มคอนกรีตทางดิ่งที่สูงที่สุดในโลก สำหรับ
การก่อสร้างอาคาร ซึ่งสูงถึง 512.1 เมตร โค้นแชม์อาคารไทเป 101 ที่เคยสูง 439.2 เมตร และยังครองสถิติปล่องลิฟต์
ที่ยาวที่สุดในโลกคือ 514 เมตร อีกด้วย
แน่นอนว่าตึกที่สูงรองลงมาก็คือ "ไทเป 101" แห่งไต้หวัน ที่สูง 509 เมตร มีจำนวนชั้นทั้งหมด 101 ชั้น ออกแบบโดย ซี.วาย. ลี สถาปนิกชาวไต้หวัน เริ่มสร้างในปี พ.ศ.2543 แล้วเสร็จและเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2547 ไทเป 101 เป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างเทคโนโลยีลดอันตรายจากแรงลมอันทันสมัยตามหลักวิทยาศาสตร์ กับการตกแต่งด้วยรูปหัวมังกรที่มุมอาคารทั้ง 4 ด้านทุกปล้องเพื่อขับไล่ภูติผีปิศาจ ตามหลักความเชื่อทางไสยศาสตร์จากคำบอกเล่าของซินแส
ที่มาภาพ https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/2/2c/SWFC_Jul08.jpg
ตึกระฟ้าสูงอันดับ 3 ของโลก คือ "เซี่ยงไฮ้เวิลด์ไฟแนนเชียลเซ็นเตอร์" ตั้งอยู่ที่นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน
ตึกแห่งนี้สูง 492 เมตร ประกอบด้วยชั้น 101 ชั้น และชั้นใต้ดินอีก 3 ชั้น สร้างในปี พ.ศ.2540-2551 ถือเป็นอาคารที่สูงที่สุดในประเทศจีน แซงหน้าอาคารจินเหมาซึ่งตั้งอยู่ใกล้เคียง
ที่มาภาพ https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/4/4e/International_Commerce_Centre_201006.jpg
ตึกอินเตอร์เนชันแนลคอมเมิร์ซเซ็นเตอร์ ฮ่องกง ลำดับ 4 เป็นตึก "อินเตอร์เนชันแนลคอมเมิร์ซเซ็นเตอร์" บนเกาลูนตะวันตก ในฮ่องกง มี 118 ชั้น สูง 484 เมตร ก่อสร้างในช่วงปี พ.ศ.2550-2553โดยที่ตั้งของตึกนี้เรียกว่า
ยูนิออนสแควร์เฟส 7 ส่วนชื่ออินเตอร์เนชันแนลคอมเมิร์ซเซ็นเตอร์นั้น ถูกประกาศอย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2548
ที่มาภาพ https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/1/12/KLCC_PetronasTowers.JPG
สำหรับตึกสูงลำดับที่ 5 และ 6 คือตึก"เปโตรนาส" ที่มีความสูง 452 เมตร จำนวน88 ชั้น ออกแบบโดย เซซาร์ เปลลี สร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ.2541 ตั้งอยู่บริเวณใจกลางย่านธุรกิจของกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เป็นอาคารแฝด
มี 2 หอคอย ได้รับแรงบันดาลใจจากเสาหินทั้ง 5 ของศาสนาอิสลาม ผสมผสานกับโครงเหล็กที่ห่อหุ้มในแต่ละจุด ทำให้เป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงามแปลกตามีสะพานเชื่อมลอยฟ้า (Sky Bridge) ในบริเวณชั้นที่ 41
5. ประเด็นคำถามเพื่อนำไปสู่การอภิปรายในห้องเรียน
5.1 คำกล่าวที่ว่า “รากฐานของตึกคืออิฐ” สื่อความหมายใดได้บ้าง
5.2 คำกล่าวที่ว่า “รากฐานของชีวิตคือการศึกษา” สื่อความหมายใดได้บ้าง
6. กิจกรรมเสนอแนะ
6.1 ให้ผู้เรียนศึกษาโครงสร้างของสถาปัตยกรรมของตึกจาก 5 อันดับที่สุดของโลก แล้วตั้งโจทย์คำถามในสิ่งที่อยากรู้
6.2 ตัวแทนผู้เรียนนำเสนอหน้าชั้นเรียน
7. การบูรณาการกับสาระวิชาอื่นๆ
ความเชื่อมโยงระหว่างกลุ่มสาระ
- สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์กับสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ(ช่างอุตสาหกรรม)
- สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์กับสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา(เศรษฐกิจพอเพียง )
- สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์กับสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา(ภูมิศาสตร์)
8. อ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูล
ที่มา https://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9530000003741
ที่มา : https://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=3869