ทฤษฎีการขยายตัวของจักรวาลนั้น พึ่งจะเป็นที่ยอมรับกันเมื่อไม่ถึงสองศตวรรษมานี้เอง ในขณะที่นักดาราศาสตร์มุสลิมผู้ที่มีชื่อเสียง ท่าน อัล บิรูนี (ค.ศ.973-1048) ได้ประจักษ์ถึงความจริงของเรื่องนี้จากอัลกุรอ่าน มานานแล้ว ดังโองการ
ทฤษฎีการขยายตัวของจักรวาลนั้น พึ่งจะเป็นที่ยอมรับกันเมื่อไม่ถึงสองศตวรรษมานี้เอง ในขณะที่นักดาราศาสตร์มุสลิมผู้ที่มีชื่อเสียง ท่าน อัล บิรูนี (ค.ศ.973-1048) ได้ประจักษ์ถึงความจริงของเรื่องนี้จากอัลกุรอ่าน มานานแล้ว
ดังโองการ
"และชั้นฟ้า เราได้สร้างมันด้วยพระหัตถ์ของเรา และแท้จริงเราได้แผ่ขยายมันออกไป" (อัลกุรอ่าน, 51:47)
คำว่า "มูซีอูน" หมายถึง "การทำให้กว้าง" "การขยาย" หรือ "ทำให้ใหญ่ไพศาล"
ศาสตราจารย์สตีเวน ฮอร์คิง(Stephen Hawking) เป็นศาสตราจารย์ลูเคเชียน ทางคณิตศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ และได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งในนักฟิสิกส์ยอดเยี่ยมที่สุดตั้งแต่ไอน์สไตน์ มาถึงปัจจุบัน ท่านได้เขียนหนังสือ เรื่อง A Brief History Of Time ที่มุ่งมั่นในการค้นหาจอกศักดิ์สิทธิ์แห่งวิทยาศาสตร์(Theory Of Everything) ได้กล่าวว่า "การค้นพบว่า จักรวาลกำลังขยายตัวเป็นปฏิวัติปัญญาความคิดอันยิ่งใหญ่แห่งศตรวรรษที่ยี่สิบ เป็นการค้นพบที่ไม่คาดถึงจริง ๆ และเปลี่ยนทิศทางการถกเถียงเรื่องการกำเนิดจักรวาลอย่างสิ้นเชิง..."
นักวิทยาศาสตร์ผู้ค้นพบทฤษฎีการขยายตัวของจักรวาลในศตวรรษที่ผ่านมา คือ เอดวิน ฮับเบิล(Edwin Hubble) พึ่งค้นพบเมื่อ ปี ค.ศ.1930 นี้เอง ได้ยืนยันความจริงด้วยกล้องโทรทัศน์ที่ทันสมัย ฮับเบิลค้นพบว่า แถบแสงสว่างสลัว ๆ หลายแห่งในท้องฟ้าที่เรียกว่า เนบิวลา จริง ๆ แล้วเป็นกาแล็กซีอื่นประกอบด้วยดาวฤกษ์ แต่อยู่ห่างจากเรามาก การที่กาแล็กซี่เหล่านี้ปรากฏให้เราเห็นเป็นสิ่งบางอย่างเล็ก ๆ และไม่ชัดเจน ก็เนื่องมาจากอยู่ไกลมาก จนกระทั่งแสงต้องใช้เวลาในการเดินทางเป็นเวลาหลายล้านปี และนี่เป็นการแสดงว่า การเริ่มต้นของจักรวาลจะต้องไม่พึ่งเริ่มต้นเมื่อหลายพันปีก่อน
แต่สิ่งที่ฮับเบิล ได้สร้างให้เกิดความตื่นเต้นแก่นักวิทยาศาสตร์คือ เอกภพทั้งหมดทุก ๆ จุดนั้นกำลังขยายตัว ซึ่งอัตราเร็วของกาแล็กซี่ที่วิ่งออกจากกันนั้นขึ้นอยู่กับระยะระหว่างกาแล็กซี่ทั้งสองเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แสดงให้เห็นว่าไม่ว่าเราจะอยู่ตำแหน่งใดในจักรวาลก็สามารถสังเกตเห็นการขยายตัวของเอกภพได้ในลักษณะเดียวกัน จากข้อเท็จจริงที่ว่าเอกภพขยายตัวนั้นชี้ให้นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าเอกภพน่าจะมีจุดเริ่มต้น
ซึ่งเป็นที่มาของทฤษฎีบิกแบง ซึ่งเริ่มพัฒนาในปี ค.ศ. 1948 นักวิทยาศาสตร์ชาวรัสเชีย จอร์ด กามอฟ (George Gamow) ซึ่งเสนอว่าภาพเอกภพเมื่อแรกกำเนิดอยู่ในสภาพที่ร้อนจัด และมีพลังงานมามายมหาศาล นอกจากนั้นกามอฟยังเสนอว่าคลื่นพลังงานที่ปลดปล่อยออกมาเมื่อครั้งเอกภพยังเริ่มต้นนั้น ยังหลงเหลืออยู่จนถึงเวลาปัจจุบัน เป็นพลังงานคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่แผ่ไปทั่วจักรวาล ซึ่งเป็นข้อสนับสนุนทฤษฎีบิกแบงได้เป็นอย่างดี
"เราจะให้พวกเขาได้เห็นสัญญาณทั้งหลายของเราในขอบเขตอันไกลโพ้นและ ในตัวของพวกเขาเอง จนกระทั่งจะเป็นประจักษ์แก่พวกเขาว่า อัลกุรอานนั้นเป็นความจริง ยังไม่พอเพียงอีกหรือ ที่พระเจ้าของเจ้านั้นทรงเป็นพยานต่อทุกสิ่ง (*1*)" (อัลกุรอ่าน, 41:53)
(1) เราจะให้พวกมุชริกีนเหล่านั้นเห็นสัญญาณต่าง ๆ ของเราและหลักฐานต่าง ๆ ของเราว่าอัลกุรอาน นั้นเป็นความจริงถูกประทานมาจากอัลลอฮฺ ในขอบเขตของชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน เช่น ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาว ต้นไม้ พืชพันธ์ และอื่น ๆ จากนั้นในความแปลกประหลาดทั้งเบื้องบนและเบื้องล่าง และความแปลกประหลาดในเดชานุภาพของอัลลอฮฺในการสร้างและการประกอบมนุษย์ จนเป็นที่ประจักษ์แก่พวกเขาว่าอัลกุรอานนั้นเป็นความจริง ยังไม่พอเพียงแก่พวกเขาอีกหรือว่า พระเจ้าของเจ้านั้นไม่มีสิ่งใดในแผ่นดินและท้องฟ้าจะซ่อนเร้นไปจากพระองค์ได้ และพระองค์ทรงสอดส่องต่อทุกสิ่งทุกอย่าง (สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ)
ขอบคุณ www.muslimthai.com