ชาวอเมริกันมากกว่าครึ่งต้องทนทุกข์ทรมานจากอาการปวดเท้า อาการเช่นนี้เรียกว่า เส้นเอ็นฝ่าเท้าอักเสบ (Plantar Fasciitis) และความเจ็บปวดนี้ก่อให้เกิดพังพืดที่เท้า...
ชาวอเมริกันมากกว่าครึ่งต้องทนทุกข์ทรมานจากอาการปวดเท้า อาการเช่นนี้เรียกว่า เส้นเอ็นฝ่าเท้าอักเสบ (Plantar Fasciitis) และความเจ็บปวดนี้ก่อให้เกิดพังพืดที่เท้า
อาการเส้นเอ็นฝ่าเท้าอักเสบเกิดจากอะไร?
-การเคลื่อนไหวซ้ำๆ-น้ำหนักตัวที่เพิ่มมากขึ้น-ความอ้วน-การตั้งครรภ์-การยืนอยู่กับที่นานๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ต้องยืนเป็นเวลานานๆ หลังเคาน์เตอร์หรือพนักงานขาย สามารถนำไปสู่การอักเสบและความเจ็บปวด วิธีป้องกันอาการเส้นเอ็นฝ่าเท้าอักเสบหรืออาการปวดส้นเท้า
อาการปวดส้นเท้าสามารถป้องกันได้โดยท่าบริหารร่างกาย และมันเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องเรียนรู้วิธีการคลายกล้ามเนื้อที่ปวดตึงเพื่อไม่ให้อาการแย่ลง
วอร์มร่างกาย
คุณต้องวอร์มร่างกายให้อุ่นขึ้นเสียก่อน ก่อนที่คุณจะออกกำลังกายหรือทำการกายภาพใดๆ เพื่อหลีกเลี่ยงอาการเจ็บปวดการออกกำลังกายในตอนเช้าเป็นวิธีที่ดีที่สุด ด้วยการเหยียดตัวเพื่อยืดข้อต่อและกล้ามเนื้อของคุณ ป้องกันการตึงของเส้นเอ็น
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายทุกวันเป็นประจำ ช่วยยืดข้อต่อและกล้ามเนื้อของคุณโดยเฉพาะส่วนขาและข้อเท้าของคุณ
รักษาน้ำหนักของคุณ
รักษาน้ำหนักของคุณอย่างสม่ำเสมอและกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
สวมรองเท้าที่เหมาะสม
ควรสวมรองเท้าที่ช่วยพยุงข้อเท้าและมีพื้นรองรองเท้าที่นุ่มสบาย อย่าเดินเท้าเปล่าหรือการออกกำลังกายเท้าเปล่า เพราะจะทำให้เกิดแรงกดบนส้นเท้าของคุณ นี่คือท่าออกกำลังกายที่ดีในการสร้างความแข็งแรงให้กับส้นเท้าของคุณ
ท่า Calf Stretches
ยื่นขาข้างหนึ่งของคุณออกไปข้างหน้าและค้างไว้ประมาณ 30 วินาที หลังตรงไม่โค้งงอ ทำซ้ำสามครั้งกับขาอีกข้าง
ท่า Toe and foot stretches
นั่งไขว้ขาและดึงนิ้วหัวแม่เท้าขึ้นมาให้สูงที่สุด ทำค้างไว้เป็นเวลา 15 วินาที และทำซ้ำสามครั้งกับขาอีกข้าง
ท่า Ankle stretches
นอนเหยียดตัวตรงและใช้ผ้าขนหนูสำหรับการออกกำลังกายนี้ โดยใส่ผ้าขนหนูเข้าไปใต้เท้าและยืดเท้าออกไปข้างหน้า ทำค้างไว้ 15-30 วินาที ทำซ้ำสามครั้งกับขาอีกข้าง
ท่า Rolling
ใช้ขวดน้ำหรืออะไรก็ได้ที่คล้ายกัน จากนั้นนั่งลงนำขวดน้ำวางไว้ใต้ฝ่าเท้าของคุณ และใช้เท้าของคุณกลิ้งวัตถุนั้นประมาณ 1 นาที
มันเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องดูแลเพราะคุณใช้เท้าของคุณอยู่ตลอดเวลา เพราะเท้าทำงานหนักอีกทั้งยังต้องแบกน้ำหนักตัวของคุณอยู่ตลอด คุณควรลดการเคลื่อนไหวซ้ำ ๆ
ถ้าเป็นนักกีฬาควรมีการยืด ผ่อนคลาย และพักบ้างระหว่างการเล่นกีฬา และสำหรับคนทำงาน ควรนั่งในท่าที่เหมาะสม มีการยืดและผ่อนคลายระหว่างการทำงาน
ดูแลเท้าและร่างกายของคุณจะช่วยป้องกันอาการปวดส้นเท้า
ที่มา www.share-si.com